บ่อยครั้งที่รู้สึกตัว และอารมณ์ต่างๆ เกิดขึ้นภายในใจ มันยิ่งทำให้เห็นว่าเราสามารถตามรู้ ตามดูสภาวะต่างๆ ได้ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์ด้านบวก หรืออารมณ์ด้านลบที่เกิดขึ้นภายในใจ สิ่งต่างๆ เหล่านี้มีหน้าที่เหมือนกันคือ ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ไม่สามารถควบคุมหรือบังคับบัญชาได้
บางทีในขณะที่ดูจิตนี้ เมื่อใจเกิดสภาวะด้านบวกขึ้นมา เมื่อสติไปรับรู้ ก็มักจะอยากให้มันเกิดขึ้นอีก อยากให้มีสติเกิดขึ้นบ่อยๆ เพราะจะได้ไม่ต้องทุกข์ หรือบางครั้งที่เกิดความทุกข์ เกิดอารมณ์ด้านลบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น อารมณ์โกรธ เคือง หงุดหงิด เสียใจ เป็นต้น ก็ไม่อยากให้เกิดอารมณ์เหล่านี้เกิดขึ้นอีก เพราะมันเป็นอารมณ์ฝ่ายลบที่อาจทำให้เราไปสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น
ผมเห็นว่าสิ่งเหล่านี้คือบททดสอบของจิตใจเรา คือ อารมณ์ต่างๆ เหล่านี้ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป แต่บ่อยครั้งเมื่อเราเกิดอารมณ์ที่ไม่ชอบใจเราก็มักจะปฏิเสธ หรือกดข่มมันไว้ไม่ให้มันแสดงตัวออกมา เพราะไม่อย่างนั้นแล้วมันจะทำให้เรากลายเป็นคนคิดไม่ดี คิดในแง่ร้ายกับคนอื่น กลายเป็นคนที่มองโลกในแง่ดีไม่ได้
ผมเป็นคนหนึ่งที่คิดว่าตัวเองไม่ค่อยโกรธใคร เวลาที่ดูใจตัวเองช่วงแรกๆ จะพบว่าตัวเองมีตัวหลงและตัวฟุ้งมากกว่าตัวอื่นๆ แต่พอดูไปเรื่อยๆ ในชีวิตประจำวันก็พบว่าในตัวเอง ยังมีตัวร้ายๆ อีกหลายตัวที่ซ่อนอยู่ ทั้งความอยาก ความโกรธ ขุ่นเคืองใจ ความรู้สึกต่างๆ เหล่านี้นี้เป็นตัวร้ายที่ผ่านเข้ามาให้ได้เห็น และเมื่อมันเกิดขึ้นแล้วก็รู้สึกเลยว่าตัวเองยังมีอารมณ์ต่างๆ เหล่านี้อีกมากมาย และเมื่อมีเหตุปัจจัยเข้ามากระทบ สิ่งต่างๆ เหล่านี้ก็จะเกิดขึ้นและดับลงไปตามกาลเวลา
ช่วงแรกๆ ที่เกิดสภาวะตัวร้ายๆ โผล่ขึ้นมา ผมมักจะไม่ชอบ จะปฏิเสธ และกดข่มมันไว้ เพราะความรู้สึกเหล่านี้อาจทำให้เรามองคนในแง่ร้ายและสามารถเห็นโลกในมุมบวกได้ แต่ทว่ายิ่งห้าม ยิ่งปฏิเสธ มันเท่าไหร่ ใจก็ยิ่งทุกข์มากขึ้นเท่านั้น ไม่สามารถที่จะผ่านมันไปได้ กลายเป็นการไปบังคับ แทรกแซงจิตใจด้วยรู้ตัว หรือบางทีแทนที่จะตามรู้ ตามดู แต่กลายเป็นทำผิด ที่ไป ตามละ ตามล้าง ตัวร้ายๆ เหล่านี้
การตามรู้ตามดู มาเกิดขึ้นเมื่อใจยอมรับความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ว่าจิตใจอารมณ์ความรู้สึกต่างๆ ที่เกิดขึ้นตามเหตุปัจจัยเมื่อผ่านมาเกิดขึ้นก็สามารถผ่านไปได้ เพียงเราทำหน้าที่แค่รู้ แค่ดู โดยไม่เข้าไปเพ่ง จ้อง หรือ ไปทำอะไรให้มันเปลี่ยนแปลงไป ความรู้สึกต่างๆ เหล่านั้นที่จิตไปรู้สึกระลึกได้ ก็ดับลง หรือหากไม่ดับก็ไม่เป็นเราเราก็เพียงรู้ว่ามันยังดำรงอยู่ หรือหากมันยังไม่หายแล้วเรารู้สึกไม่ชอบก็มารู้ทันใจปัจจุบันที่สุดที่เกิดตัวไม่ชอบนี้ขึ้นมา
ตัวร้ายๆ ที่เกิดขึ้นภายในจิตใจ เป็นอาการของจิตที่เกิด ซึ่งอาจเป็นเพราะเป็นนิสัยเดิมของจิต หรือเป็นเพราะมีเหตุปัจจัยเข้ามากระทบ และเมื่อเรารู้สึกถึงการมีอยู่ของอารมณ์ต่างๆ โดยไม่ปฏิเสธ ไม่หนี ไม่ตามละ ตามล้าง แต่แค่รู้ แค่ดู โดยไม่เพ่ง จ้อง หรือประคอง เห็นมันตามความเป็นจริง เพราะสิ่งที่เกิดเป็นอาการของจิต เป็นอารมณ์ ไม่ใช่ตัวเรา และไม่สามารถบังคับ ควบคุมได้ มีความเป็นอนัตตานี้เอง
ทั้งนี้อย่างไรก็ตามแม้ว่าเราจะเห็นตัวร้ายๆ เกิดขึ้นในใจตนเพียงใด สิ่งต่างๆ เหล่านี้ เมื่อเราเห็นมันบ่อยๆ แสดงว่าเรามีสติรู้สึกตัวได้บ่อยๆ เมื่อรู้แล้วก็จบลงที่รู้ไม่ตามไปทำอะไรเพิ่มเติม เริ่มต้นใหม่ในทุกๆ ครั้งที่รู้ ส่วนการกระทำทางกาย วาจา และท่าทีต่างๆ ก็ให้แสดงออกต่อคนอื่นด้วยความเมตตาและกรุณาต่อกัน