Skip to main content

สำหรับผมกับแฟน เราทั้งสองคบกันด้วยเหตุแห่งความศรัทธาที่มีต่อกัน ในวันที่เราเจอกันครั้งแรก แม้ไม่ได้รู้สึกอยากจะได้มาครอบครองแต่ด้วยความที่เธอเป็นวัยรุ่นคนหนึ่งที่สนใจในทางธรรม ทั้งการถือศีล และการปฏิบัติ ทำให้เราทั้งสองได้สนทนาและแบ่งปันการภาวนาของกันและกันและก็ได้คุยกันเรื่อยมา


จากวันแรกที่เจอกันมาจนถึงวันที่ต้องตัดสินใจเลือกว่าจะเอาอย่างไรต่อไปกับชีวิตดี เพราะผมเองได้แจ้งความประสงค์มาบ่อยครั้งแล้วว่าวันหนึ่งก็จะบวชเมื่อถึงเวลา ซึ่งเธอก็รับรู้เพราะเราทั้งสองได้แลกเปลี่ยนและคุยกันมาเสมอๆ ระหว่างที่คบหากัน เรายังเป็นคนหนุ่มสาว ที่หลายคนอาจจะคิดว่ามีอนาคตอีกยาวไกล และเราสองคนก็มักจะตั้งความฝันไปถึงอนาคตที่อยากจะมีความเป็นอยู่ที่ดี มีความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนยาวนาน


นอกจากนี้การปฏิสัมพันธ์กันระหว่างเราก็มีความไม่เข้าใจกันหลายอย่าง ทั้งความคาดหวังต่อการมีเวลาให้กัน ความดูแลเอาใจใส่กันและกัน และหลายอย่างที่ตามมา ภายหลังจากที่เราตกลงคบกัน สิ่งเหล่านี้ทำให้เราต่างยึดมั่นในกันและกัน ซึ่งผิดจากเดิมที่เราเองก็คุยกันและรู้สึกดีต่อกัน แต่เมื่อเวลาผ่านไปความเป็นเจ้าของเริ่มมีขึ้น ความยึดมั่น และความคาดหวังต่อกันและกันกลายเป็นการสร้างทุกข์ให้เกิดอยู่เสมอๆ


แต่สิ่งเหล่านี้ก็ผ่านมาได้ด้วยการฝึกสติภาวนาของเราทั้งสอง และการได้คุยกันด้วยความจริง และรับฟังกันอย่างลึกซึ้งเมื่อใครมีเรื่องไม่สบายใจหรือทุกข์ใจอะไร ด้วยวิถีเหล่านี้จึงทำให้เราค่อยๆ ประคับประคองกันมาและคบกันด้วยความเข้าใจ ซึ่งมันทำให้ผมได้เรียนรู้อะไรมากมายทั้งเรื่องหน้าที่ที่ควรมีต่อกันและกันและการฝึกฝนใจตัวเองให้บ่มเพาะทั้งปัญญาและกรุณา


เมื่อมีเหตุให้ต้องตัดสินใจ ว่าจะเลือกอย่างไรต่อชีวิตภายภาคหน้าเพื่อวางแผนและกำหนดเส้นทางเดินของตัวเอง เราจึงได้คุยกันและตัดสินใจที่จะยุติการเป็นแฟนของกันและกัน ให้ “สถานะ” นี้จบลง แล้วเหลือไว้เพียงความรู้สึกที่ปรารถนาดีต่อกัน ทั้งนี้เพราะหากเรายังคบกันอยู่และผมตัดสินใจไปบวช เราคงจะมีความทุกข์ใจทั้งสองฝ่าย และการจัดคุยกันเพื่อดูแลเกื้อกูลกันก็คงจะทำได้ยาก ฉะนั้นการตัดสินใจตอนนี้ก็พอมีเวลาให้เราได้เตรียมตัว เตรียมใจ และดูแลช่วยเหลือเกื้อกูลกันได้ จนถึงวันที่ต้องเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตก็จะไม่ต้องเสียใจมากกว่านี้


วันที่ตัดสินใจ เป็นวันที่ผมใช้ความกล้าหาญในใจอย่างมาก ที่จะพูดคำๆ นี้ออกไป และเธอเองก็ไม่ปฏิเสธ เพราะเราได้คุยกันบ่อยครั้ง จนเธอเองก็เตรียมใจไว้แล้วว่าวันหนึ่งถ้ามีเหตุพร้อมก็คงจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น เธอไม่ห้ามและอนุโมทนาในการตัดสินใจครั้งนี้ แม้ว่าภายหลังจากนี้ชีวิตของเราสองคนจะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ความคิด ความทรงจำเก่าๆ จากอดีตคงจะผุดขึ้นมาทำให้ใจฟุ้งซ่านและเป็นทุกข์ได้ แต่สิ่งเหล่านี้ก็เป็นสิ่งที่เราทั้งสองจะต้องก้าวผ่านบททดสอบเพื่อให้ตนเองได้เติบโตและเข้มแข็งต่อไป


การตัดสินใจครั้งนี้ ผมไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ที่รู้ ณ ตอนนี้คือ สรรพสิ่งย่อมเปลี่ยนแปลงไปเสมอตามเหตุปัจจัย สิ่งที่จะช่วยให้เราผ่านพ้นช่วงจังหวะทุกข์กระหน่ำในชีวิตได้ นั้นคือ “การวางใจ” หากเราวางใจไม่เป็นก็จะหลงไปยึดในความทุกข์นั้น ฉะนั้นการวางใจให้เป็นจะช่วงทำให้เรามีสติรับรู้ถึงความจริงต่างๆ ที่จะผ่านเข้ามา และผ่านออกไป เป็นบททดสอบในการเจริญสติของตัวเอง เพื่อให้เกิดปัญญารู้แจ้งในความจริงของชีวิต และเดินผ่านช่วงจุดเปลี่ยนสำคัญนี้ไปได้ด้วยความเมตตากรุณาต่อตนเองและคนอื่น

 

 

 

บล็อกของ พันธกุมภา

พันธกุมภา
ชีวิตนี้แสนสั้นและใจก็เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา เช้าสายบ่ายค่ำจิตใจไม่เหมือนเดิม กายก็มีทั้งสุขและทุกข์แปรปรวนไปตามธรรมดา ชีวิตแต่ละวันจึงแสนจะสั้นและดูแล้วไม่เที่ยงเอาเสียเลย จนบางครั้งรู้สึกกลัวว่าจะไม่ได้ทำอะไรก่อนที่ลมหายใจจะหมดไป จึงต้องใคร่ครวญคิดคำนึงอยู่เสมอๆ ว่าตั้งแต่เกิดมามีอะไรที่ตัวเองยังไม่ได้ทำบ้าง และก็ควรจะใช้เวลาที่เหลืออยู่ของชีวิตนี้เพื่อลงมือทำสิ่งนั้นอย่างจริงจังไม่ใช่แค่คิดและปล่อยทิ้งไว้เฉยๆ
พันธกุมภา
เร็วๆ นี้ผมและญาติธรรมกำลังร่วมกันดำเนินการจัดพิมพ์ธรรมใจไดอารี่ ฉบับธรรมทาน ซึ่งพี่ๆ ญาติธรรม ทุกๆ คน ที่ได้มาพบเจอ รู้จัก สนทนาธรรมกัน ได้ช่วยเหลือ เกื้อกูล ให้คำปรึกษา แนะนำต่างๆ มากมาย และเมื่อมีผู้เสนอให้ทำ ธรรมใจไดอารี่ขึ้น
พันธกุมภา
สำหรับผมกับแฟน เราทั้งสองคบกันด้วยเหตุแห่งความศรัทธาที่มีต่อกัน ในวันที่เราเจอกันครั้งแรก แม้ไม่ได้รู้สึกอยากจะได้มาครอบครองแต่ด้วยความที่เธอเป็นวัยรุ่นคนหนึ่งที่สนใจในทางธรรม ทั้งการถือศีล และการปฏิบัติ ทำให้เราทั้งสองได้สนทนาและแบ่งปันการภาวนาของกันและกันและก็ได้คุยกันเรื่อยมา
พันธกุมภา
วันธรรมดาวันหนึ่ง ชีวิตประจำวันก็ผ่านไปด้วยเหตุปัจจัยเหมือนเดิม มีประชุม ทำค่าย อบรม เดินทางจัดกิจกรรมตามจังหวัดต่างๆ ได้เจอผู้คนมากหน้าหลายตา มีโอกาสได้สนทนากันตามเรื่องราวที่แตกต่างกันไป แต่ข้างในใจกลับเต็มไปด้วยความเฉื่อยชา เบื่อหน่าย ไม่ค่อยมีความสุขเท่าใดนัก
พันธกุมภา
การได้สังเกตจิตใจของตัวเองตามความเป็นจริงตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา พบว่าจิตใจนี้มีธรรมชาติแปรเปลี่ยนไปมาตามเหตุปัจจัยเงื่อนไขชีวิต แล้วยังมีปกติไหลลงสู่ที่ต่ำ ไปสู่ความอยากได้ อยากดี อยากมี อยากเป็น ความโกรธ ขุ่นเคือง หงุดหงิด ความไม่รู้เนื้อรู้ตัว ขาดสติ เผลอหลงใหลไปกับโลกของความคิดและสิ่งภายนอกใจ
พันธกุมภา
คำอวยพรจากเพื่อนๆ พี่น้อง หลายๆ คน ส่งมายังผมหลายฉบับ ทำให้เกิดความปีติยินดี ที่ได้รับคำอวยพรอย่างยิ่ง และผมก็ได้ตอบกลับไปยังเพื่อนๆ พี่น้อง ทั้งที่ส่งมาและไม่ได้ส่งมา อีกหลายๆ คน การให้พรจึงเสมือนเป็นการให้กำลังใจและบอกให้กันและกันรู้ว่ายังคงระลึกถึงกันอยู่เสมอ
พันธกุมภา
บ่อยครั้งที่การเจริญสติของใครหลายคนติดอยู่กับอารมณ์คือหลงไปแช่อยู่กับอารมณ์นานจึงทำให้เกิดการเผลอยึดมั่นในอารมณ์นั้น กลายเป็นติดหลุม เผลอลงไปแช่ จะรู้สึกมัวๆ หรือเผลอไปแทรกแซง จนยากยิ่งนักที่จะรู้สึกตัวทัน ทั้งนี้ครูบาอาจารย์ท่านแนะไว้ว่าอาจเป็นเพราะจิตยังไม่ถึงฐานหรือจิตยังไม่ตั้งมั่น
พันธกุมภา
  ในการภาวนาบ่อยครั้งนักที่ผมมักจะได้ยินคนอื่นๆ มาเล่าให้ฟังทำนองว่า สถานที่นี้ไม่ดีเลย ไม่เหมาะที่จะภาวนาเลย เสียงก็ดัง คนก็เยอะ ไม่มีที่ ไม่มีทางเดินจงกรมหรือนั่งปฏิบัติเลย เพราะมองว่าการที่จะภาวนาได้นั้นจะต้องไปในสถานที่ที่มีรูปแบบ เช่น มีทางให้เดินจงกรม มีเบาะให้นั่งภาวนา เป็นต้น
พันธกุมภา
ปลายเดือนตุลาคม 2552 นี้ ผมได้มีโอกาสไปภาวนากับพี่ๆ ญาติธรรมเชียงใหม่ ที่สำนักสงฆ์ถ้ำผาปล่อง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ซึ่งพวกเราไปกัน 4 คน ได้แก่ พี่เอ้ พี่ยา พี่นา และผม ซึ่งผมรู้จักพี่ๆ ผ่านทางการสนทนาในอินเตอร์เน็ตและทุกๆ คนก็ภาวนาในแนวดูจิตเหมือนๆ กัน
พันธกุมภา
บ่อยครั้งที่รู้สึกตัว และอารมณ์ต่างๆ เกิดขึ้นภายในใจ มันยิ่งทำให้เห็นว่าเราสามารถตามรู้ ตามดูสภาวะต่างๆ ได้ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์ด้านบวก หรืออารมณ์ด้านลบที่เกิดขึ้นภายในใจ สิ่งต่างๆ เหล่านี้มีหน้าที่เหมือนกันคือ ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ไม่สามารถควบคุมหรือบังคับบัญชาได้
พันธกุมภา
ในแต่ละวันชีวิตคนเราก็มีเวลา 24 ชั่วโมง เหมือนกัน ไม่มีใครมีเวลามากหรือน้อยไปกว่ากัน ทว่าอยู่ที่ว่าใครจะจัดสรรเวลาให้กับตัวเองมากน้อยเพียงใด ทั้งเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว และอื่นๆ อีกมายมาย ซึ่งการจัดระดับความสำคัญของภารกิจระหว่างวันแต่ลัอย่างนื้ถือเป็นเรื่องที่ช่วยให้วันแต่ละวันผ่านไปอย่างมีคุณประโยชน์
พันธกุมภา
โดยปกติแล้ว ผมมักจะเป็นคนที่ไม่ชอบอยู่กับที่ เป็นคนที่ชอบเคลื่อนไหวตัวเองไปๆ มาๆ ดังนั้นการเจริญสติด้วยการรู้สึกที่กายและใจเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงไปมานี้ จึงเป็นการภาวนาที่ทำให้ผมถนัดและสามารถรู้สึกตัวได้บ่อยที่สุด