Skip to main content

เมื่อเดือนแปดตามจันทรคติมาถึง “ลมหัวษา” (ลมต้นฤดูพรรษา) โหมแรงมาทางตะวันตกเฉียงใต้ พัดจีวรและผ้าอาบน้ำฝนใหม่ของพระหนุ่มแรกพรรษาและพระเก่าหลายพรรษาพลิ้วลมอยู่ไหวๆ ลมช่วงนี้อาจพัดแรงไปจนถึงปลายเดือนเก้าที่ “ลมออก” พัด “ฝนนอก” (มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ) ห่าใหญ่มาเติมทะเลสาบสงขลา (ที่มีพื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในจังหวัดพัทลุง) อีกครั้ง

ตอนผมยังเด็กกว่านี้
(เมื่อสองสามปีก่อน.....ฮา) ผ้าเหลืองบนกุฏิไหวลมไม่เคยสวยเท่าตอนนี้มาก่อน แม้ครอบครัวของผมจะคุ้นชินกับผ้าเหลือง (จีวร) เพราะ “พ่อเฒ่า” (ตา) ของผมบวชครองผ้าเหลืองมาตั้งแต่วัยหนุ่มใหญ่จนปลิดลมหายใจชราของชีวิตสิ้นไปเมื่อสิบกว่าปีก่อน ทิ้งลูกหลานที่เคยติดสอยห้อยตามหิ้วปิ่นโตฝากตัวเป็นศิษย์วัดและเฝ้าทะนุถนอมยามสังขารชำรุดร่วงโรยให้คำนึงถึงอยู่เบื้องหลัง


กระนั้นก็ตาม เราจึงรู้กันดีว่า นอกจากฤดูพรรษาจะพัดเอาส่วนบุญที่เหล่า “ข้าพเจ้าทั้งหลาย” น้อมถวาย ทั้งภัตตาหารและเครื่องสังฆภัณฑ์เหล่านั้นสู่วัดไปทั่วมุมเมืองแล้ว “ลมหัวษา” ยังพัดเอาอาหารสุดโปรดตามฤดูกาลของเด็ก ๆ มาด้วย และแน่นอนว่าอาหารสุดโปรดของพวกเขาไม่ใช่ “ลูกไม้” (ผลไม้) หลากชนิดที่ชิงสุกและห่ามพร้อม ๆ กันจนเต็มต้นและเต็มตลาด พาลไปจนสุกและห่ามกันเต็มวัดจนเป็นเหตุให้เด็ก ๆ เบื่อสีแดงของ “ลูกผมเงาะ” (เงาะ) ไปเสียกระนั้น


12_9_01  12_9_03


ย่าของผมเล่าให้ฟังว่า ก่อนนี้ไม่มีไออุ่นใดผิง “ลมหัวษา” ได้อุ่นดีแท้เท่ากับไฟ “หลามเหนียว” (หุงข้าวเหนียวหลาม) และไฟคั่ว “ตอก” (ข้าวตอก)ไปได้ และแน่นอนว่าไฟอุ่นจากรางไฟ “หลามเหนียว” และ “คั่วตอก” มักเรียกเด็ก ๆ ให้ออกจากบ้านได้อย่างมีนัยสำคัญมากกว่าการเล่นกองไฟในลมเย็น สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เด็กๆ รอคอยให้มาถึงไม่แพ้การรอคอยงานประจำปีในตัวจังหวัดเสียกระนั้น


เมื่อลมเย็นจากไอ “ฝนหัวษา” (ต้นพรรษา) พลิ้วผ่านในเสียงหัวเราะของความสุขซึ่งเป็นกิจกรรมและเส้นทางบุญ เพราะทั้ง “เหนียวหลาม” และ “ตอก” ล้วนเป็นของดีถวายพระในฤดูพรรษาของลุ่มทะเลสาบมายาวนานนับแต่การเดินทางมาถึงของความเจริญรุ่งเรื่องในพระพุทธศาสนา ณ ถิ่นแหลมทองแห่งนี้


ซึ่งในความเชื่อของบรรพบุรุษรอบลุ่มทะเลสาบ ทั้ง “เหนียวหลาม” “ข้าวตอก” และ “ดอกไม้” ล้วนมีนัยสำคัญของสัญญะที่เป็นตัวแทนของเครื่องบูชาพระพุทธศาสนาม่ใช่เฉพาะในพื้นที่รอบลุ่มทะเลสาบเท่านั้น หากยังมีกว้างออกไปยังถิ่นอื่นเพียงแต่จะได้รับความนิยมของเหล่าพุทธบริษัท อุบาสก อุบาสิกาของตามแต่ละพื้นที่และวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมา


12_9_02


นอกจากอะไรทั้งหมด ของดีถวายพระในฤดูพรรษาของลุ่มทะเลสาบจึงมักเป็นของดีของเด็ก ๆ และบรรดาศิษย์วัดทั้งรุ่นเก่าและรุ่นเก๋าไปโดยปริยาย “เหนียวหลาม” และ “ตอก” จึงถูกให้ความสำคัญก่อน “ลูกผมเงาะ” ที่แดงเกลื่อนในโรงฉันทั้งเวลาเช้าและเวลาเพลรวมถึงกับข้าวกับปลา ไม่ว่าจะเป็น “แกงวัว” “แกงไก่กับหยวกกล้วย” รวมถึง “แกงลูกปลา” และอาหารยอดนิยมอื่นๆ ของลุ่มทะเลสาบ แม้ในทุกวันนี้ที่ “เหนียวหลาม” มีให้กินกันทุกฤดูที่น้ำไม่ “พะ” (น้ำนอง) แล้วก็ตามที

ทุ่งลานโย ในฤดูพรรษา

สิงหาคม ๒๕๕๑



 

บล็อกของ ปรเมศวร์ กาแก้ว

ปรเมศวร์ กาแก้ว
ผมอยากกล่าวถึงพรรคการเมืองผมอยากกล่าวถึงพรรคการเมือง……พ ร ร ค ก า ร เ มื อ ง
ปรเมศวร์ กาแก้ว
ปรเมศวร์ กาแก้ว
ครอบครัวเราก็เคยมีสวนยาง
ปรเมศวร์ กาแก้ว
 โอกาสดีที่ผมได้กลับมาราไวย์ และภูเก็ตอีกครั้งหนึ่งหลังจากห่างหายภูเก็ตมาหลายปี
ปรเมศวร์ กาแก้ว
  เมื่อพบปีกบาง ๆ ที่ฉันทำหล่นหายไป แววตาฉันยิ้ม และเหมือนฉันได้ชุบหัวใจ ให้พบกับท้องฟ้าสดใสอีกครั้ง เป็นวันพิเศษ ที่จะได้พบเจ้าดอกไม้  ได้ตามหาทุกเวลาที่หล่นหายไป เป็นปีกบาง ๆ อันแสนวิเศษ มีเธอเคียงข้าง อันตรายใดเล่าจะยั่งยืน ต่อจากนี้ไป ฉันจะดูแลเธอด้วยรัก จะปกป้องและเป็นที่ยึดเหนี่ยวให้เธอเอง เธอเป็นปีกบาง ๆ อันแสนวิเศษ เป็นหนึ่งเดียวมาตราบทุกคืนวัน มิอาจผันแปรเป็นอื่น ฉันจะไม่ทำให้เธอหล่นหายอีก ฉันสัญญา แมลงปอตัวน้อยอย่างฉัน จะดูแลเธออย่างดี เพราะเธอเป็นปีกบาง ๆ อันแสนวิเศษ     ดาลใจจากบทกวีของน้องสาว "ann5111113010" ใน "yos jazz"
ปรเมศวร์ กาแก้ว
ฉันจะยอมรับทุกอย่างไว้คนเดียว จะไม่ยอมให้เธอทนทุกข์  หวังเพียงให้เธอต่อสู้กับโชคชะตาที่เล่นตลกกับเรา และปลดปล่อยความเศร้าทิ้งไป คิดหรือว่าฉันปรารถนาความปวดร้าว คนอื่นต่างตั้งความหวังกับฉันและเธอ ใครบ้างอยากผิดหวังซ้ำ ไม่เลย.... ยามเธอโอบกอดฉัน...ฟ้าก็สดใส เมฆขาวชุ่มเย็นในสายลม ฉันไม่เคยเจออย่างนี้ แม้พรุ่งนี้มีอะไรให้ต้องคิด เธอก็จะพาฉันกางปีกบินไป ให้ฉันรู้จักชีวิต ให้ฉันลืมความโศกเศร้าปวดร้าว ในนาทีอันยาวนาน...ไม่มีวันหวนคืน เพราะนั่นคือเรา อะไรก็ไร้ความหมายเมื่อเราต้องเดินคนละทาง เธอบอกเองว่าฉันเป็นใคร แม้ฉันจะไม่ยอมแพ้....เธอก็เหมือนกัน สุขใจที่เคยพเนจรไปด้วยเธอ ฉันรู้,…
ปรเมศวร์ กาแก้ว
                                                                ดอกหญ้าแห่งเกาะโคบ วันแดดโอบลมรื่นรวยแต่งริ้วบานกรีบสวยชูดอกชื่นระรื่นลม ดอกหญ้ากลางทะเลอวยเสน่ห์ดูน่าชมชวนแมลงมาดอมดมต่อความงามสะพรั่งงาม …
ปรเมศวร์ กาแก้ว
ไก่แจ้สีขาวขันคำ               เหนือยุ้งเก่าคร่ำบอกกาลนานสมัยรุ่งแล้วเจื้อยแจ้วแว่วไกล      ปลุกชีวิตให้ตื่นพบวิถีครรลองชาวนาทำนาช่ำชอง             เรียบง่ายเรืองรองหาผักหาปลาปรุงกินหว่านกล้าเป็นข้าวแต่งดิน      หล่อเลี้ยงชีวินช่วยเก็บช่วยเกี่ยวผลพันธุ์สืบทอดวิถีแบ่งปัน               แต่โบราณอันเกื้อกูลน้ำมิตรน้ำใจจึงมีข้าวเหลืองอำไพ  …
ปรเมศวร์ กาแก้ว
ในวันที่ฝนเดือนห้ากำลังโหมแรงไปทั่ว ละอองฝนชุ่มหลงฤดูอาจทำให้ผู้เฒ่าแห่งหมู่บ้านรู้สึกได้ว่า องค์ความรู้เรื่องฤดูกาลและช่วงเวลา "ฝนแปดแดดสี่" ตามลักษณะภูมิประเทศคาบสมุทรของภาคใต้ได้คลาดเคลื่อนไปบ้างแล้ว ด้วยเพราะทางเดินของลมฝนทั้ง 2 ฝั่งทะเล (โดยภาวะปกติแล้ว ภาคใต้และลุ่มทะเลสาบจะมีฤดูฝนยาว 8 เดือน ต่อด้วยฤดูร้อน 4 เดือนในรอบ 1 ปี) ที่ถ่ายทอดกันมาจากคนรุ่นก่อนแปลกหูแปลกตาไปจากอดีตบ้างแล้ว