ฉันจะยอมรับทุกอย่างไว้คนเดียว
จะไม่ยอมให้เธอทนทุกข์
หวังเพียงให้เธอต่อสู้กับโชคชะตาที่เล่นตลกกับเรา
และปลดปล่อยความเศร้าทิ้งไป
คิดหรือว่าฉันปรารถนาความปวดร้าว
คนอื่นต่างตั้งความหวังกับฉันและเธอ
ใครบ้างอยากผิดหวังซ้ำ
ไม่เลย....
ยามเธอโอบกอดฉัน...ฟ้าก็สดใส
เมฆขาวชุ่มเย็นในสายลม
ฉันไม่เคยเจออย่างนี้
แม้พรุ่งนี้มีอะไรให้ต้องคิด
เธอก็จะพาฉันกางปีกบินไป
ให้ฉันรู้จักชีวิต
ให้ฉันลืมความโศกเศร้าปวดร้าว
ในนาทีอันยาวนาน...ไม่มีวันหวนคืน
เพราะนั่นคือเรา
อะไรก็ไร้ความหมายเมื่อเราต้องเดินคนละทาง
เธอบอกเองว่าฉันเป็นใคร
แม้ฉันจะไม่ยอมแพ้....เธอก็เหมือนกัน
สุขใจที่เคยพเนจรไปด้วยเธอ
ฉันรู้,แม้โลกวุ่นวายเพียงใดก็มิอาจชนะพลังของความรัก
ยามเธอโอบกอดฉัน...ฟ้าก็สดใส
สวรรค์ห่างไกลเหลือเกิน
**************
ผมหยิบบทรำพึงนี้มาอ่านซ้ำหลังจากเก็บไว้ในหนังสือเล่มเก่า เผื่อเป็นแรงดาลใจให้ใครได้บ้างครับ
ความเห็น
พลังแห่ง
พลังแห่งรัก ใคร่ มันมีพลังบัญชาให้เราทำอะไรได้ทุกๆอย่าง...
วันเวลาเหล่านั้นคงผ่านพ้นไปแล้วนะเมศ
และมันคงทำให้อะไรๆในชีวิตของเราได้มองเห็นเมื่อย้อนมอง...
อยู่ม.ทักษิณเป็นงัยบ้าง คงสุขสบายดีตามอัตภาพนะ
ว่างๆจะแวะไปเยี่ยมเยียน หรือแวะมาฝั่งประนี้บ้างก็ยินดี
ครับผม...ท
ครับผม...ท่าน จรดล มาเป็นหินเหล็กไฟ (ไม่รู้หมายถึง "ไม้ขีด" หรือเปล่า) เลยนะ ว่าง ๆ มานะครับ มากินกาแฟกันฝั่งนี้
ไอ้ผมก็เป็นอยู่ไปตามสภาพครับ สุข_ทุกข์ ปนกันบ้างเป็นธรรมดาของชีวิต
ฝากความคิดถึงพี่ๆ ทุกคนครับ
รัก ทำให้
รัก ทำให้คนเป็นผู้ให้
รัก ทำให้ชุ่มฉ่ำหัวใจ
รัก มีพลังเหนือสิ่งใด
รัก ทำให้มี "เรา"
ลมที่ทุ่งลานโยคงพัดให้ชื่นใจเหมือนที่เคยๆนะคะพี่เมศวร์
ครับผมน้
ครับผมน้องแพง ลมที่นี่ยังดีอยู่ครับ ยังพัดเกษรดอกไม้ปลิวได้อยู่