Skip to main content
ในวันที่ฝนเดือนห้ากำลังโหมแรงไปทั่ว ละอองฝนชุ่มหลงฤดูอาจทำให้ผู้เฒ่าแห่งหมู่บ้านรู้สึกได้ว่า องค์ความรู้เรื่องฤดูกาลและช่วงเวลา "ฝนแปดแดดสี่" ตามลักษณะภูมิประเทศคาบสมุทรของภาคใต้ได้คลาดเคลื่อนไปบ้างแล้ว ด้วยเพราะทางเดินของลมฝนทั้ง 2 ฝั่งทะเล (โดยภาวะปกติแล้ว ภาคใต้และลุ่มทะเลสาบจะมีฤดูฝนยาว 8 เดือน ต่อด้วยฤดูร้อน 4 เดือนในรอบ 1 ปี) ที่ถ่ายทอดกันมาจากคนรุ่นก่อนแปลกหูแปลกตาไปจากอดีตบ้างแล้ว


กระนั้นก็ตาม แม้ฤดูกาลของลุ่มทะเลสาบมีอันเปลี่ยนแปลงไปบ้างตามแรงเหวี่ยงของยุคสมัยซึ่งนำพาความเสื่อมโทรมทางกายภาพมาสู่คาบสมุทรแห่งนี้ตามที่เหล่านักวิชาการทั้งหลายร่วมแต่งคำพูดสวย ๆให้ผู้คนทั่วโลกพูดตรงกันว่า "สืบเนื่องมาจากภาวะโลกร้อน"ในขณะที่น้ำยังบ่านองทุ่งข้าวนาปรัง


อย่างไรก็ดีเหล่าผู้เฒ่าของลุ่มทะเลสาบก็คงไม่อาจรับรู้หรือเข้าถึงทฤษฎี "ภาวะโลกร้อน" ของบรรดาเหล่านักวิชาการดังกล่าวได้อย่างเข้าอกเข้าใจ


ถึงแม้ในวันที่สัดส่วนฤดูกาลของชุมชน "รอบลุ่ม"(ทะเลสาบสงขลา) ถูกแย่งชิงไปบ้าง รอบลุ่มก็ยังอุดมไปด้วยทรัพยากรตามภูมิศาสตร์ พืชพันธุ์ยังแตกกิ่งบานดอกสะพรั่งไปทั่ว โดยเฉพาะ "ดอกโดน" ที่บานอยู่ในหัวใจผมมาช้านาน


อาจกล่าวได้ว่า ปัจจุบันความหลากหลายทั้งของทรัพยากรหรือแม้แต่วัฒนธรรมดั้งเดิมในพื้นที่รอบลุ่มได้ลดจำนวนลงจนบางอย่างสูญพันธุ์(ปลาและสัตว์ป่าอื่น ๆ บางชนิด) หรือสูญหาย(การละเล่นและศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นบางอย่าง) ไปจากท้องถิ่นแล้ว จึงไม่แปลกที่เด็ก ๆ บางพื้นที่ไม่อาจรู้จัก "ราก" ของตัวเอง


ทั้งนี้ไม่อาจเฉพาะเป็นผลพวงจากภาวะโลกร้อนหรือภาวะเรือนกระจกดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นเพียงอย่างเดียวแต่อย่างใด

 

กลับมาที่เรื่อง "ฝนแปดแดดสี่"


อธิบายกันง่าย ๆ ว่า นับไปตั้งแต่เดือนหกจนถึงเดือนอ้าย(ช่วงเดือนพฤษภาคม-ธันวาคม โดยประมาณ) ช่วงนี้ลมมรสุมพัดผ่านตลอดภาคใต้ ทั้งลมฝั่ง "ท่าตก"(ลมตะวันตก) และลมฝั่ง "ท่าออก"(ลมตะวันออก ส่วนอีกสี่เดือนเดือนยี่ถึงเดือนห้า(ช่วงเดือนมกราคม-เมษายน) นั้นนับว่าร้อน "ตับแตก" ก็ว่าได้


เหตุผลดังกล่าวจึงยังประโยชน์ให้ลุ่มทะเลสาบสงขลาและภาคใต้อุดมสมบูรณ์มายาวนาน


เดือนห้าตามจันทรคติ(ช่วงเดือนเมษายน) ยังทำให้ผมนึกถึงในวันเป็นเด็ก ที่มีว่าวหลากสีโฉบอยู่เกลื่อนฟ้าและวันเปิดเทอม อากาศร้อน และแน่นอนเทศกาล "วันว่าง" มหาสงกรานต์ของชาวใต้ งานวัดและวันขอพรจากญาติผู้ใหญ่ โดดน้ำคลองและอาบน้ำแม่เฒ่า(ยาย)และอาบน้ำให้ย่า


แต่ในปีที่ฝนเดือนห้ากำลังโหมแรงไปทั่ว น้ำท่วมทุ่งและเอ่อล้นสองฝั่งคลอง อย่าว่าแต่เด็ก ๆ ที่ไม่กล้าแม้เข้าใกล้สายห้วย-สายคลองเลย ว่ายาวไปถึงชาวนาที่หว่านกล้าใหม่ไปแล้วสองรอบ(รอบแรกน้ำท่วมพัดเมล็ดกล้าไปหมดตั้งแต่กล้ายังไม่ขึ้นเสียด้วยซ้ำ) ก็ยังขยาดเจ้าฝนเดือนห้าชุดนี้เสียจนจับต้นชนปลายไม่ถูกไปตาม ๆ กัน ว่างั้นเหอะ......


ปล. ตามคำโบราณที่ว่า "ฝนแปดแดดสี่" นั้น เมื่อนำมาใช้กับปีนี้แล้วอาจตอบคำถามแทน "องค์พระพิรุน" ได้ว่า "กำหนดการอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม" ฮา...

 

ในมรสุมเดือนห้า / ทุ่งลานโย / พัทลุง

เมษายน 2552

 

 

บล็อกของ ปรเมศวร์ กาแก้ว

ปรเมศวร์ กาแก้ว
ผมอยากกล่าวถึงพรรคการเมืองผมอยากกล่าวถึงพรรคการเมือง……พ ร ร ค ก า ร เ มื อ ง
ปรเมศวร์ กาแก้ว
ปรเมศวร์ กาแก้ว
ครอบครัวเราก็เคยมีสวนยาง
ปรเมศวร์ กาแก้ว
 โอกาสดีที่ผมได้กลับมาราไวย์ และภูเก็ตอีกครั้งหนึ่งหลังจากห่างหายภูเก็ตมาหลายปี
ปรเมศวร์ กาแก้ว
  เมื่อพบปีกบาง ๆ ที่ฉันทำหล่นหายไป แววตาฉันยิ้ม และเหมือนฉันได้ชุบหัวใจ ให้พบกับท้องฟ้าสดใสอีกครั้ง เป็นวันพิเศษ ที่จะได้พบเจ้าดอกไม้  ได้ตามหาทุกเวลาที่หล่นหายไป เป็นปีกบาง ๆ อันแสนวิเศษ มีเธอเคียงข้าง อันตรายใดเล่าจะยั่งยืน ต่อจากนี้ไป ฉันจะดูแลเธอด้วยรัก จะปกป้องและเป็นที่ยึดเหนี่ยวให้เธอเอง เธอเป็นปีกบาง ๆ อันแสนวิเศษ เป็นหนึ่งเดียวมาตราบทุกคืนวัน มิอาจผันแปรเป็นอื่น ฉันจะไม่ทำให้เธอหล่นหายอีก ฉันสัญญา แมลงปอตัวน้อยอย่างฉัน จะดูแลเธออย่างดี เพราะเธอเป็นปีกบาง ๆ อันแสนวิเศษ     ดาลใจจากบทกวีของน้องสาว "ann5111113010" ใน "yos jazz"
ปรเมศวร์ กาแก้ว
ฉันจะยอมรับทุกอย่างไว้คนเดียว จะไม่ยอมให้เธอทนทุกข์  หวังเพียงให้เธอต่อสู้กับโชคชะตาที่เล่นตลกกับเรา และปลดปล่อยความเศร้าทิ้งไป คิดหรือว่าฉันปรารถนาความปวดร้าว คนอื่นต่างตั้งความหวังกับฉันและเธอ ใครบ้างอยากผิดหวังซ้ำ ไม่เลย.... ยามเธอโอบกอดฉัน...ฟ้าก็สดใส เมฆขาวชุ่มเย็นในสายลม ฉันไม่เคยเจออย่างนี้ แม้พรุ่งนี้มีอะไรให้ต้องคิด เธอก็จะพาฉันกางปีกบินไป ให้ฉันรู้จักชีวิต ให้ฉันลืมความโศกเศร้าปวดร้าว ในนาทีอันยาวนาน...ไม่มีวันหวนคืน เพราะนั่นคือเรา อะไรก็ไร้ความหมายเมื่อเราต้องเดินคนละทาง เธอบอกเองว่าฉันเป็นใคร แม้ฉันจะไม่ยอมแพ้....เธอก็เหมือนกัน สุขใจที่เคยพเนจรไปด้วยเธอ ฉันรู้,…
ปรเมศวร์ กาแก้ว
                                                                ดอกหญ้าแห่งเกาะโคบ วันแดดโอบลมรื่นรวยแต่งริ้วบานกรีบสวยชูดอกชื่นระรื่นลม ดอกหญ้ากลางทะเลอวยเสน่ห์ดูน่าชมชวนแมลงมาดอมดมต่อความงามสะพรั่งงาม …
ปรเมศวร์ กาแก้ว
ไก่แจ้สีขาวขันคำ               เหนือยุ้งเก่าคร่ำบอกกาลนานสมัยรุ่งแล้วเจื้อยแจ้วแว่วไกล      ปลุกชีวิตให้ตื่นพบวิถีครรลองชาวนาทำนาช่ำชอง             เรียบง่ายเรืองรองหาผักหาปลาปรุงกินหว่านกล้าเป็นข้าวแต่งดิน      หล่อเลี้ยงชีวินช่วยเก็บช่วยเกี่ยวผลพันธุ์สืบทอดวิถีแบ่งปัน               แต่โบราณอันเกื้อกูลน้ำมิตรน้ำใจจึงมีข้าวเหลืองอำไพ  …
ปรเมศวร์ กาแก้ว
ในวันที่ฝนเดือนห้ากำลังโหมแรงไปทั่ว ละอองฝนชุ่มหลงฤดูอาจทำให้ผู้เฒ่าแห่งหมู่บ้านรู้สึกได้ว่า องค์ความรู้เรื่องฤดูกาลและช่วงเวลา "ฝนแปดแดดสี่" ตามลักษณะภูมิประเทศคาบสมุทรของภาคใต้ได้คลาดเคลื่อนไปบ้างแล้ว ด้วยเพราะทางเดินของลมฝนทั้ง 2 ฝั่งทะเล (โดยภาวะปกติแล้ว ภาคใต้และลุ่มทะเลสาบจะมีฤดูฝนยาว 8 เดือน ต่อด้วยฤดูร้อน 4 เดือนในรอบ 1 ปี) ที่ถ่ายทอดกันมาจากคนรุ่นก่อนแปลกหูแปลกตาไปจากอดีตบ้างแล้ว