Skip to main content



ภาพโดย phu-chiangdao

 

เพราะบางวันฟ้ามิได้สีฟ้า           แผ่นดินบางหนหาใช่สีเขียว

แม้สายรุ้งยังมิได้มีสีเดียว          หากแต่หม่นซีดเซียวอยู่บางวัน


ช่วยมาเติมสีฟ้าให้ท้องฟ้า          เติมน้ำหยดลงธาราล่องความฝัน

แต้มใบไม้ต้นไม้เป็นไพรวัล        เพิ่มสีรุ้งให้เฉิดฉันทั้งเจ็ดสี

วาดทุ่งให้งามได้ตามใจ
               เขียวเหลืองแดงแต้มใส่ให้เต็มที่

เหยาะกลิ่นหอมบุบผามวลมาลี      วาดวิญญาณน้อมพลีอุทิศตน


แด่ ฟ้า ดิน โลก จักรวาล             วิเศษทิพยสถานทุกแห่งหน

ทอดทางไกลวิสุทธิ์เป็นสากล       เป็นแรงร่างบันดลบันดาลธรรม


นิ่งเฉยกระไรในทุกสภาวะ           เพราะเพียงวูบหนึ่งขณะก็เลยล้ำ

ล่วงผ่านธารทุ่งทางอย่างตรากตรำ ฉุดสำนึกให้น้อมนำอยู่ในทาง


เขียนความวังตั้งปรารถนา           พาดข้ามห้วงเวลาเต็มและว่าง

เช้าค่ำ คำเช้า พลบ รุ่งราง           เฝ้าดูทั้งหมดระหว่างปรากฏการณ์


ฟ้าจะฟ้าไม่ฟ้าก็แต้มฟ้า              เขียวไม่เขียวเติมค่าให้เขียวหว่าน

แล้วอย่างไรเติมสายน้ำในร่องธาร และอย่างนั้นกาลนานนิรันดร์ไป


                                                                          นาโก๊ะลี


บล็อกของ กวีประชาไท

กวีประชาไท
เสียง อิ่มอดอ่อนล้า             โรยแรง ลือ    เล่าความจำแฝง          เหลื่อมเร้น เสียง ลือเล่าตายแหง           เสร็จส่ง เรื่องฤๅ เล่า   เจื่อนเก้อหน้าเฟ้น        เก่าพร้อมใหม่หยิม ฯลฯ
กวีประชาไท
  แล้วดอกจานบ้านนาก็ร่วงหล่น           จากแล้งฝนผ่านพ้นสู่เหน็บหนาว แสงตะเกียงดวงน้อยก็ดับยาว            สายลมหนาวพาความเศร้ายังบ้านนา
กวีประชาไท
สิ้นเดือนเดินทางมาพร้อมกับว่างเปล่า
กวีประชาไท
ยุคเยื้องกรายย่ำเท้า หนาวลึก สารสื่อเร่งรู้สึก ท่ารู้ ความเป็นอยู่ด้านนึก ตกดิ่ง แล้วฤๅ เรียกว่าต่างกลุ่มกู้ ชาติเชื้อชนผอง ฯลฯ
กวีประชาไท
  โบยตีฉันเถิดความทรงจำ บัดนี้, ฉันยอมจำนนต่อทุกสิ่งแล้ว ต่อวิญญาณอันพ่ายพังกับความฝันในเวิ้งแล้ง ทิ้งไว้เพียงรอยเท้าในดินทราย
กวีประชาไท
มาเยี่ยมเยือนเพื่อนเก่าคนเคยรัก มาไถ่ถามว่าเหนื่อยหนักและท้อไหม กับชีวิตกับเรื่องราวความเป็นไป เหล้าจอกนี้รินให้เพื่อนดื่มกิน
กวีประชาไท
หนึ่งหยดพรสวัสดิ์นี้          สุขสรรค์ หยดเผื่อไว้เอื้อปัน            ตื่นย้ำ โดยลุคลื่นคลี่นครร-         ลองคลื่น ที่นี่ที่อื่นล้ำ                     หยั่งปลื้มปรีดิ์ถึง ฯลฯ 
กวีประชาไท
คนตายก็ตายไป คนอยู่ก็อยู่ไป ชีวิตหนึ่ง..ก่อนสู่เชิงตะกอน  
กวีประชาไท
    อรุณรุ่งแห่งการต่อสู้ฉายฉานแจ่มชัด ดั่งจะบอกว่า “แนวทางของประชาชนก็คือแนวทางประชาชน ดั่งจะบอกว่า “แนวทางของเผด็จการก็คือแนวทางของเผด็จการ
กวีประชาไท
    จึงใฝ่ฝันถึงวันที่สวยงาม               หลังโมงยามทะเลคลั่งฟ้าสดใส ชุบชีวิตฟื้นตื่นจากเดียวดาย          ปลุกดวงดาวพร่างพรายกลับคืนมา
กวีประชาไท
หากไทยไม่รู้จัก              รากฐานชาติย่อมย่อยแหลกราน    ทุกครั้งคนทุกส่วนอาจหาญ         โหมหักปลุกคลั่งไคล้เผลอพลั้ง    พ่ายเพ้อนิรันดร ฯลฯ