Skip to main content

 

โบยตีฉันเถิดความทรงจำ

บัดนี้, ฉันยอมจำนนต่อทุกสิ่งแล้ว

ต่อวิญญาณอันพ่ายพังกับความฝันในเวิ้งแล้ง

ทิ้งไว้เพียงรอยเท้าในดินทราย

ชีวิตคือโศกนาฏกรรม โศกนาฏกรรมคือฉัน

โบยตีฉันเถิดความจริง

เมื่อโมงยามแห่งความชิงชังก่อตัวขึ้น

จงกระหน่ำฉันด้วยแซ่แห่งความดีงาม

กลั่นความจริงมาจากความเจ็บปวด

ปล่อยน้ำตาสามานย์ไหลหลั่งลงแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์

พ่นวาจาสามหาวหอบพัดไปกับสายลมตะวันออก

ฉีกกระชากหน้ากากฉัน..ฉีกออกมา

ให้เห็นถึงเนื้อในอัปรีย์และเน่าแฟะ

ให้เห็นถึงความจอมปลอมและเห็นแก่ตัว

ให้เห็นถึงความยอกย้อนและจัญไร

โบยตีฉันเถิด..ฟาดฟันฉันเถิด..ชะตากรรม

ต่อจากนั้น..

สวรรค์หรือนรก, ทุ่งแล้งหรือสวนพฤกษา

ฉันคงไม่กังวลอีกแล้ว…



ปราโมทย์ แสนสวาสดิ์
 
 

บล็อกของ กวีประชาไท

กวีประชาไท
 
กวีประชาไท
    พฤศจิกาห่าถล่ม เมืองก็จมใต้บาดาล หรือคนมันสามานย์ ที่สั่งฟ้าถล่มเมือง  
กวีประชาไท
    ท้องทุ่งระบัดเขียวขึ้นในบัดดล หลังเม็ดฝนทะลุรอยเมฆรั่วลงมาได้ เด็กน้อยติดปีกถลาลิ่วออกสู่ลาน สวนทางกับฝูงนก… ที่ร่อนคว้างสู่ชายคาดั่งนักรบแตกพ่าย ไม่ใช่สายฝนทำร้ายเจ้าใช่ไหม? เปล่าเลย..สายฝนฉ่ำเย็นอยู่เช่นนั้น กระสุนสังหารต่างหากซุ่มยิงเราหมายครองฟ้า  
กวีประชาไท
  *หัวใจแม่ แหลกสลาย ในวันนั้น วันลูกฉัน ถูกเข่นฆ่า ล่าสังหาร ภาพที่เห็น เป็นที่รู้ กู่ประจาน เมื่อมีการ ยิงสลาย ฝ่ายชุมนุม
กวีประชาไท
ลมผ่าวพัดบ่ายแล้ง            เคลื่อนไหวไม้พุ่มดอกบางใบ              ร่วงแล้วลมแล้งเคลื่อนรอยไหน      เผยผ่านไม้มิ่งฝุ่นเมืองแก้ว             ไม่รู้อยู่ไหน  ฯลฯ
กวีประชาไท
   
กวีประชาไท
โลกทัศน์ของข้ามืดบอดอยู่ในปากท้องและศักดิ์ศรีเหมือนว่าหนักอึ้งในทุก ๆ วลีที่จะเอื้อนเอ่ยถึง...ลมรำเพยก็เคลื่อนห่าง..ไกลออกไปแต่ข้างในนี้สิ – มีรอยรุ่มร้าวลึกก่ายทับซับซ้อน
กวีประชาไท
 
กวีประชาไท
คลี่กระดาษประเทศนี้              เป็นไฉน คนแต่ละคนไย                      ซ่านซ้อน เหมือนล้อเล่นซ่อนไย             จับจ่อ จรดฤๅ โครง เก่า กร่อน ผุ ย้อน          ยิ่งล้ำหยั่งเหลือ ฯลฯ
กวีประชาไท
เธอตายในเดือนกุมภาเวลาตะแบกบานเต็มต้นลมหวนระรานกลีบบางร้าวรนที่สุดร่วงหล่นบนวิถีเดินทาง
กวีประชาไท
แด่...ทรัพย์สินเจ็ดหมื่นหกพันล้านของพณฯ ท่าน