Skip to main content
 

ข้ามน้ำ..ข้ามขุนเขาครั้งแล้วครั้งเล่า

รอยย่ำของฝ่าเท้าทับรอยเท้า

บนหนทางของการย่างก้าวล้วนเจ็บปวด

มือแต่ละข้างหอบหิ้วครัวเรือนลูกหลาน, ร่อนเร่

การพลัดพรากที่มิได้เชื้อเชิญในห้วงแห่งการเดินทาง

เดินทาง ....เดินทาง

ยามแผ่นดินหม่นเศร้า

ยางแดง ... ยางขาว ... ยางพุทธ ...ยางคริสต์

อพยพ

หนีปืน ...ลูกปืน ...ลูกหาบ...ทั้งกับดักของระเบิดชั่วร้าย

ทุกข์หนักเกิดขึ้นบนแผ่นดินทุกข์

บ่าแบกของ ... แบกสัมภาระ

แบกทุกข์...ทุกข์หนักบนบ่า

บนฝั่งฝันของชีวิตล้วนคือชะตากรรมแห่งความหม่นเศร้า

ในรอยทางของการอพยพ

ค่ำคืนที่สายฝนพร่างพรม

ร่างกายไหวสะท้านหนาวเหน็บ, บางทีอาจไม่ใช่เรื่องสำคัญ

สายฝนบนใบหน้าแห่งความหวาดกลัวนั้นต่างหากสำคัญกว่า

เหนือแผ่นดินที่เสียงปืนไม่เคยสงบเงียบ

คนในป่า-เคลื่อนย้าย-โยกย้ายอีกครั้งและอีกครั้ง

เพื่อการแสวงหาแผ่นดินปลอดภัยไร้ภัย

บนแผ่นดินที่ไร้แผ่นดินให้ย่างเหยียบ

ชีวิตที่เหลืออยู่ล้วนเพื่อแผ่นดิน

บนฝั่งของชีวิตล้วนมีอยู่เพื่อแผ่นดิน


 

สุมาตร ภูลายยาว

เชียงใหม่, ๔๙

 

....แด่การเดินทางไกลอีกครั้งบนฟากฝั่งของแม่น้ำสาละวิน

 

 

บล็อกของ กวีประชาไท

กวีประชาไท
เสียง อิ่มอดอ่อนล้า             โรยแรง ลือ    เล่าความจำแฝง          เหลื่อมเร้น เสียง ลือเล่าตายแหง           เสร็จส่ง เรื่องฤๅ เล่า   เจื่อนเก้อหน้าเฟ้น        เก่าพร้อมใหม่หยิม ฯลฯ
กวีประชาไท
  แล้วดอกจานบ้านนาก็ร่วงหล่น           จากแล้งฝนผ่านพ้นสู่เหน็บหนาว แสงตะเกียงดวงน้อยก็ดับยาว            สายลมหนาวพาความเศร้ายังบ้านนา
กวีประชาไท
สิ้นเดือนเดินทางมาพร้อมกับว่างเปล่า
กวีประชาไท
ยุคเยื้องกรายย่ำเท้า หนาวลึก สารสื่อเร่งรู้สึก ท่ารู้ ความเป็นอยู่ด้านนึก ตกดิ่ง แล้วฤๅ เรียกว่าต่างกลุ่มกู้ ชาติเชื้อชนผอง ฯลฯ
กวีประชาไท
  โบยตีฉันเถิดความทรงจำ บัดนี้, ฉันยอมจำนนต่อทุกสิ่งแล้ว ต่อวิญญาณอันพ่ายพังกับความฝันในเวิ้งแล้ง ทิ้งไว้เพียงรอยเท้าในดินทราย
กวีประชาไท
มาเยี่ยมเยือนเพื่อนเก่าคนเคยรัก มาไถ่ถามว่าเหนื่อยหนักและท้อไหม กับชีวิตกับเรื่องราวความเป็นไป เหล้าจอกนี้รินให้เพื่อนดื่มกิน
กวีประชาไท
หนึ่งหยดพรสวัสดิ์นี้          สุขสรรค์ หยดเผื่อไว้เอื้อปัน            ตื่นย้ำ โดยลุคลื่นคลี่นครร-         ลองคลื่น ที่นี่ที่อื่นล้ำ                     หยั่งปลื้มปรีดิ์ถึง ฯลฯ 
กวีประชาไท
คนตายก็ตายไป คนอยู่ก็อยู่ไป ชีวิตหนึ่ง..ก่อนสู่เชิงตะกอน  
กวีประชาไท
    อรุณรุ่งแห่งการต่อสู้ฉายฉานแจ่มชัด ดั่งจะบอกว่า “แนวทางของประชาชนก็คือแนวทางประชาชน ดั่งจะบอกว่า “แนวทางของเผด็จการก็คือแนวทางของเผด็จการ
กวีประชาไท
    จึงใฝ่ฝันถึงวันที่สวยงาม               หลังโมงยามทะเลคลั่งฟ้าสดใส ชุบชีวิตฟื้นตื่นจากเดียวดาย          ปลุกดวงดาวพร่างพรายกลับคืนมา
กวีประชาไท
หากไทยไม่รู้จัก              รากฐานชาติย่อมย่อยแหลกราน    ทุกครั้งคนทุกส่วนอาจหาญ         โหมหักปลุกคลั่งไคล้เผลอพลั้ง    พ่ายเพ้อนิรันดร ฯลฯ