Skip to main content

20080123 ภาพประกอบ กวีประชาไท
ที่มาภาพ : http://www.artquotes.net/masters/vangogh/vangogh_starrynight1888c.jpg

โพ้นระยิบ แสงระยับ – เขานับดาว
กลางราตรี ดึกนี้ไม่มีจันทร์   

นกกลางคืนโผผ่าน แหวกม่านมืด
หมอกทะเลโบราณ หว่านระบาย

นั่นใช่ไหม? – ว่ายวาดปรารถนา
ลบริ้วรอย ชีวิตอันนิดน้อย 

วูบเปลี่ยนผ่าน การรู้โลกกู่ก้อง
เหมือนจะลับเลือนห่าง เริดร้างเลย

โลกลับลา คว้างคอย รูปรอยนั่น
เพียงลำพัง โล้เรือดึก ผนึกคะเน

ปรารถนาเขียนทราย เพื่อถ่ายทอด
กระไรเลย! วิบดาวไกล ไหวบางเบา

คลื่นเคลื่อนผ่าน กระจิริดชีวิตหนึ่ง
เรือ ทะเล เผาชลา ฝ่าลำ, เรียง

อย่างไรเถอะ! ชีพหนึ่ง ถึงเปลี่ยวเปล่า                 
ชักสมอ ลงเรือ! เผื่อทางทิศ

โพ้นระยิบ หมื่นดาว พราวระยับ
ดาววิบนั้น ฝันพริบนี้ พลีดวงใจ

ทบทวนภาพเก็บเก่า ผ่าวผ่านผัน
ดวงดาวนั้นระยิบพริบ กะพริบพราย

มะพร้าวไหว เอื่อยอืดยืดยาดส่าย
ลมเคลื่อนคลื่น รูปทราย – สลายรอย

ห้วงเวลาแผ่วผ่าน พานถดถอย
ซึ่งคว้างคอย ระเหิดลม – ลมรำเพย

ตั้งโจทย์ฟ้อง ภาคหน้า ถ้อยเฉลย
เคลื่อนเข้าเกยหาดทราย ชายทะเล

ลมลอยฝัน ชีวา ทรายว้าเหว่
ลมหักเห ชเลลึก คึก, เร่งเร้า

ได้โอบกอดห่มโลก พ้นโศกเศร้า
เรือชีพคว้าง ว่างเปล่า – เงาตะเกียง

ฝันรำพึงถึงรำพัน สวรรค์เบี่ยง
ดั่งภาพเพียงรูปดาว – เขลาชีวิต

โลกมิโดดเดี่ยวเขา เฝ้าจับผิด
กระจิริด วารหนึ่งถึงดาวไกล

เขานอนนับ วิบฝัน วาบสั่นไหว
ชีพหนึ่งใช้เสียให้คุ้ม เถอะลุ่มลึก!

 

                                       สานิตย์ สีนาค
                                       กลุ่มโดยสารวรรณกรรม

บล็อกของ กวีประชาไท

กวีประชาไท
เสียง อิ่มอดอ่อนล้า             โรยแรง ลือ    เล่าความจำแฝง          เหลื่อมเร้น เสียง ลือเล่าตายแหง           เสร็จส่ง เรื่องฤๅ เล่า   เจื่อนเก้อหน้าเฟ้น        เก่าพร้อมใหม่หยิม ฯลฯ
กวีประชาไท
  แล้วดอกจานบ้านนาก็ร่วงหล่น           จากแล้งฝนผ่านพ้นสู่เหน็บหนาว แสงตะเกียงดวงน้อยก็ดับยาว            สายลมหนาวพาความเศร้ายังบ้านนา
กวีประชาไท
สิ้นเดือนเดินทางมาพร้อมกับว่างเปล่า
กวีประชาไท
ยุคเยื้องกรายย่ำเท้า หนาวลึก สารสื่อเร่งรู้สึก ท่ารู้ ความเป็นอยู่ด้านนึก ตกดิ่ง แล้วฤๅ เรียกว่าต่างกลุ่มกู้ ชาติเชื้อชนผอง ฯลฯ
กวีประชาไท
  โบยตีฉันเถิดความทรงจำ บัดนี้, ฉันยอมจำนนต่อทุกสิ่งแล้ว ต่อวิญญาณอันพ่ายพังกับความฝันในเวิ้งแล้ง ทิ้งไว้เพียงรอยเท้าในดินทราย
กวีประชาไท
มาเยี่ยมเยือนเพื่อนเก่าคนเคยรัก มาไถ่ถามว่าเหนื่อยหนักและท้อไหม กับชีวิตกับเรื่องราวความเป็นไป เหล้าจอกนี้รินให้เพื่อนดื่มกิน
กวีประชาไท
หนึ่งหยดพรสวัสดิ์นี้          สุขสรรค์ หยดเผื่อไว้เอื้อปัน            ตื่นย้ำ โดยลุคลื่นคลี่นครร-         ลองคลื่น ที่นี่ที่อื่นล้ำ                     หยั่งปลื้มปรีดิ์ถึง ฯลฯ 
กวีประชาไท
คนตายก็ตายไป คนอยู่ก็อยู่ไป ชีวิตหนึ่ง..ก่อนสู่เชิงตะกอน  
กวีประชาไท
    อรุณรุ่งแห่งการต่อสู้ฉายฉานแจ่มชัด ดั่งจะบอกว่า “แนวทางของประชาชนก็คือแนวทางประชาชน ดั่งจะบอกว่า “แนวทางของเผด็จการก็คือแนวทางของเผด็จการ
กวีประชาไท
    จึงใฝ่ฝันถึงวันที่สวยงาม               หลังโมงยามทะเลคลั่งฟ้าสดใส ชุบชีวิตฟื้นตื่นจากเดียวดาย          ปลุกดวงดาวพร่างพรายกลับคืนมา
กวีประชาไท
หากไทยไม่รู้จัก              รากฐานชาติย่อมย่อยแหลกราน    ทุกครั้งคนทุกส่วนอาจหาญ         โหมหักปลุกคลั่งไคล้เผลอพลั้ง    พ่ายเพ้อนิรันดร ฯลฯ