Skip to main content

 

 


            กังวลร้อนชั่วร้าย            ฤๅสราญ  สงกรานต์เอย
        สร้างแต่งแม้ปราการ           ฝ่าฟื้น
        เธอฉันเช่นเทศกาล             กรายเยี่ยม  เวียนมา
        ได้ผุดภวังค์พื้น                  ผ่านครั้งสาละวน  ฯลฯ

        ภาวะใด ใดขวาง                ไหวหวั่นกาง วางไว้ด้น
    ร้อยเรื่อง ภาระตน                   จัดเรียงแต้ม เพื่อแย้มพราย  ฯ
        เห็นฟอง น้ำ เล็ก เล็ก          ผุดวัยเด็ก สะท้อนฉาย
    นอนแผ่ เมษากราย -               แววละหาน สงกรานต์มา  ฯ
        สรงเนา เก่าใหม่แว่ว            กระซิบแผ่ว สรงน้ำหนา
    หยดเผื่อ ทิพย์สุธา -                สุธาธาร ทานแผ่นดิน  ฯ
        ท่านให้ ระลึกถึง                 น้ำพรมซึ้ง ซึ่งถวิล
    ชะล้างระมลทิน                      ที่ก่ายกั้น ๙ ปราการ ...

        หนึ่ง โกรธโกรธาหนา          น้ำล้างหน้า ล้างขุ่นขาน
    กล่าวกลั่นดั่งดวงมาลย์ -          โดยดอกแก้ว จำรูญใจ  ฯ
        สอง เคยลบหลู่ท่าน            น้ำชื่นหวาน แง้มขานไข
    เปิดจิต ไว้คิดใด      -               นึกขมผ่าน ม่านขุ่นเคือง  ฯ
        สาม คิดริษยา                    น้ำล้างหน้า ผลัดผ้าเปลื้อง
    ความเด่น ด้อยเปล่าเปลือง       ได้ปลูกไว้ ให้ชีวี  ฯ
        สี่ ตระหนี่ ถี่เหนียว              น้ำใจเปลี่ยว ล้างหน้าหนี
    น้ำใจ รับให้ดี                         น้ำใจกับรับให้งาม  ฯ
        ห้า มายาเจ้าเล่ห์                น้ำสาดเท สราญคร้าม
    คืนเย็น ร้อนผ่อนตาม                น้ำหยดย้ำ ฉ่ำเย็นพร  ฯ
        หก โอ้อวด เลว - ดี -           น้ำวจี อุทาหรณ์
    วลี ที่ราน รอน                        ให้ละลาย คลาย วดี  ฯ
        เจ็ด กล้ำ คำพูดปด             สลายคด เสื่อมสูญนี้
    เหนือใต้ ธรณี                       น้ำขุ่นใส ไว้ใจจริง  ฯ
        แปด เปื้อน น้ำใจร้าย          ให้หื่นหาย เหลือบแร้งสิง
    ปราการ ที่ย่ำอิง                    อาบชำระ หน้าดวงใจ  ฯ
        เก้า มิจฉาทิฐิ                   ความรู้ผลิ ละอองไหว
    ซ่านผิด – ถูกวางไว้              แย้มแยก-รด-หยด-พร เย็น  ฯ
        ภวังค์ภาวะร้อน                น้ำค้างย้อนสายบ่ายเร้น
    โลกหวังใฝ่ฝันเป็น                ล้างชำระฝ่าปราการ .


                                                             ณรงค์ยุทธ  โคตรคำ
                

บล็อกของ กวีประชาไท

กวีประชาไท
เสียง อิ่มอดอ่อนล้า             โรยแรง ลือ    เล่าความจำแฝง          เหลื่อมเร้น เสียง ลือเล่าตายแหง           เสร็จส่ง เรื่องฤๅ เล่า   เจื่อนเก้อหน้าเฟ้น        เก่าพร้อมใหม่หยิม ฯลฯ
กวีประชาไท
  แล้วดอกจานบ้านนาก็ร่วงหล่น           จากแล้งฝนผ่านพ้นสู่เหน็บหนาว แสงตะเกียงดวงน้อยก็ดับยาว            สายลมหนาวพาความเศร้ายังบ้านนา
กวีประชาไท
สิ้นเดือนเดินทางมาพร้อมกับว่างเปล่า
กวีประชาไท
ยุคเยื้องกรายย่ำเท้า หนาวลึก สารสื่อเร่งรู้สึก ท่ารู้ ความเป็นอยู่ด้านนึก ตกดิ่ง แล้วฤๅ เรียกว่าต่างกลุ่มกู้ ชาติเชื้อชนผอง ฯลฯ
กวีประชาไท
  โบยตีฉันเถิดความทรงจำ บัดนี้, ฉันยอมจำนนต่อทุกสิ่งแล้ว ต่อวิญญาณอันพ่ายพังกับความฝันในเวิ้งแล้ง ทิ้งไว้เพียงรอยเท้าในดินทราย
กวีประชาไท
มาเยี่ยมเยือนเพื่อนเก่าคนเคยรัก มาไถ่ถามว่าเหนื่อยหนักและท้อไหม กับชีวิตกับเรื่องราวความเป็นไป เหล้าจอกนี้รินให้เพื่อนดื่มกิน
กวีประชาไท
หนึ่งหยดพรสวัสดิ์นี้          สุขสรรค์ หยดเผื่อไว้เอื้อปัน            ตื่นย้ำ โดยลุคลื่นคลี่นครร-         ลองคลื่น ที่นี่ที่อื่นล้ำ                     หยั่งปลื้มปรีดิ์ถึง ฯลฯ 
กวีประชาไท
คนตายก็ตายไป คนอยู่ก็อยู่ไป ชีวิตหนึ่ง..ก่อนสู่เชิงตะกอน  
กวีประชาไท
    อรุณรุ่งแห่งการต่อสู้ฉายฉานแจ่มชัด ดั่งจะบอกว่า “แนวทางของประชาชนก็คือแนวทางประชาชน ดั่งจะบอกว่า “แนวทางของเผด็จการก็คือแนวทางของเผด็จการ
กวีประชาไท
    จึงใฝ่ฝันถึงวันที่สวยงาม               หลังโมงยามทะเลคลั่งฟ้าสดใส ชุบชีวิตฟื้นตื่นจากเดียวดาย          ปลุกดวงดาวพร่างพรายกลับคืนมา
กวีประชาไท
หากไทยไม่รู้จัก              รากฐานชาติย่อมย่อยแหลกราน    ทุกครั้งคนทุกส่วนอาจหาญ         โหมหักปลุกคลั่งไคล้เผลอพลั้ง    พ่ายเพ้อนิรันดร ฯลฯ