Skip to main content

เอาหัวใจฉันไปไว้ที่ไหน

ใครยึดไว้ ฤๅ ฉันเพียงฉงน

ไม่ชัดแจ้งแจ่มอารมณ์อันแปรปรน

นึกเผยพ้นผุดผ่านม่านภวังค์ ฯลฯ


ในเสี้ยวนึก ในหวั่น รำพันเผย

ระเรียดเหย หายเช้า แว่วเรือนหวัง

ดั่งโลกเงียบ แว่วกังสดาลดัง

ฟังนึกนี้อีกครั้งยามนั่งนอน ฯลฯ


ลุกสัมผัสผืนร้าว ชีวิตร่ำ

ดินเมืองแห้งลำนำกว่าผุดย้อน

ได้กินอยู่สืบถ่ายในนาคร

ได้ถ่ายถอน ถือวาง รอยร่างไว้ ฯลฯ


ในส่วนแห่งชีวิตเหนี่ยวชิดเกื้อ

ข้างในหนั่นเลือดเนื้อละอองไหว

ในน้ำค้างซึมซ่านละอองไอ

ข้างในชื้นฉ่ำสายระรายยัง ฯลฯ


แม้นหวังว้า หัวใจยังได้หวัง

อยู่คือยั้ง ภวังค์เกี่ยว ในเหนี่ยวรั้ง

รายนึกหรือ รอยผลึกแม้เกรอะกรัง

ได้ทวนทั้ง เข็นฝ่าชีวาเชย ฯลฯ


ข้างในแท้ พ่ายเผยหัวใจหวั่น

ถึงกี่กั้นพันธนา ฯ พันธะเอ๋ย

ข้างในเช้าค่ำดั่งน้ำค้างเปรย

หยดไว้แย้มไหวระเหยข้างในแวว .


                                    ณรงค์ยุทธ โคตรคำ


บล็อกของ กวีประชาไท

กวีประชาไท
เสียง อิ่มอดอ่อนล้า             โรยแรง ลือ    เล่าความจำแฝง          เหลื่อมเร้น เสียง ลือเล่าตายแหง           เสร็จส่ง เรื่องฤๅ เล่า   เจื่อนเก้อหน้าเฟ้น        เก่าพร้อมใหม่หยิม ฯลฯ
กวีประชาไท
  แล้วดอกจานบ้านนาก็ร่วงหล่น           จากแล้งฝนผ่านพ้นสู่เหน็บหนาว แสงตะเกียงดวงน้อยก็ดับยาว            สายลมหนาวพาความเศร้ายังบ้านนา
กวีประชาไท
สิ้นเดือนเดินทางมาพร้อมกับว่างเปล่า
กวีประชาไท
ยุคเยื้องกรายย่ำเท้า หนาวลึก สารสื่อเร่งรู้สึก ท่ารู้ ความเป็นอยู่ด้านนึก ตกดิ่ง แล้วฤๅ เรียกว่าต่างกลุ่มกู้ ชาติเชื้อชนผอง ฯลฯ
กวีประชาไท
  โบยตีฉันเถิดความทรงจำ บัดนี้, ฉันยอมจำนนต่อทุกสิ่งแล้ว ต่อวิญญาณอันพ่ายพังกับความฝันในเวิ้งแล้ง ทิ้งไว้เพียงรอยเท้าในดินทราย
กวีประชาไท
มาเยี่ยมเยือนเพื่อนเก่าคนเคยรัก มาไถ่ถามว่าเหนื่อยหนักและท้อไหม กับชีวิตกับเรื่องราวความเป็นไป เหล้าจอกนี้รินให้เพื่อนดื่มกิน
กวีประชาไท
หนึ่งหยดพรสวัสดิ์นี้          สุขสรรค์ หยดเผื่อไว้เอื้อปัน            ตื่นย้ำ โดยลุคลื่นคลี่นครร-         ลองคลื่น ที่นี่ที่อื่นล้ำ                     หยั่งปลื้มปรีดิ์ถึง ฯลฯ 
กวีประชาไท
คนตายก็ตายไป คนอยู่ก็อยู่ไป ชีวิตหนึ่ง..ก่อนสู่เชิงตะกอน  
กวีประชาไท
    อรุณรุ่งแห่งการต่อสู้ฉายฉานแจ่มชัด ดั่งจะบอกว่า “แนวทางของประชาชนก็คือแนวทางประชาชน ดั่งจะบอกว่า “แนวทางของเผด็จการก็คือแนวทางของเผด็จการ
กวีประชาไท
    จึงใฝ่ฝันถึงวันที่สวยงาม               หลังโมงยามทะเลคลั่งฟ้าสดใส ชุบชีวิตฟื้นตื่นจากเดียวดาย          ปลุกดวงดาวพร่างพรายกลับคืนมา
กวีประชาไท
หากไทยไม่รู้จัก              รากฐานชาติย่อมย่อยแหลกราน    ทุกครั้งคนทุกส่วนอาจหาญ         โหมหักปลุกคลั่งไคล้เผลอพลั้ง    พ่ายเพ้อนิรันดร ฯลฯ