Skip to main content
 

วิถีชีวิตกับไม้ไผ่คู่กัน

 

เมื่อลุงมาบอกว่า วิถีชีวิตปกาเก่อญอกับไม้ไผ่นั่นคู่กัน วันนี้คนรุ่นพะตี(ลุง) จึงต้องสอนให้ลูกหลานรู้จักจักสาน เพราะว่าเด็ก ๆ รุ่นใหม่ ไม่ค่อยรู้เรื่องจักสานแล้ว พะตีมาบอกว่า ถ้าไม่ได้สอนไว้หมดรุ่นพะตีแล้วก็จะหมดรุ่นไปเลย ทั้งที่วิถีปกาเก่อญอกับไม้ไผ่นั่นคู่กัน

 

ฟังพะตีว่า ลูกหลานปกาเก่อญอไม่รู้จักการใช้ไม่ไผ่ ฉันคิดถึงลุงที่บ้านแกว่าลูกชาวเลทำปลากินไม่เป็น ไม่ใช่หาปลามากิน แต่ทำปลากินไม่เป็นนั่นคือเขาหามาให้แล้ว แต่ไม่รู้ว่าจะทำกินอย่างไร ขูดเกล็ดปลาออกจากตัวปลาไม่เป็น ดึงขี้ปลาออกไม่เป็น เป็นต้น

 

ที่เป็นเช่นนี้เพราะอะไร บ้างก็ว่าเพราะลูกหลานออกจากบ้านไปอยู่โรงเรียน และพ่อแม่ก็มอบทุกอย่างให้ครูสอน ลูกหลานลืมไปว่าพ่อแม่ทำอะไรอยู่ และมีพลาสติกซื้อพลาสติกมาใช้แทนที่จะทำของใช้เอง

ปลายฝนต้นหนาว ฉันเดินทางเข้าหมู่บ้านตีนผาอีกครั้ง ในเช้าวันนั้น ผู้ใหญ่สอนเด็กทำจักสาน เริ่มกันตั้งแต่เลือกตัดไม้ไผ่ ผ่าไม้ไผ่เพื่อจักตอก เป็นเส้นบาง ๆ

 

ครูผู้สอนการทำจักสานวันนี้ มีพะตีติทอ (นายติทอ วาทีปราศรัย), พะตีมา(นายมา คุณฐิตินันท์) และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านยืนยง ลำเนาพงศ์ไพรงาม (พะตี หมายถึงลุง)

 

"ต้องเลือกไม้ไผ่ที่ไม่แก่เกินไป" พะตีมาบอก

เด็กๆ เยาวชนที่กำลังจะจบม.3 ไปจนถึงเด็กหญิงวัยเจ็ดแปดขวบก็มาเรียน บางคนพาน้องเล็กมาด้วย เพราะพ่อแม่ไปเกี่ยวข้าวหมด เธอปล่อยน้องให้คลานเล่นบนลานหญ้าอย่างสบาย


เหลาไม้ไผ่เสร็จแล้วย้ายที่เรียนจากป่าไปเรียนข้างโปสถ์ เพราะมีลานกว้างนั่งสบาย

 

สถาพร ชวลิตธรรมรุ่ง หรือดอน เด็กหนุ่มคนหนึ่งมาเรียนจักสานในวันนี้ เล่าว่าเขาออกจากหมู่บ้านไปเรียนที่วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีเชียงใหม่ วิทยาลัยอยู่ที่อำเภอสันป่าตอง เดือนสองเดือนถึงจะกลับบ้านครั้งหนึ่ง

"เป็นครั้งแรกที่ฝึกจักสานครับ แต่ต่อไปผมคิดว่าจะกลับบ้านบ่อยขึ้น"

 

วีระศักดิ์ ลำเนาพงศ์ไพรงาม เยาวชนในหมู่บ้านตีผา เป็นอีกหนึ่งหนุ่มที่กำลังจะจบม.3 บอกว่า "อยากฝึกครับ เพราะไม่เคยทำเลยเหมือนกัน "

วีระศักดิ์บอกว่า เขาทำงานกับพ่อช่วยพ่อทำสวน ทำปุ๋ยหมัก และทำงานบ้าน แต่ยังไม่เคยฝึกทำจักสาน วันนี้เป็นวันแรก

 

วันนี้พะตีมาเหมือนเป็นครูใหญ่ ฝึกสอนแล้วเดินดูงานของเด็ก ๆ ด้วย

"อย่างนี้ไม่ได้ เอาเส้นนี้ไว้ข้างบน ส่วนเส้นนี้ต้องลงข้างล่าง" พะตีมาบอกพลอย เด็กสาวที่มีความตั้งใจเป็นอย่างยิ่งที่จะทำให้ได้ เธอสวมถุงมือกันไม้ไผ่บาดมาด้วย

"อย่างนี้ใช่ไหม" พลอยถาม

 

พลอยกับเมย์ เป็นเพื่อนกัน เธอทั้งสองมาด้วยกัน ต่างมุ่งมั่นมากที่จะต้องทำให้ได้

"ต้องทำไปเรื่อย ๆ แล้วจะทำได้ละเอียดขึ้นเอง ชีวิตปกาเก่อญอกับไม้ไผ่เป็นของคู่กัน" พะตีมาย่ำว่าชีวิตปกาเก่อญอกับไม้ไผ่คู่กัน

 

เด็กหญิงวัยแปดขวบสองคนเรียกให้พะตีช่วยสอนต่อ ตอนนี้เธอเริ่มตั้งก้นตะกร้าได้แล้ว เธอทั้งสองพยายามรวบไม้ไผ่ขึ้นมาเป็นรูปทรงของตะกร้าเพื่อที่จะสานต่อไปเหมือนกับที่พี่ๆ ทำ แต่มือเล็กๆ เอาไม่อยู่ ไม้ไผ่ดีดกลับ ก่อนที่จะโดนไม้ไผ่ดีดหน้า เธอรีบผละมือออกแล้วถอยหนีทัน ต่างหัวเราะเริงร่า พลอยพี่ที่โตกว่าเข้ามาช่วยรวบปลายไม้ไผ่ พร้อมกับสอนให้สานต่อ ต้องค่อยๆ สานขึ้นไปเรื่อยๆ อย่างใจเย็น

 

"ผิดนิดเดียวก็ไม่ถูกแล้ว" พะตีมาว่า

"ทำอย่างไรดีผมทำตอกไผ่หัก" เด็กชายคนหนึ่งถามพะตีอย่างตกใจ

"ไม่ต้องกลัว ต่อใหม่ได้ เอาอันใหม่เสียบทับเข้าไปเลย เสียบทับเข้าไปตรงเส้นที่หักนั่นแหละแล้วสานต่อไป" พะตีว่า

 

เด็กหญิงคู่แฝดสองคนดาวกับเดือน เธอเพิ่งเรียนชั้น ป.3 มาฝึกสานตะกร้าด้วย คนหนึ่งเริ่มเบื่อลุกขึ้นเดินไปเที่ยวเล่นเก็บเสาวรส และลูกไม้ป่ามากินกับเพื่อน ๆ แต่แฝดอีกคนยังคงพยายามทำต่อไปโดยมีป้าสอนให้เธอ


แม่บ้านคนหนึ่งเตรียมไปหาหน่อไม้แต่มาหยุดดูเด็ก ๆ สานตะกร้ากันก่อน แฝดนั่งกินลูกไม้ป่าก็เปลี่ยนใจไปหาหน่อไม้ดีกว่า


ไผ่เกี่ยวข้องกับชีวิตจริง ๆ เหมือนที่พะตีมาว่า แม่บ้านกำลังไปหาหน่อไม้ไผ่มาทำกิน หน่ออ่อน ๆ ลวกจิ้มน้ำพริก ในเกือบทุกมื้อที่ฉันมาที่นี่ หน่อไม้อยู่ในวงอาหาร บางมื้อก็แกงหน่อไม้ใส่ไก่ ข้าวเบอะ (ข้าวต้มและ ๆ ใส่หน่อไม้ รวมกับผักกาด มีเนื้อหมูหรือเนื้อไก่ลงไปต้มด้วย

 

ฝนตกลงมาก่อนที่เด็กๆ จะทำตะกร้าเสร็จ พวกเขารีบลากงานของตัวเองหลบเข้าชายคาโบสถ์และสานต่อไป

 

เด็กหญิงสองคนเลิกสานตะกร้าแล้วกำลังนั่งเล่นน้ำฝน ตารีบอุ้มหลานวิ่งกลับบ้าน

 

สถาพร สานสุมใส่ไก่ได้แล้ว สุ่มเล็กๆ ขังไก่ได้หนึ่งตัว ที่นี่นอกจากเลี้ยงไก่แบบปล่อยแล้ว เขาจะสานสุ่มสำหรับขังไก่เอาไว้ ทำปากสุมให้ไก่โผล่หน้าออกมาจิกข้าวเปลือกกิน


สมสุข สานเปอะใส่หลัง ซึ่งใช้ในชีวิตประจำวัน ยามเมื่อไปไร่ ทุกคนจะมีเปอะใส่หลังไปด้วย สมสุขทำเสร็จแล้วโยนเล่นให้เพื่อน ๆ ดู

 

"ยิ่งทำยิ่งง่ายขึ้น ยิ่งทำยิ่งงามขึ้น" พะตีมาพูด ให้กำลังใจเด็กๆ แล้วเดินไปดูคนอื่นต่อไป

จริงของพะติยิ่งทำยิ่งง่าย ยิ่งทำยิ่งงาม ไม่ว่าจะทำอะไรก็เอามาใช้ได้หมด



นี่คือเป๊อะที่สานด้วยไม้ไผ่ใช้ในชีวิตประจำวัน


"อันนี้ค่อยสวยหน่อย" พะตีมาหยิบตะกร้าใบหนึ่งมาพิจารณา


พะตีมาบอกฉันว่า เมื่อก่อนสานไปขาย เดี๋ยวนี้สานแค่พอใช้กันในบ้าน บางบ้านก็ไม่ทำ ไปซื้อพลาสติกมาใช้ ไม้ไผ่สานได้หลายอย่าง ทำกระด้งก็ได้ ทำข้องใส่ปลา กระบุงใส่ข้าว ลวดลายมีเยอะ ถ้าสานได้แล้วไม่ต้องซื้อ ทำทุกอย่างใช้เองได้ เมื่อก่อนใช้ไม้ไผ่ทั้งนั้น ไม่มีกะละมัง ถุงพลาสติก

 

 

 

 

บล็อกของ แพร จารุ

แพร จารุ
บทความที่พยายามนำพาผู้อ่านฝ่าม่านมายาคติว่าด้วยการจัดการทรัพยากรป่าไม้ด้วยการป้องกันไฟป่าสู่รูปแบบการจัดการแบบใหม่ที่มีประสิทธิภาพด้วยการ"ชิงเผา"  
แพร จารุ
บน ฟ้า มี เมฆ ลอย บน ดอย มี เมฆ บัง มี สาว งาม ชื่อ ดัง อยู่ หลัง แดน ดง ป่า     เนื้อเพลงมิดะค่ะ สองบรรทัด....เพราะเหลือเกิน และเข้าไปอยู่ในหัวใจใครต่อใครได้ไม่ยาก บนฟ้ามีเมฆลอยบนดอยมีเมฆบัง ฟังเพียงแค่นี้ก็จินตนาการได้กว้างไกล หัวใจก็ลอยไปถึงไหน ๆ แล้ว  
แพร จารุ
 ฉันเชื่อว่า หากคนเรามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ทุกอย่างก็จะดีได้ไปกว่าครึ่ง บางคนบอกว่า ต้องเริ่มที่ตัวเราก่อน เช่น เรื่องทัศนคติที่มีต่อคนอื่น และตัดสินอย่างช้า ๆ   สามีของฉันบอกว่า จงรวดเร็วในการฟัง แต่จงเชื่องช้าในการตอบ คือให้ความสำคัญในการฟังมากๆ ก่อนจะตอบจึงจะดี จริงของเขาเพราะเดี๋ยวนี้มีแต่คนพูดและพูด แต่ไม่ค่อยฟังคนอื่น ฉันเอาเรื่องนี้มาเขียนเพราะได้แรงบันดาลใจมาจากไปสังเกตการณ์เขาพูดคุยทบทวนประสบการณ์การทำงานกันของโครงการ (CHAMPION/MSM) และสมาคมฟ้าสีรุ้ง    
แพร จารุ
  1   เหมือนเมืองบาป ฉันบอกเพื่อน ๆ จากเมืองกรุงว่า มาเชียงใหม่ อย่าลืมไปกินข้าวที่สุดสะแนนนะ อาหารหลายอย่างอร่อย และพบใครๆ ที่สุดสะแนนได้ไม่ยาก นักเขียน นักข่าว นักดนตรี นักร้อง ศิลปินวาดภาพ งานปั้น และคนที่ยังไม่มีงานทำและไม่อยากทำงานอะไรเลย
แพร จารุ
เก็บดอกไม้สีขาวแล้วไปฟังดนตรีกันค่ะ ใครมาเชียงใหม่ช่วงนี้ มีดอกไม้สีขาวบานรับ เช่น ดอกปีบ มองขึ้นไปออกดอกพราวเต็มต้น สวยงาม หอม ชวนเด็ก ๆ ไปเก็บดอกปีบที่ร่วงอยู่ตามพื้นมาร้อยมาลัยเล่น ปีบเป็นต้นไม้ที่ทนความแห้งแล้งได้ดียิ่ง เรียกว่าแทบไม่ต้องดูแลกันเลยทีเดียว ต้นไม้แกร่งแต่ให้ดอกขาวสวยบอบบางและมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ เดินไปที่ไหนทั่วเชียงใหม่ก็พบดอกปีบได้ไม่ยากค่ะ คราวนี้ ก็มาถึงฟังดนตรีค่ะ ดนตรีในเมืองเชียงใหม่ก็มีฟังทุกแห่งเหมือนกันค่ะ เรียกว่าหาฟังกันไม่ยาก เพราะนักดนตรีในเมืองเชียงใหม่มีเยอะ ไม่ต้องจ่ายเงินก็ฟังได้ เรียกว่ามีดนตรีฟรีอยู่ทั่วไป…
แพร จารุ
    อย่าเชื่อว่าผู้คนต้องการความร่ำรวยมากกว่าอย่ในบ้านของตัวเองอย่างเป็นสุข แต่ขออภัยก่อนฉันมัวแต่ปลูกต้นไม้ หน้าบ้านของฉันเป็นผืนดินที่มีต้นไม้หนาแน่น เมื่อที่ดินถูกเปลี่ยนมือเป็นของธนาคารกสิกรไทย มันถูกไถจนหมดสิ้นภายในวันเดียว ฉันจึงเริ่มปลูกต้นไม้ใหม่เป็นรั้วแทนกำแพงบ้านอีกชั้นหนึ่ง เพื่อหวังว่ามันจะช่วยให้คลายร้อนได้บ้าง
แพร จารุ
    เปิดเมล์พบข้อความนี้ถูกส่งเข้ามา *** หนูเป็นคนกรุงเทพฯ เคยมีแฟนเป็นหนุ่มกลายสมัยที่เรียนด้วยกัน เขาเคยชวนไปเที่ยวบ้านกลาย หนูอ่านเรื่องบ้านกลายที่พี่เขียนในประชาไท รู้สึกเดือดร้อนแม้ว่าหนูจะไม่ไปที่นั่นแล้ว เพราะหนุ่มกลาย คนที่หนูรักไม่น่ารัก ไม่ดี แต่ทะเลกลายดีสวยงาม อาหารทะเลมีมาก คนอื่น ๆ ที่กลายที่หนูรู้จักก็ดีค่ะ เขาดีกับหนูมาก คนใจดี หนูจึงอยาจะร่วมปกป้องด้วย หนูอ่านพบเรื่อง SSB และลองเขียนสรุปมาให้พี่ โครงการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคใต้ หรือในชื่อเต็มว่า การจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมและท่าเรืออุตสาหกรรมในบริเวณพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคใต้ (Southern Seaboard : SSB)…
แพร จารุ
  งานชั้นนี้ “แพรจารุ” ไม่ได้เขียนเองค่ะ เป็นของคุณวิชัย จันทวาโร ถือโอกาสเอามาลงที่นี่ เพราะตอนนี้อยู่ในช่วงเผยแพร่ให้ผู้อ่านรู้จักทะเลกลาย ทะเลไทย ที่กำลังถูกมือร้ายอย่างเซฟรอนบริษัทขุดเจาะน้ำมันข้ามชาติทำลาย ภายใต้นโยบายของรัฐไทย ***************
แพร จารุ
  บ้านกลาย อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช 30 สิงหาคม 2553              คุณหญิงที่รัก  
แพร จารุ
โลกนี้คนชั่วมากเหลือเกิน และบรรดาคนชั่ว ๆ ก็ล้วนเป็นผู้มีอำนาจ พวกเขามีอำนาจที่จะอนุมัติโครงการใหญ่ ๆ ทำลายฐานทรัพยากรธรรมชาติ แหล่งอาหารที่คนพอจะทำมาหากินได้ พวก เขาขุดภูเขา ถมทะเล โดยไม่สนใจว่าเจ้าของเขาอยู่กันอย่างไร ต่อไปกะปิอร่อยๆ ที่ฉันเอามาฝากคุณก็จะไม่มีแล้ว เพราะที่บ้านฉันจะมี เซฟรอน คุณรู้ไหมมันคืออะไร คือบริษัทยักษ์ใหญ่ของต่างชาติ ที่เข้ามาถมทะเลสร้างท่าเรือ เพื่อขุดเจาะหาพลังงานไปขาย โดยไม่สนใจว่าเป็นแหล่งอาหารของชุมชน ป้าของฉัน แกบอกว่า นอนไม่หลับมานานแล้ว แกกังวลว่าจะอยู่อย่างไร แม่ของฉันอายุเก้าสิบปี ฉันไม่กลับบ้านมาสองปี แม่เก็บกระดาษไว้ให้ฉันสามแผ่น…