Skip to main content

ขอบอกก่อนว่า เป็นเรื่องเล่าที่ไม่มีสาระอะไรเลย
เล่าเรื่องนี้ เพราะวันพิเศษเช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นบ่อย ๆ ถือว่า เป็นการผจญภัยในดินแดนที่รื่นรมย์เลยทีเดียว

ฉันจะเรียกเขาว่า แขกพิเศษ เพราะเป็นการมาเยือนแบบไม่คาดคิดมาก่อน และต่างมาในวันเดียวกันด้วย อีกทั้งไม่ได้นัดหมายมาล่วงหน้า ต่างมาแบบตั้งตัวไม่ติดทั้งนั้น

แขกคนที่หนึ่ง เขาเดินทางมาด้วยรถมอเตอร์ไชค์ มาถึงก่อนที่เจ้าของบ้านจะทันตื่น ได้ยินเขาส่งเสียงตะคอก เจ้าสองตัวแม่ลูก ที่ทำหน้าที่เฝ้าบ้าน มันเห่าเสียงแหลมเล็กตามแบบของหมาเล็ก และยังเยาว์

ฉันว่าคนเลี้ยงหมาทุกคนไม่ชอบให้ใครตะคอกหมา และยินดีที่มีคนรักหมาของตัวเอง เพราะหมาของตัวเองล้วนน่ารักเป็นที่สุด ไม่ว่ามันจะทำตัวน่าเกลียดอย่างไรก็ตาม

เจ้าของบ้านลุกขึ้นไปต้อนรับแขก และบอกว่า มันเห่าไปอย่างนั้นแหละ และหันไปปรามเจ้าสองตัวให้หยุด
“เอากีตาร์มาคืน”เขาว่าแล้วพูดต่อว่า จะรีบกลับเพื่อไปซื้อกีตาร์มาไว้ที่บ้านสักอัน

แล้วเขาก็ออกจากบ้านไป อย่างง่าย ๆ

ฉันรู้ภายหลังว่า เขามายืมไปเมื่อวาน และเขาไม่ใช่นักดนตรี แต่เป็นนักเสี่ยงโชคคนหนึ่ง และพบว่าตัวเองชอบเล่นดนตรี ชอบกีตาร์ขึ้นมา

1
กำลังหาบ้านค่ะ เผื่อใครจะรับอุปการะ

แขกคนที่หนึ่งกลับไปแล้ว สองชั่วโมงต่อมาแขกคนที่สองก็เดินทางมาถึง

เขามาพร้อมกับเหล้าภูมิปัญญาใส่ถุงมา เขามีมารยาทพอที่จะแขวนถุงเหล้าไว้ที่กิ่งไม้หน้าบ้าน ก่อนเดินเข้ามานั่งที่โต๊ะ เจ้าของบ้านกำลังเขียนต้นฉบับให้ประชาไทดอดคอม เขาบอกผู้มาเยือนว่า กำลังรีบทำงาน และส่งกล่องยาเส้นให้

เขาเอายาเส้นไปม้วนแต่ไม่จุดสูบ นั่งโยกตัวเล็กน้อย ก่อนจะบอกว่า อยากหาหนังสืออ่านสักสองสามเล่ม เจ้าของบ้านลุกขึ้นไปหยิบหนังสือให้สามเล่ม ฉันไม่รู้ว่าหนังสืออะไรบ้าง

เขาลุกขึ้นเดินไปอย่างเงียบ ๆ คนนี้ไปมาแบบเงียบมาก เขามาปรากฏครั้งแรกเมื่อเดือนที่แล้ว ฉันรู้มาว่า เขาเคยเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารแห่งหนึ่ง เมื่อก่อนเคยเป็นหนุ่มหล่อเนียบ ต่อมาถูกรถสิบล้อชน และออกจากงาน ไม่แน่ขัดว่าเขาลาออกเองเพราะทำงานไม่ได้หรือถูกให้ออก มาดหนุ่มหล่อแบบพนักงานธนาคารยังหลงเหลืออยู่

วันหนึ่งเขาบอกฉันว่า เขาสามารถซ่อมเครื่องใช้ฟ้าได้ ฉันจึงเอาเครื่องเล่นซีดีให้เขาซ่อม ปรากฏว่า เขารื้อออกมาแล้ว และบอกฉันว่า เครื่องที่ฉันซื้อมาเมื่อเดือนก่อน เป็นเครื่องเก่า มันถูกซ่อมมาแล้วครั้งหนึ่งและชี้ให้ฉันดูร่องรอยที่บอกว่า มันถูกเปลี่ยน ฉันถูกคนขายหลอก เขาบอกฉันอย่างนั้น ตกลงว่าฉันถูกหลอกสองครั้ง ครั้งแรกถูกหลอกให้ซื้อเครื่องเล่นซีดีเก่า ครั้งที่สองถูกหลอกว่าซ่อมเป็น เพราะตั้งแต่วันนั้นเขาไม่เคยพูดเรื่องซีดีของฉันอีกเลย

ผ่านไปสองคนก็ยังธรรมดาอยู่

2
แม่แห่งปี

ครับ สวัสดีครับ เชิญครับ เสียงเจ้าของบ้านทักทายพร้อมกับรีบเข้าไปในบ้าน เพื่อเปลี่ยนจากผ้าขาวม้าเป็นกางเกงขาสั้น เพราะคราวนี้เป็นหญิงสาวสองคน

ฉันนั่งพิมพ์ดีดอยู่ข้างหน้าต่าง หันไปมอง เธอทั้งสองเป็นแขกแปลกหน้า คนหนึ่งผอมบางอีกคนหนึ่งสูงใหญ่ เธอเริ่มต้นด้วยการทักทายฉันว่า กำลังทำงานอยู่หรือค่ะ

“ค่ะ” ฉันตอบเธอก็ฉันกำลังเคาะแป้นพิมพ์อยู่ จะกินข้าวได้อย่างไร
“เป็นลีซอหรือค่ะ”เสียงเธอยินดีนัก

เอาเข้าไป ตัวดำเมี่ยงแบบซาไกจากถิ่นใต้ หน้าตาแขกอินเดียออกอย่างนี้เป็นลีซอได้อย่างไรกัน ลีซอมันต้องขาวสวยออกไปทางจีน

“ไม่ใช่ค่ะ”
“เห็นมีกระเป๋าลีซอแขวนอยู่” เธอว่า
ฉันบอกเธอว่า ฉันมีเพื่อนเป็นลีซอหลายคน และเคยไปบ้านเขาด้วย ที่แม่อาย และที่เปียงหลวง
เธอบอกฉันว่าเธอเป็นลีซออยู่ที่เชียงดาว แม่ยังอยู่ที่นั่น แต่เธอมาอยู่หางดง

บรรยากาศการพูดคุยเริ่มราบรื่น เจ้าของบ้านชายแต่งตัวสุภาพออกมาแล้ว เชิญเธอทั้งสองนั่ง เธอคนที่เป็นลีซอ เริ่มด้วยการบอกว่า เธอนำเรื่องราวใหม่มาสู่ครอบครัวของเรา พร้อมกับส่งหนังสือเล่มบาง ๆให้เขา ปกหนังสือเขียนว่า หอสังเกตการณ์ ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา หน้าปกหนังสือสวยทีเดียว เป็นรูปหญิงสาวนั่งจับปากกาและเด็กหญิงหน้าตาสดใส

“อยู่หางดงทั้งคู่หรือครับ” เขาชวนคุย
หญิงสาวอีกคนหนึ่งทำเสียงอึกอักเล็กน้อย ก่อนจะพูดอะไรออกมาที่ฟังไม่รู้เรื่อง แต่ได้ยินคำว่า ญี่ปุ่น

เขาเตรียมน้ำให้เธอทั้งสอง สาวญี่ปุ่นคงจะหิวเธอดื่มน้ำหมด และบอกว่าอร่อย เธอคงคิดว่า ถ้ากินอะไรเข้าไปต้องบอกว่าอร่อยหมด

แต่อีกคนบอกว่า ดื่มมาแล้ว และพูดเรื่องของเธอ พูดเรื่องพระยะโฮวา ฉันจับความได้ว่า ท่านเป็นบิดาของพระเยซู

ฟังดูคล้าย ๆกับว่า เราต่างเป็นคนบาปและท่านจะช่วยเราได้
และถามว่า ชอบอ่านหนังสือหรือเปล่า เจ้าของบ้านตอบว่า ชอบอ่านครับ ผมทำงานเขียนครับ ต้องอ่านอยู่แล้วครับ

เธอตอบว่า ดีค่ะ
เจ้าของบ้านตอบกลับว่า ครับดีครับ ผมสนใจครับ

ทั้งผู้มาเผยแพร่ศาสนาและคนรับสารต่างคุยไปในทิศทางเดียวกัน เพราะเขารู้เรื่องราวของศาสนาและลัทธิต่าง ๆ อย่างมากมายจากการอ่าน แต่ในส่วนปฏิบัติเช่นเข้าโปสถ์ เข้าวัด หรือพิธีกรรมอะไรไม่เคยเห็นทำ

เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนหนังสือหรือว่าเพื่อตอบแทนเขาจึงหยิบหนังสือ วัยรุ่นไม่วุ่นอย่างที่คิด Right to know ของเอดส์เน็ท ที่ตัวเองทำส่งให้และบอกว่า นี่เป็นหนังสือของเราขอมอบให้ เป็นหนังสือเรื่องเอดส์เรื่องเพศ

หญิงสาวบอกว่า เราไม่มีปัญหาเรื่องนี้ เพราะเราเชื่อในพระองค์ และบอกว่า ที่เกิดปัญหานี้เพราะมีการทำผิด และเธอพูดเรื่องความผิดพลาดของมนุษย์อีกพักหนึ่งจึงลากลับ

หลังจากเธอไปแล้วฉันได้ยินเสียงเจ้าของบ้านถอยหายใจ
ฉันบอกเขาว่า ผู้พูดมีมากผู้ฟังมีน้อย การเป็นผู้ฟังที่ดียากนะ
เอ้อ...วันนี้เรามีแขกแปลก ๆ มาเยี่ยมบ้าน มีสามแบบแล้ว เราพูดกันยังไม่ทันจบ แขกชุดใหม่ก็เข้ามา เขามากับรถสีบรอนซ์

เป็นตำรวจ

ฉันมักตกใจที่เห็นตำรวจ ไม่คุ้นเคยกับตำรวจเพราะในวัยเด็ก ถูกหลอกว่า อย่างร้องไห้อย่าเรื่องมาก ตำรวจจะจับ เราถูกหลอกให้กลัวตำรวจมาตั้งแต่เด็ก

“ว้าย ตำรวจมาทำไม” ฉันกลัวตำรวจทั้งที่ในชีวิตฉันไม่เคยทำอะไรผิดให้ตำรวจจับได้เลย นอกจากขับมอเตอร์ไซค์ไม่มีใบขับขี่ออกมาซื้อบะหมี่ที่หน้าซอย แล้วถูกจับปรับ เป็นเรื่องขำเพราะฉันขับได้ไม่เกินหน้าซอย แต่มันถึงคราวซวย เจอตำรวจจราจรพอดี

ตำรวจมาเยี่ยมน้องชาย เออ...ลืมไปว่ามีน้องชายของเขาที่เป็นตำรวจมาป่วยอยู่ที่บ้านคนหนึ่ง
วันนี้เรามีแขกครบถ้วนแล้ว ทั้งนักเสี่ยงโชค นักดื่ม นักบุญ และตำรวจ ชีวิตของวันนี้คงจะครบแล้ว

ยามบ่าย ฉันได้รับโทรศัพท์จากนักเขียนรุ่นน้อง เธอบอกว่าจะมาเยี่ยมเรา เธอเป็นคนที่ฉันอยากเจอมากแต่ต้องปฏิเสธเธอไปเพราะวันนี้เราผจญภัยในดินแดนที่รื่นรมย์พอแล้ว ถ้าเจอนักเขียนอีกคนท่าจะไม่ไหวแล้ว เพราะตั้งใจจะดูพรรคศิลปินแถลงนโยบายในช่วงเย็นทางโทรทัศน์ด้วย

บล็อกของ แพร จารุ

แพร จารุ
  แล้วฉันก็คิดว่าทุกอย่างยังเหมือนเดิน ฉันเดินทางไปหาเพื่อนที่กรุงเทพฯ  และบอกเธอว่า ฉันอยากจะไปเยี่ยมนักเขียนผู้ใหญ่รุ่นพี่คนหนึ่ง  เพื่อนบอกว่า ไม่ได้ไปนานแล้ว ช่วงหลังๆ ไม่ค่อยมีใครไปหาใครกัน  เมื่อถามว่าทำไม
แพร จารุ
ป่าสนวัดจันทร์   หลังจากที่เขียนเรื่องป่าสนวัดจันทร์ถูกโฆษณาว่าเป็นผืนป่าสนแห่งเดียวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และมีชนเผ่าใช้วิถีชีวิตแบบเดิม ๆ
แพร จารุ
เมื่อเขียนเรื่อง “ป่าสนวัดจันทร์ถูกโฆษณาว่าเป็นที่สุด”  ฉันก็ได้รับจดหมายฉบับหนึ่ง เขียนถึงเรื่องอำเภอใหม่ส่งเข้ามา วันนี้จึงนำจดหมายฉบับนี้มาให้อ่านกันค่ะ  เธอเขียนมาว่า ลองเขียนเรื่องอำเภอใหม่มาให้อ่าน
แพร จารุ
ป่าสนผืนเดียวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ มองขึ้นบนต้นสนเหมือนหนึ่งว่ามีนกเกาะอยู่บนนั้นเต็มไปหมด จนใครบางคนเผลอถามว่า นั่นนกอะไรเกาะอยู่เต็มไปหมด หลายคนหัวเราะ ไม่ใช่นกหรอกมันคือลูกสน ที่นี่มีชื่อว่า ป่าสนวัดจันทร์ เป็นครั้งที่สองที่ฉันเดินทางมาที่นี้ห่างจากครั้งแรกเกือบยี่สิบปี ฉันไม่กล้าเดินทางไปที่นั่นเพราะรู้สึกว่ามันลำบากยากเย็นเหลือเกิน เป็นการเดินทางที่โหด ๆ ในช่วงวัยเยาว์ เพราะต้องนั่งรถไฟชั้นสามมาจากกรุงเทพฯ นานกว่าสิบสองชั่วโมง ก็รู้กันอยู่ว่ารถไฟไทยเสียเวลาเสมอ ๆ ลงจากรถไฟมีนักเขียนจากเมืองเหนือรอรับอยู่
แพร จารุ
มุสโต๊ะ (มุส-สะ-โต๊ะ) อาหารมื้อไหน ๆ ก็ต้องมีมุสโต๊ะ มุสโต๊ะก็คือน้ำพริกนั่นเอง ฉันรู้จักมุสโต๊ะครั้งแรกเมื่อเที่ยวบ้านปกาเกอญอ และนับจากวันนั้นก็ชอบมุสโต๊ะแบบปกาเกอญอทันที่
แพร จารุ
คุณทำอะไรเมื่อเช้านี้  ส่วนฉันตื่นขึ้นมาพร้อมกับหยิบหนังสือเล่มเล็ก ๆ จากโต๊ะกินข้าวติดมือไปนอนอ่านในเปลใต้ต้นมะขามเล็ก  หนังสือชื่อ ไม่รักไม่บอก 5 เป็นของกลุ่มภาคีคนฮักเจียงใหม่  ฉันเป็นอาสาสมัครในกลุ่มนี้กับเขาด้วย แต่ฉันไม่ได้ทำหนังสือเล่มนี้ ดังนั้นฉันจึงเพิ่งได้อ่านจริง ๆ ครูโรงเรียนอนุบาลเพิ่งให้มาสิบเอ็ดเล่ม วันนั้นมีน้อง ๆ หนุ่ม ๆ จากไหนก็ไม่รู้มาช่วยกันขนหนังสือหลายกล่องที่นำมาขายในงานอำลา ‘รงค์ วงษ์สวรรค์  ฉันไม่มีของอะไรตอบแทนน้องจึงแจกพวกเขาไปคนละเล่มเหลือเก็บไว้เล่มหนึ่ง ภาพปกเป็นแม่มดหน้าตาน่ารักถือไม้เท้าวิเศษ มีข้อเขียนว่า จงสุภาพกับโลกใบนี้ (คำจากสาร…
แพร จารุ
  เล่าเรื่องงาน อำลา ’รงค์ วงษ์สวรรค์ เปิดงานไปเมื่อวันที่ 9 มกราคม ยามแดดร่มลมตก หน้าที่ของฉันในงานนี้ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ดูแลงานขายหนังสือ ฉันรับปากไปว่า “ได้ค่ะ” ทั้งที่ไม่มีความชำนาญเรื่องการขาย หรือเรียกว่าไม่มีทักษะสักนิดเดียว และมักจะคิดตัวเลขผิด วิชาคณิตศาสตร์ตั้งแต่บวกลบคูณหารไม่เก่งเลย ยิ่งวิชาเลขคณิตคิดในใจนี้ไม่ได้เลย แต่ เพราะว่าในช่วงที่เขาประชุมเรื่องการดำเนินการจัดงานฉันไมได้เข้าร่วมประชุม…
แพร จารุ
ฤดูร้อนในเมืองเชียงใหม่ค่อนข้างน่าสยองค่ะ เพราะนอกจากความแห้งแล้งที่เริ่มขึ้นในปลายฤดูหนาวนี้แล้ว เมื่อฤดูร้อนมาถึงเราก็จะพบกับกลุ่มหมอกควันที่มีทั่วเมือง สำหรับประชาชนในชนชั้นเรา ๆ นั้น เตรียมอะไรได้บ้างคะ
แพร จารุ
สวัสดีนักท่องเที่ยว ระหว่างทางนักท่องเที่ยวเจออะไรมาบ้าง ฉันมาอยู่เชียงใหม่สิบกว่าปี แต่บ่อยครั้งที่รู้สึกว่า ตัวเองเหมือนนักท่องเที่ยว
แพร จารุ
  หญิงสาวมักจะกลัวอ้วนเพราะอยากสวย เราถูกทำให้เชื่อกันว่าคนอ้วนจะไม่สวย เป็นสาวเป็นนางต้องผอมเข้าไว้ ใครไม่ผอมเหมือนนางแบบ หรือนักแสดงหน้าจอโทรทัศน์ก็จะไมได้มาตรฐาน ซึ่งความจริงแล้วบางคนผอมจนเกินไป เรียกว่าแห้งแรงน้อยไม่แข็งแรง ขาแขนมีแต่กระดูก คอโปน ไหปลาร้าลึกขนาดน้ำขังยามเมื่ออาบน้ำ
แพร จารุ
ชวนมากินกันต่อค่ะ เพื่อนนักเขียนรุ่นน้องที่เชียงดาว เล่าว่าเธอปลูกข้าวไร่ที่บ้านของเธอ แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผลเท่าที่ควร แต่ฉันคิดว่าแค่เธอเริ่มต้นปลูกข้าวความมั่นคงทางอาหารก็เริ่มมีแล้ว ต่อมาน้องนักเขียนที่เพิ่งรู้จักยังไม่ได้เห็นหน้ากันเลย เขียนมาบอกว่า เธอปลูกข้าวได้เจ็ดกระสอบ ฉันชื่นชมยินดีกับเธออย่างจริงจังและจริงใจยิ่ง เพราะฉันมีความฝันที่จะปลูกข้าวปลูกผักไว้กินเอง แต่ไม่ได้ทำ และคิดว่าคงไม่ได้ทำ เพราะอายุปูนนี้แล้ว กล้ามเนื้อเป็นไขมัน เรี่ยวแรงหมดไปแล้ว ที่ทำได้ก็คือปลูกกล้วย ซึ่งก็เหมาะสมอยู่เพราะกล้วยเป็นอาหารนิ่ม ๆ กินง่าย…
แพร จารุ
ชวนมากินกันต่อดีกว่า   คราวนี้กินถั่วงอกผัดเห็ดสามอย่างค่ะ ดูเป็นอาหารธรรมดา ๆ นะคะ แต่พิเศษก็ตรงที่ เป็นอาหารที่ประกอบด้วยเห็ดสามอย่างนะคะ ความจริงแล้วอาหารเห็ดสามอย่างที่กินเป็นยานี้ เขาว่าหลีกเลี่ยงการใช้น้ำมันเป็นดีค่ะ แต่ไม่เป็นไรใช้น้อย ๆ เราเน้นความอร่อยด้วยค่ะ