Skip to main content

สวัสดีนักท่องเที่ยว

ระหว่างทางนักท่องเที่ยวเจออะไรมาบ้าง ฉันมาอยู่เชียงใหม่สิบกว่าปี แต่บ่อยครั้งที่รู้สึกว่า ตัวเองเหมือนนักท่องเที่ยว

ฉันจะเล่าให้ฟังว่า  ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ วันที่ 19 ธันวาคม ฉันไปงานคอนเสิร์ตเปิดฝักหรือจะเรียกว่าคอนเสิร์ตเมล็ดพันธุ์  ฉันซื้อข้าวของซึ่งเป็นอาหารอินทรีย์ พวกผักอินทรีย์ต่าง ๆ มัดละห้าบาท ถั่วเหลืองลิตรละสามสิบบาทเพื่อเอาไปทำน้ำเต้าหู้ และยังมีเมล็ดพันธุ์แจกในงานด้วย


ในงานนี้ไม่มีใครใช้โฟมสำหรับใส่อาหาร ไม่มีขยะมากมายเหมือนงานอื่น ๆ แสดงว่า การจัดงานที่มีผู้คนมารวมกันอยู่มากมาย หรือกินกันตลอดนั้น ก็ไม่จำเป็นต้องมีขยะพลาสติกหรือโฟมกองโตก็ได้ ที่นี่เขาขายขนมจีนกันแต่ใช้จานที่กินแล้วเอาไปล้าง  เขาขายของปิ้งย่างแต่ใช้จานกระดาษและใบตอง แสดงว่าผู้คนมีชีวิตอยู่ได้ด้วยการทำขยะน้อย ๆ หรือไม่ทำขยะเลยก็ได้ เขาจัดกันที่ สำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นงานที่ให้เกียรติและเคารพสถานที่

สัปดาห์ต่อมา วันที่ 24 - 27 ธันวาคม ฉันไปงาน  "MICT สร้างคน สร้างชาติเทคโนโลยี" ของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เขาว่างานนี้ให้คนทั่วไปได้เรียนรู้และเข้าถึงสารสนเทศและการสื่อสาร



เดินดูในงาน เสียงดังตลอดงาน ฉันว่าเขาใช้เสียงมากเกินไปจนไม่มีสมาธิที่จะดูอะไรเหมือนแข่งกันขายของ และที่อยากจะบอกก็คือ งานนี้ไม่สนใจเรื่องสิ่งแวดล้อมใด ๆ แค่น้ำขวดเล็ก ๆ ที่เอามาแจกตลอดเวลา อาหารทุกซุ้มขายด้วยโฟม และช้อนพลาสติก ทำขยะได้หลายตันทีเดียว สโลแกนสร้างคนสร้างชาติอย่างนี้ฟังเท่ดี

ในช่วงหนาวนี้ ใครต่อใครต่างพากันมาเชียงใหม่ เชียงใหม่จะรับภาระหนักอีกครั้งในการรับขยะจากนักท่องเที่ยว วันหนึ่งคุยกับเพื่อนเรื่องขยะ เพื่อนถามว่าเมืองเชียงใหม่กำจัดขยะด้วยวิธีไหน มีโรงงานกำจัดขยะหรือเปล่า

ฉันบอกเพื่อนว่า เคยได้ยินว่า มีโรงงานกำจัดขยะแถวดอยสะเก็ดแต่ยังไมได้เปิดใช้  แต่รู้มาว่าช่วงที่มีนักท่องเที่ยวเยอะ ๆ ต้องถ่ายขยะไปไว้ตามที่ต่าง ๆ เช่น อมก๋อย และป่าอื่น ๆ  ไปซุกซ่อนเอาไว้นั้นเอง และคิดดูเถอะว่าเมื่อฝนตกลงมาน้ำจากที่สูงไหลลงจากที่ต่ำ ผ่านขยะบนเปื้อนมากมาย และอย่าได้คิดว่า ไม่ใช่คนเชียงใหม่แล้วจะปลอดภัย ไม่ปลอดภัยหรอกแต่จะได้เป็นขั้น ๆ เป็นชั้น ๆ ไป เพราะอย่างไรน้ำก็ไหลลงสู่แม่น้ำสาขาต่าง ๆ และแม่น้ำปิงก็ไหลไปสู่เจ้าพระยาอยู่ดี

ยังมีขยะที่ถูกซุกไว้ตามที่ต่าง ๆ และถูกเผาเมื่อมีไฟไหม้ในช่วงหน้าร้อน นั่นก็เกิดมลพิษต่างในอากาศกันอย่างทั่วถึงนั่นแหละ

ต้องขอโทษนักท่องเที่ยวด้วยจริง ๆ ที่ต้องต้อนรับท่านด้วยเรื่องนี้  ขยะเป็นเรื่องน่ากลัวจริง ๆ และไม่มีใครต้องการด้วยค่ะ แค่รถขยะผ่านก็ถูกทำท่ารังเกียจ ถังขยะล้มใครก็เดินถอยห่าง

คุยกันแบบนักท่องเที่ยวนะคะ ความจริงแค่เราตระหนักว่า เมื่อจะซื้อก็คิดก่อนว่า เราทำขยะแต่ไหน กินอาหารหนึ่งอิ่มแต่ทิ้งขยะไว้เท่าไหร่ รวมทั้งเอาขยะขึ้นดอยก็ควรเอาลงกลับมาด้วยเท่านั้น แค่นี้ก็คงช่วยได้เยอะแล้ว

เพื่อนที่ทำเรื่องขยะมีข้อเสนอนักท่องเที่ยวอย่างนี้ด้วย ให้นักท่องเที่ยวเอากระบอกน้ำติดตัวไปด้วยทุกแห่ง ใช้วิธีเติมน้ำแทนซื้อน้ำขวดหรือน้ำเป็นแก้ว ๆ รวมทั้งเตรียมกล่องพลาสติกไว้หนึ่งชุด สำหรับซื้ออาหารแทนกล่องโฟม

แรก ๆ อาจจะรู้สึกไม่คุ้นเคย รู้สึกมีภาระ และอาจจะรู้สึกแปลก ๆ ที่มีคนมองหรือมีแม่ค้าไม่ยอมขาย เช่นต่อรองว่า ถ้าใส่กล่องของเราแล้วเขาจะตักไม่ถูก กะไม่ได้ว่าเท่าไหร่ แต่เราต้องยืนยันไว้ เมื่อเวลาผ่านไปเราจะรู้สึกดีกับสิ่งที่ทำและเป็นความเคยชิน กินแล้วก็ล้างไม่ต้องเอาขยะลงมาทิ้งด้วย ส่วนที่ล้างนั้นหาได้ไม่ยาก ที่ไหน ๆ ก็มีก๊อกน้ำ

ฉันเขียนเรื่องขยะบ่อย ๆ จนดูเป็นเรื่องน่าเบื่อ แต่หน้าบ้านฉันก็ยังเต็มไปด้วยขยะ โดยเฉพาะทางเข้าบ้านตรงหลังโรงเรียนบ้านทุ่งเสี้ยว บอกจริง ๆ ว่าอายเพื่อน อายผู้อ่านเลยแหล่ะ นอกจากขยะหนึ่งกองที่ไม่เคยหมดไปแล้วยังมีถุงพลาสติกขาวโพลนเต็มถนนหลังโรงเรียน มองไกล ๆ เหมือนดอกไม้ปลิว ๆ อยู่ มันเป็นที่ๆ มีผู้คนเอาขยะมาทิ้งกัน

สองวันก่อนตัดสินใจไปเก็บตรงทางเข้าบ้าน ในขณะเก็บผู้คนผ่านไปมา พวกเขาหยุดถามว่าเอาไปไหน บอกว่าขยะพวกนี้ขายได้ค่ะ ถุงพลาสติกขายได้หมดเลย และบอกเขาว่า ดูไม่สวยงามเพื่อน ๆ ญาติ ๆ มาบ้านช่วงปีใหม่อายเขา

ฟังแล้วก็เดินผ่านไป บางคนแนะนำว่า ต้องเผาเลย
มาถึงบรรทัดนี้ ผู้อ่านอาจจะพูดในใจว่า บ้านตัวเองยังทำไม่ได้เลย
ใช่...บ้านตัวเองยังยากเลย

อย่างไรก็ตาม ถ้านักท่องเที่ยวมาอ่านเจอก็ลองเริ่มต้นดูนะคะ แรก ๆ ทำได้บ้างไม่ได้บ้างก็ไม่เป็นไร เพราะเราไม่เคยชิน คนเขียนเองก็ยังทำได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่ทุกครั้งที่ได้ทำจะรู้สึกดีกับตัวเองจริง ๆ

 

บล็อกของ แพร จารุ

แพร จารุ
บทความที่พยายามนำพาผู้อ่านฝ่าม่านมายาคติว่าด้วยการจัดการทรัพยากรป่าไม้ด้วยการป้องกันไฟป่าสู่รูปแบบการจัดการแบบใหม่ที่มีประสิทธิภาพด้วยการ"ชิงเผา"  
แพร จารุ
บน ฟ้า มี เมฆ ลอย บน ดอย มี เมฆ บัง มี สาว งาม ชื่อ ดัง อยู่ หลัง แดน ดง ป่า     เนื้อเพลงมิดะค่ะ สองบรรทัด....เพราะเหลือเกิน และเข้าไปอยู่ในหัวใจใครต่อใครได้ไม่ยาก บนฟ้ามีเมฆลอยบนดอยมีเมฆบัง ฟังเพียงแค่นี้ก็จินตนาการได้กว้างไกล หัวใจก็ลอยไปถึงไหน ๆ แล้ว  
แพร จารุ
 ฉันเชื่อว่า หากคนเรามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ทุกอย่างก็จะดีได้ไปกว่าครึ่ง บางคนบอกว่า ต้องเริ่มที่ตัวเราก่อน เช่น เรื่องทัศนคติที่มีต่อคนอื่น และตัดสินอย่างช้า ๆ   สามีของฉันบอกว่า จงรวดเร็วในการฟัง แต่จงเชื่องช้าในการตอบ คือให้ความสำคัญในการฟังมากๆ ก่อนจะตอบจึงจะดี จริงของเขาเพราะเดี๋ยวนี้มีแต่คนพูดและพูด แต่ไม่ค่อยฟังคนอื่น ฉันเอาเรื่องนี้มาเขียนเพราะได้แรงบันดาลใจมาจากไปสังเกตการณ์เขาพูดคุยทบทวนประสบการณ์การทำงานกันของโครงการ (CHAMPION/MSM) และสมาคมฟ้าสีรุ้ง    
แพร จารุ
  1   เหมือนเมืองบาป ฉันบอกเพื่อน ๆ จากเมืองกรุงว่า มาเชียงใหม่ อย่าลืมไปกินข้าวที่สุดสะแนนนะ อาหารหลายอย่างอร่อย และพบใครๆ ที่สุดสะแนนได้ไม่ยาก นักเขียน นักข่าว นักดนตรี นักร้อง ศิลปินวาดภาพ งานปั้น และคนที่ยังไม่มีงานทำและไม่อยากทำงานอะไรเลย
แพร จารุ
เก็บดอกไม้สีขาวแล้วไปฟังดนตรีกันค่ะ ใครมาเชียงใหม่ช่วงนี้ มีดอกไม้สีขาวบานรับ เช่น ดอกปีบ มองขึ้นไปออกดอกพราวเต็มต้น สวยงาม หอม ชวนเด็ก ๆ ไปเก็บดอกปีบที่ร่วงอยู่ตามพื้นมาร้อยมาลัยเล่น ปีบเป็นต้นไม้ที่ทนความแห้งแล้งได้ดียิ่ง เรียกว่าแทบไม่ต้องดูแลกันเลยทีเดียว ต้นไม้แกร่งแต่ให้ดอกขาวสวยบอบบางและมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ เดินไปที่ไหนทั่วเชียงใหม่ก็พบดอกปีบได้ไม่ยากค่ะ คราวนี้ ก็มาถึงฟังดนตรีค่ะ ดนตรีในเมืองเชียงใหม่ก็มีฟังทุกแห่งเหมือนกันค่ะ เรียกว่าหาฟังกันไม่ยาก เพราะนักดนตรีในเมืองเชียงใหม่มีเยอะ ไม่ต้องจ่ายเงินก็ฟังได้ เรียกว่ามีดนตรีฟรีอยู่ทั่วไป…
แพร จารุ
    อย่าเชื่อว่าผู้คนต้องการความร่ำรวยมากกว่าอย่ในบ้านของตัวเองอย่างเป็นสุข แต่ขออภัยก่อนฉันมัวแต่ปลูกต้นไม้ หน้าบ้านของฉันเป็นผืนดินที่มีต้นไม้หนาแน่น เมื่อที่ดินถูกเปลี่ยนมือเป็นของธนาคารกสิกรไทย มันถูกไถจนหมดสิ้นภายในวันเดียว ฉันจึงเริ่มปลูกต้นไม้ใหม่เป็นรั้วแทนกำแพงบ้านอีกชั้นหนึ่ง เพื่อหวังว่ามันจะช่วยให้คลายร้อนได้บ้าง
แพร จารุ
    เปิดเมล์พบข้อความนี้ถูกส่งเข้ามา *** หนูเป็นคนกรุงเทพฯ เคยมีแฟนเป็นหนุ่มกลายสมัยที่เรียนด้วยกัน เขาเคยชวนไปเที่ยวบ้านกลาย หนูอ่านเรื่องบ้านกลายที่พี่เขียนในประชาไท รู้สึกเดือดร้อนแม้ว่าหนูจะไม่ไปที่นั่นแล้ว เพราะหนุ่มกลาย คนที่หนูรักไม่น่ารัก ไม่ดี แต่ทะเลกลายดีสวยงาม อาหารทะเลมีมาก คนอื่น ๆ ที่กลายที่หนูรู้จักก็ดีค่ะ เขาดีกับหนูมาก คนใจดี หนูจึงอยาจะร่วมปกป้องด้วย หนูอ่านพบเรื่อง SSB และลองเขียนสรุปมาให้พี่ โครงการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคใต้ หรือในชื่อเต็มว่า การจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมและท่าเรืออุตสาหกรรมในบริเวณพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคใต้ (Southern Seaboard : SSB)…
แพร จารุ
  งานชั้นนี้ “แพรจารุ” ไม่ได้เขียนเองค่ะ เป็นของคุณวิชัย จันทวาโร ถือโอกาสเอามาลงที่นี่ เพราะตอนนี้อยู่ในช่วงเผยแพร่ให้ผู้อ่านรู้จักทะเลกลาย ทะเลไทย ที่กำลังถูกมือร้ายอย่างเซฟรอนบริษัทขุดเจาะน้ำมันข้ามชาติทำลาย ภายใต้นโยบายของรัฐไทย ***************
แพร จารุ
  บ้านกลาย อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช 30 สิงหาคม 2553              คุณหญิงที่รัก  
แพร จารุ
โลกนี้คนชั่วมากเหลือเกิน และบรรดาคนชั่ว ๆ ก็ล้วนเป็นผู้มีอำนาจ พวกเขามีอำนาจที่จะอนุมัติโครงการใหญ่ ๆ ทำลายฐานทรัพยากรธรรมชาติ แหล่งอาหารที่คนพอจะทำมาหากินได้ พวก เขาขุดภูเขา ถมทะเล โดยไม่สนใจว่าเจ้าของเขาอยู่กันอย่างไร ต่อไปกะปิอร่อยๆ ที่ฉันเอามาฝากคุณก็จะไม่มีแล้ว เพราะที่บ้านฉันจะมี เซฟรอน คุณรู้ไหมมันคืออะไร คือบริษัทยักษ์ใหญ่ของต่างชาติ ที่เข้ามาถมทะเลสร้างท่าเรือ เพื่อขุดเจาะหาพลังงานไปขาย โดยไม่สนใจว่าเป็นแหล่งอาหารของชุมชน ป้าของฉัน แกบอกว่า นอนไม่หลับมานานแล้ว แกกังวลว่าจะอยู่อย่างไร แม่ของฉันอายุเก้าสิบปี ฉันไม่กลับบ้านมาสองปี แม่เก็บกระดาษไว้ให้ฉันสามแผ่น…