Skip to main content

ป่าสนผืนเดียวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ

มองขึ้นบนต้นสนเหมือนหนึ่งว่ามีนกเกาะอยู่บนนั้นเต็มไปหมด จนใครบางคนเผลอถามว่า นั่นนกอะไรเกาะอยู่เต็มไปหมด หลายคนหัวเราะ ไม่ใช่นกหรอกมันคือลูกสน

ที่นี่มีชื่อว่า ป่าสนวัดจันทร์ เป็นครั้งที่สองที่ฉันเดินทางมาที่นี้ห่างจากครั้งแรกเกือบยี่สิบปี



ฉันไม่กล้าเดินทางไปที่นั่นเพราะรู้สึกว่ามันลำบากยากเย็นเหลือเกิน เป็นการเดินทางที่โหด ๆ ในช่วงวัยเยาว์ เพราะต้องนั่งรถไฟชั้นสามมาจากกรุงเทพฯ นานกว่าสิบสองชั่วโมง ก็รู้กันอยู่ว่ารถไฟไทยเสียเวลาเสมอ ๆ ลงจากรถไฟมีนักเขียนจากเมืองเหนือรอรับอยู่

ก่อนเดินทางเขาบอกสั้นๆ ว่า “โครงการชุมชนคนรักป่า เขาเชิญศิลปิน นักเขียน คนทำงานศิลปะ ไปเที่ยวป่า และอยากชวนไปด้วย พอถึงสถานีก็จะมีคนไปรับ ไม่ต้องเอาอะไรมาเลย” และเป็นจริงเหมือนที่เขาว่า ถึงสถานีมีคนมารับจริง ๆ

ไม่ได้ถามว่า จากเชียงใหม่ไปวัดจันทร์นานเท่าไหร่ ในรถยนต์ที่เบียดกันแน่น มีเจ้าหน้าที่ชุมชนคนรักป่าคนหนึ่ง ผ่านเส้นทางที่ไม่เคยรู้จัก เช่น อำเภอสะเมิง บ้านบ่อแก้ว เป็นการเมารถครั้งใหญ่กว่าจะถึงป่าสนวัดจันทร์ก็เป็นยามค่ำคืน สรุปว่าเดินทางจากกรุงเทพฯถึงป่าสนวัดจันทร์ในครั้งนั้นหนึ่งคืนกับหนึ่งวัน เต็ม ๆ

ไปถึงพบว่ามีศิลปินมากมายตั้งแต่ นอกจากไพฑูรย์ พรหมวิจิตรแล้ว ยังมี เทพศิริ สุขโสภา มาลา คำจันทร์ ชัชวาลย์ ทองดีเลิศ ฯลฯ และยังมีศิลปินพื้นบ้าน คนทำงานศิลปะ และนักเขียนกวี รุ่นใหม่ ๆ ที่ไม่รู้จักอีกหลายคน

กินนอนกันในป่าจริง ๆ กางเต็นท์และหุงข้าว ทำกับข้าวกินกันท่ามกลางความมืด เพราะมีแต่แสงเทียนเท่านั้น กลางคืนมีนักดนตรีปกาเกอญอมาเล่นดนตรีรอบกองไฟกันอีก จำได้ว่าพวกศิลปินเขาก็วาดภาพกัน นักเขียนก็จดบันทึกถ่ายรูป เขาบอกว่าพื้นที่นี้มีปัญหาเรื่องการตั้งโรงเลื่อยไม้ มีการทำอุตสาหกรรมป่าไม้ หรือสรุปรวม ๆ ก็คือการแย่งชิงทรัพยากรธรรมชาติของมนุษย์นั่นเอง



หลังจากนั้นใครชวนไปป่าสนวัดจันทร์หรือบ้านวัดจันทร์ ฉันปฏิเสธไปทุกครั้ง เพราะเข็ดขยาดกับการเดินทางในครั้งนั้น หลายครั้งฉันจึงพลาดโอกาสการเดินทาง


ฉันได้รับข่าวคราวเกี่ยวกับที่นั่นอยู่เสมอ ๆ หนึ่งในนั้นคือ ป่าสนวัดจันทร์กำลังจะเปลี่ยนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่ง เพราะถูกประกาศว่า เป็นป่าสนผืนเดียวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย อะไรที่เป็นที่สุด ๆ ย่อมได้รับความสนใจ และการเดินทางสู่ป่าสนวัดจันทร์ก็ไม่ลำบากเหมือนเก่าพวกที่ไปเที่ยวอำเภอปา ยสามารถขึ้นต่อไปป่าสนวัดจันทร์เพียงห้าสิบกิโลเท่านั้น ว่ากันว่านักท่องเที่ยวจากปายเริ่มทะลักเข้ามาที่ป่าสนวัดจันทร์ (หลังจากที่ปายบอบซ้ำแล้ว) ในช่วงฤดูการท่องเที่ยวปายจะแน่นมาก ขนาดรถติด ปายมีทุกอย่างเหมือนเมืองใหญ่มี ร้านสะดวกซื้อ มีธนาคาร ตู้เอทีเอ็ม มีบาร์ คาราโอเกะ

ฉันคิดว่าไม่นาน วัดจันทร์ก็คงจะเป็นเช่นนั้น เพราะเดี๋ยวนี้วัดจันทร์ เริ่มมีรีสอร์ทสองสามแห่งแล้ว มีร้านอาหารเปิดใหม่ที่มีแสงฟ้าระยิบระยับหนึ่งแห่ง ฉันอยากจะไปดูรีสอร์ทสักหน่อย ดูไปอย่างนั้นแหละไม่ได้คิดจะพักเพราะเรานิยมพักบ้านชาวบ้าน ไม่นิยมพักรีสอร์ท ไม่ใช่อะไรหรอกค่ะ ค่าที่พักคืนหนึ่งเป็นพันบาท


น้องที่ไปด้วยเป็นหนุ่มปกาเกอญอเขาทำงานที่สมาคมปกาเกอญอ เขาไม่ยอมพาไป เขาบอกว่าไม่อยากไป และดูเหมือนว่า รีสอร์ทปิดเงียบ คงจะเป็นเพราะหวั่น ๆ ต่อกรณีเขายายเที่ยง เขายายเที่ยงคือปัญหาการครอบครองที่ดินโดยมิชอบของผู้มีอำนาจ ผืนดินบริเวณป่าสนวัดจันทร์ก็เช่นเดียวกัน

มีปัญหาเดียวกัน ดังนั้นก็ต้องหวั่นไหวกันเป็นธรรมดา

ที่นี่กำลังจะเป็นอำเภอใหม่ชื่อว่า อำเภอกัลยาณิวัฒนา หลังจากได้เป็นอำเภอความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่จะเข้ามากับอะไรบ้าง การแย่งชิงทรัพยากรอาจจะหนักขึ้น

 


โปรดติดตามตอนต่อไป

บล็อกของ แพร จารุ

แพร จารุ
บทความที่พยายามนำพาผู้อ่านฝ่าม่านมายาคติว่าด้วยการจัดการทรัพยากรป่าไม้ด้วยการป้องกันไฟป่าสู่รูปแบบการจัดการแบบใหม่ที่มีประสิทธิภาพด้วยการ"ชิงเผา"  
แพร จารุ
บน ฟ้า มี เมฆ ลอย บน ดอย มี เมฆ บัง มี สาว งาม ชื่อ ดัง อยู่ หลัง แดน ดง ป่า     เนื้อเพลงมิดะค่ะ สองบรรทัด....เพราะเหลือเกิน และเข้าไปอยู่ในหัวใจใครต่อใครได้ไม่ยาก บนฟ้ามีเมฆลอยบนดอยมีเมฆบัง ฟังเพียงแค่นี้ก็จินตนาการได้กว้างไกล หัวใจก็ลอยไปถึงไหน ๆ แล้ว  
แพร จารุ
 ฉันเชื่อว่า หากคนเรามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ทุกอย่างก็จะดีได้ไปกว่าครึ่ง บางคนบอกว่า ต้องเริ่มที่ตัวเราก่อน เช่น เรื่องทัศนคติที่มีต่อคนอื่น และตัดสินอย่างช้า ๆ   สามีของฉันบอกว่า จงรวดเร็วในการฟัง แต่จงเชื่องช้าในการตอบ คือให้ความสำคัญในการฟังมากๆ ก่อนจะตอบจึงจะดี จริงของเขาเพราะเดี๋ยวนี้มีแต่คนพูดและพูด แต่ไม่ค่อยฟังคนอื่น ฉันเอาเรื่องนี้มาเขียนเพราะได้แรงบันดาลใจมาจากไปสังเกตการณ์เขาพูดคุยทบทวนประสบการณ์การทำงานกันของโครงการ (CHAMPION/MSM) และสมาคมฟ้าสีรุ้ง    
แพร จารุ
  1   เหมือนเมืองบาป ฉันบอกเพื่อน ๆ จากเมืองกรุงว่า มาเชียงใหม่ อย่าลืมไปกินข้าวที่สุดสะแนนนะ อาหารหลายอย่างอร่อย และพบใครๆ ที่สุดสะแนนได้ไม่ยาก นักเขียน นักข่าว นักดนตรี นักร้อง ศิลปินวาดภาพ งานปั้น และคนที่ยังไม่มีงานทำและไม่อยากทำงานอะไรเลย
แพร จารุ
เก็บดอกไม้สีขาวแล้วไปฟังดนตรีกันค่ะ ใครมาเชียงใหม่ช่วงนี้ มีดอกไม้สีขาวบานรับ เช่น ดอกปีบ มองขึ้นไปออกดอกพราวเต็มต้น สวยงาม หอม ชวนเด็ก ๆ ไปเก็บดอกปีบที่ร่วงอยู่ตามพื้นมาร้อยมาลัยเล่น ปีบเป็นต้นไม้ที่ทนความแห้งแล้งได้ดียิ่ง เรียกว่าแทบไม่ต้องดูแลกันเลยทีเดียว ต้นไม้แกร่งแต่ให้ดอกขาวสวยบอบบางและมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ เดินไปที่ไหนทั่วเชียงใหม่ก็พบดอกปีบได้ไม่ยากค่ะ คราวนี้ ก็มาถึงฟังดนตรีค่ะ ดนตรีในเมืองเชียงใหม่ก็มีฟังทุกแห่งเหมือนกันค่ะ เรียกว่าหาฟังกันไม่ยาก เพราะนักดนตรีในเมืองเชียงใหม่มีเยอะ ไม่ต้องจ่ายเงินก็ฟังได้ เรียกว่ามีดนตรีฟรีอยู่ทั่วไป…
แพร จารุ
    อย่าเชื่อว่าผู้คนต้องการความร่ำรวยมากกว่าอย่ในบ้านของตัวเองอย่างเป็นสุข แต่ขออภัยก่อนฉันมัวแต่ปลูกต้นไม้ หน้าบ้านของฉันเป็นผืนดินที่มีต้นไม้หนาแน่น เมื่อที่ดินถูกเปลี่ยนมือเป็นของธนาคารกสิกรไทย มันถูกไถจนหมดสิ้นภายในวันเดียว ฉันจึงเริ่มปลูกต้นไม้ใหม่เป็นรั้วแทนกำแพงบ้านอีกชั้นหนึ่ง เพื่อหวังว่ามันจะช่วยให้คลายร้อนได้บ้าง
แพร จารุ
    เปิดเมล์พบข้อความนี้ถูกส่งเข้ามา *** หนูเป็นคนกรุงเทพฯ เคยมีแฟนเป็นหนุ่มกลายสมัยที่เรียนด้วยกัน เขาเคยชวนไปเที่ยวบ้านกลาย หนูอ่านเรื่องบ้านกลายที่พี่เขียนในประชาไท รู้สึกเดือดร้อนแม้ว่าหนูจะไม่ไปที่นั่นแล้ว เพราะหนุ่มกลาย คนที่หนูรักไม่น่ารัก ไม่ดี แต่ทะเลกลายดีสวยงาม อาหารทะเลมีมาก คนอื่น ๆ ที่กลายที่หนูรู้จักก็ดีค่ะ เขาดีกับหนูมาก คนใจดี หนูจึงอยาจะร่วมปกป้องด้วย หนูอ่านพบเรื่อง SSB และลองเขียนสรุปมาให้พี่ โครงการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคใต้ หรือในชื่อเต็มว่า การจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมและท่าเรืออุตสาหกรรมในบริเวณพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคใต้ (Southern Seaboard : SSB)…
แพร จารุ
  งานชั้นนี้ “แพรจารุ” ไม่ได้เขียนเองค่ะ เป็นของคุณวิชัย จันทวาโร ถือโอกาสเอามาลงที่นี่ เพราะตอนนี้อยู่ในช่วงเผยแพร่ให้ผู้อ่านรู้จักทะเลกลาย ทะเลไทย ที่กำลังถูกมือร้ายอย่างเซฟรอนบริษัทขุดเจาะน้ำมันข้ามชาติทำลาย ภายใต้นโยบายของรัฐไทย ***************
แพร จารุ
  บ้านกลาย อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช 30 สิงหาคม 2553              คุณหญิงที่รัก  
แพร จารุ
โลกนี้คนชั่วมากเหลือเกิน และบรรดาคนชั่ว ๆ ก็ล้วนเป็นผู้มีอำนาจ พวกเขามีอำนาจที่จะอนุมัติโครงการใหญ่ ๆ ทำลายฐานทรัพยากรธรรมชาติ แหล่งอาหารที่คนพอจะทำมาหากินได้ พวก เขาขุดภูเขา ถมทะเล โดยไม่สนใจว่าเจ้าของเขาอยู่กันอย่างไร ต่อไปกะปิอร่อยๆ ที่ฉันเอามาฝากคุณก็จะไม่มีแล้ว เพราะที่บ้านฉันจะมี เซฟรอน คุณรู้ไหมมันคืออะไร คือบริษัทยักษ์ใหญ่ของต่างชาติ ที่เข้ามาถมทะเลสร้างท่าเรือ เพื่อขุดเจาะหาพลังงานไปขาย โดยไม่สนใจว่าเป็นแหล่งอาหารของชุมชน ป้าของฉัน แกบอกว่า นอนไม่หลับมานานแล้ว แกกังวลว่าจะอยู่อย่างไร แม่ของฉันอายุเก้าสิบปี ฉันไม่กลับบ้านมาสองปี แม่เก็บกระดาษไว้ให้ฉันสามแผ่น…