ใคร คือ แรงงานอารมณ์?
ในปัจจุบันคนจำนวนมากต้องทำงานในภาวะเคร่งเครียดเพราะต้องคอยเอาอกเอาใจเจ้านายและลูกค้า ที่เปรียบเสมือนพระเจ้า เนื่องจากเป็นที่มาของรายได้ และความมั่นคงในชีวิต การทำเอาอกเอาใจไปจนถึงยอมทำทุกอย่างเพื่อให้หัวหน้างานและท่านลูกค้าพึงพอใจจึงเป็นเป้าหมายและวิธีการสูงสุดของคนทำงานในสังคมทุนนิยม
ความเครียดต่อเนื่องยาวนานที่ต้องพยายามควบคุมตนให้อยู่ในกรอบความพึงพอใจของผู้อื่น ซึ่งบางครั้งก็เต็มไปด้วยความปั่นป่วนไร้เหตุผล เต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกรุนแรง จนต้องรองรับความเครียดเหล่านี้เป็นอย่างมาก
แล้วใครล่ะที่เป็น "ผู้รองรับอารมณ์" ของคนเหล่านี้อีกต่อหนึ่ง ใช่แล้ว "แรงงานอารมณ์" ผู้อยู่ในภาคบริการนั่นเอง ตั้งแต่พนักงานต้อนรับ พนักงานเสิร์ฟ ผู้ให้บริการตามสถาบันความงาม และดูแลสุขภาพ ออกกำลังกาย ที่เป็นแรงงานอารมณ์ชั้นสูงหน่อย จนไปถึงแรงงานอารมณ์ที่อยู่ในภาวะเสี่ยงมากๆ นั่นคือ แรงงานอารมณ์ที่ก้ำกึ่งว่าจะเป็นอาชีพผิดกฎหมาย
แรงงานอารมณ์ กลุ่มที่เสี่ยงเหล่านี้อยู่ในภาวะเสี่ยงมากที่จะโดนเอารัดเอาเปรียบจากนายจ้าง และลูกค้า เนื่องจากการหากินของตัวเองอาจมีลักษณะผิดกฎหมายอยู่แล้ว เช่น การให้บริการทางเพศ หรือกิจกรรมที่ส่อไปทางลามกอนาจร หรือขัดต่อศีลธรรมอันดี ซึ่งทำให้การทำงานของคนเหล่านี้ไม่มีกฎหมายคุ้มครอง
ความเสี่ยงจึงเกิดการถูกบังคับให้ร่วมเพศโดยไม่สมยอมหรือเกินกว่าที่คาดเดาได้ในเบื้องต้น เช่น รุนแรง ป่าเถื่อน บาดเจ็บ หรือต่ำทราม ดังนั้นการไม่มีกฎหมายคุ้มครองและรองรับ จึงเป็นความอันตรายถึงขีดสุด เพราะบางครั้งโดนเบี้ยวเงิน ก็ไม่อาจไปร้องใครได้ เพราะตนก็ทำอาชีพผิดกฎหมายอยู่แล้ว ซ้ำแรงงานในภาคนี้จำนวนมากเป็นแรงงานต่างด้าวอีกด้วย
การเหยียดหยาม หญิงคนชั่วขายตัว ทำไมจึงเป็นตราบาป หญิงเหนือ?
เป็นที่ทราบกันโดยไม่ต้องประกาศเป็นทางการว่า ชายไทยจำนวนมากมักคิดว่า สาวเหนือเป็นผู้หญิงที่พร้อมจะเป็นวัตถุทางเพศ ในฤดูกาลท่องเที่ยวจึงเกิดเซ็กส์ทัวร์กันขึ้นมาที่ภาคเหนือช่วงหน้าหนาว หรือเมื่อพบสาวเหนือในเมืองใหญ่ก็มักจะคิดเอาว่าเป็นผุ้หญิงที่เห็นแก่เงิน มีจริตมารยา หรือเรื่อยไปจนคิดว่าเป็นคนที่ "ง่าย"
หรือแม้แตสังคมไทย หรือผู้หญิงไทยเองจำนวนมากก็มักให้ภาพเหมารวมสาวเหนือ ในเชิงเหยียดหยาม ดังปรากฏในสื่อ วัฒนธรรม งานบันเทิง แม้กระทั่งการด่า สุภาพสตรีที่ตำแหน่งทางการเมือง ด้วยเนื้อหาหยาบคาย หยาบโลน เหยียดหยามในเชิงดูถูกว่า เป็นหญิงงามเมือง
ภาพเหมารวมนี้เกิดได้อย่างไร?
คงปฏิเสธมิได้ว่า ถ้ามองมาจากสายตาของชาวต่างชาติ ก็จะมองประเทศไทยเป็น สวรรค์ในเรื่องเพศ มีคนขายบริการทางเพศอย่างหลากหลาย ทั่วไป และมีราคาถูกมาก ภาพเหล่านี้ คือ สิ่งที่ฝังหัวชาวต่างชาติจำนวนมากเมื่อมองมาที่ประเทศไทย ในสายตาแบบเจ้าอาณานิคมที่ขนเงินมาซื้อบริการราคาถูกในประเทศกำลังพัฒนา เพราะมีแรงงานทางเพศเยอะ อันเนื่องจากความยากจนและเหลือ่มล้ำของประเทศไทย
ไม่ต่างกัน เจ้าอาณานิคมกรุงเทพ และผู้มั่งคั่งในประเทศไทย ก็คุ้นเคยกับการใช้เงินซื้อหาแรงงานอารมณ์ราคาถูก ด้วยเหตุที่ประชากรทางภาคเหนือมีปัญหาความยากจนมากในอดีต และมีปัญหาเรื่องการกระจายความมั่งคั่งจากกรุงเทพที่เป็นส่วนกลางไปยังภูมิภาคต่างๆในประเทศอีกด้วย
แต่ภาพเหมารวมนี้ทำไมติดตัว "สาวเหนือ" ก็ด้วยเหตุที่สาวเหนือมีต้นทุนเป็น "รูปกายที่งามงด" อยู่ในความปรารถนาของชายไทยเป็นจำนวนมาก และมีไม่น้อยที่ทำให้ หญิงในภูมิภาคอื่นต้องช้ำใจเพราะชายของของตนไปหลงไหลได้ปลื้ม หรือถึงขนาดทิ้งตนไปอยู่กับสาวเหนือ
บางคนอาจจะบอกว่า หญิงชั่วเลือกเป็นโสเภณี เพราะอาชีพนี้สบายและหาเงินได้ดี
การหาเงินได้ดีอาจจะจริง แต่ไม่จริงทั้งหมด เพราะต้องไม่ลืมว่า สถานประกอบการ และนายจ้าง แมงดา มาม่าซัง และคนอีกมากมายก็ได้ขูดรีดผลประโยชน์ไปจากแรงงานอารมณ์เหล่านี้
ความเสี่ยงต่อสุขภาพ ร่างกาย และจิตใจ รวมไปถึงการขาดไร้สวัสดิการดูแลหลังเลิกอาชีพ หรือติดโรคอันตรายเพราะการทำงาน หรือโดนบังคับร่วมเพศอย่างไม่ปลอดภัย หรือการทำร้ายร่างกาย กลับถูกสังคมมองข้าม
จึงไม่น่าแปลกใจที่การเหยียดหยาม หญิงงามเมืองเอื้องเหนือ จะยังอยู่ต่อไป เพราะชาวต่างชาติก็พร้อมจะมองเมืองไทยเป็น ประเทศโสเภณี เช่นกัน หากยังมีคนจำนวนมากได้ประโยชน์จาก แรงงานอารมณ์(ทางเพศ)ราคาถูก ไม่ว่าจะเป็น ผู้ซื้อบริการ ผู้ประกอบการ นายหน้า หรือแม้กระทั่งเจ้าหน้าที่ของรัฐและฝ่ายการเมืองที่รีดไถรายได้จากกิจกรรมนอกกฎหมายเล่านี้
และยิ่งไปกว่านั้น การปล่อยให้เกิดความเหลือ่มล้ำ มีคนยากจน ไร้อำนาจต่อรอง ก็จะสามารถผลิตแรงงานอารมณ์จำนวนมากมารองรับ ความหื่นราคาถูก ทั้งในหมู่ชายไทย และชายชาวต่างชาติ ที่ล้วนได้ประโยชน์จากความไร้อำนาจต่อรองทั้งในสถานที่ซื้อบริการ ไปจนถึงอำนาจต่อรองในรัฐ และระดับโลก
หาก แรงงานอารมณ์(ทางเพศ) ยังเป็นอาชีพผิดกฎหมายและไม่มีมาตรการปกป้องสิทธิ ให้โสเภณีเป็นอาชีพที่ได้รับการดูและและสามารถต่อสู้ต่อรองเพื่อสิทธิตนได้มากขึ้น หรือไม่มีการแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจลดความเหลื่อมล้ำ ภาพเหมารวมที่คนไทยจำนวนหนึ่งชอบเหยียดหยาม "สาวเหนือ" ก็จะดำรงอยู่คู่กับ ภาพ
"ประเทศไทยในฐานะสวรรค์แห่งกิจกรรมทางเพศราคาถูก" ซึ่งกลายเป็นภาพลักษณ์ไทยในสายตาชาวโลกเป็นแน่
เพราะต้องบอกจริงๆ ว่า โสเภณีในต่างประเทศน้อยมากและราคาแพง ถือเป็นแรงงานอารมณ์ขั้นสูง ที่มีสถานะไม่ต่ำต้อยมากนักเมื่อเทียบกับอาชีพอื่น และเป็นความเชี่ยวชาญเฉพาะ และหายาก ต่างจากประเทศไทยที่พร้อมจะผลิตแรงงานเหล่านี้ในราคาต่ำ จนกลายเป็นภาพลักษณ์ติดประเทศ เรื่อยมา
อ้อ ได้ข่าวว่าเดี๋ยวนี้ ปรับตัวเป็นนายหน้า นำพาแรงงานต่างด้าว และชาติพันธุ์ต่างๆ เข้ามาแทน
นี่เราจะทำให้ประเทศไทยมีภาพลักษณ์เป็น "ประเทศแมงดา" เพิ่มขึ้นมาอีกหรือ