Skip to main content

บทความในวันนี้ เป็นผลสืบเนื่องมาจาก การได้รับทราบสองข่าว ซึ่งในความเห็นของข้าพเจ้า เป็นข่าวที่ไม่ได้อยู่ในกระแสความสนใจ ของคนไทยทั่วไปแต่อย่างไร แต่เป็นข่าวที่ข้าพเจ้า อยากเรียกร้องให้ทุกคน หันมาตระหนักถึงความน่ากลัว ของการถูกคุกคามโดย "Identity thief"

Identity thief คือ กลุ่มคนที่มุ่งขโมยข้อมูลส่วนบุคคล โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลที่ใช้แสดงตัวตน ของบุคคลต่างๆ โดยมีเป้าหมายเพื่อ ใช้ข้อมูลดังกล่าวปลอมแปลงตนเป็นบุคคลผู้นั้น เพื่อหาประโยชน์อื่นๆต่อไป

ข่าวแรกที่เกิดขึ้น เป็นเหตุการณ์ที่ผู้หญิงคนหนึ่ง ถูกวิ่งราวกระเป๋าสตางค์ ภายหลังจากเกิดเรื่อง ซึ่งข้าพเจ้าเจ้าจำได้ไม่แน่นอนว่านานเท่าไหร่ ผู้เคราะห์ร้ายได้ไปแจ้งความ เพื่อนำใบแจ้งความไปขอทำเอกสารหลักฐานต่างๆ ซึ่งรวมถึงบัตรประจำตัวประชาชน ตามปกติ แต่สิ่งผิดปกติเกิดขึ้น เมื่อทางสำนักงานเขตที่ผู้เคราะห์ร้ายเข้าไปขอทำบัตรแจ้งว่า ข้อมูลในระบบออนไลน์ระบุว่า ได้มีคนที่อ้างตัวเป็นตัวผู้เคราะห์ร้าย เข้ามาขอทำบัตรประชาชนใหม่เรียบร้อยแล้ว จึงไม่สามารถทำบัตรประชาชนใหม่ให้ได้

จนถึงวันนี้ เป็นเวลากว่า 2 ปี ที่ผู้เคราะห์ร้ายต้องกลายเป็นบุคคลเถื่อน เนื่องจากหลักฐานทางกฏหมาย ยืนยันว่าความเป็นตัวเธอไม่ใช่ตัวเธอ แต่กลับกลายเป็นคนอื่นที่เป็นตัวเธอ

ซึ่งนั่นหมายความว่า เหตุการณ์ชิงทรัพย์ในวันนั้น ไม่ใช่เพียงเหตุการณ์ชิงทรัพย์ธรรมดา แต่เป็นการปล้นความเป็นตัวตนของเธอไปด้วย

ข่าวที่สอง แตกต่างกับข่าวแรก ทั้งในแง่ของ การเป็นที่รู้จักในสังคม ของตัวบุคคลผู้ตกเป็นเหยื่อ วิธีที่ถูกกระทำ และผลกระทบ ซึ่งผู้ที่ตกเป็นเหยื่อในคราวนี้ คือนักแสดงหญิงที่ชื่อ ก้อย แห่งภาพยนตร์เรื่อง รักสามเศร้า ซึ่งเป็นบุคคลที่มีผู้คนรู้จักในวงกว้าง โดยมีผู้พยายามปลอมแปลงเป็นเธอ ด้วยการสร้างบัญชีชื่อผู้ใช้ หรือ account ในเครือข่ายสังคมออนไลน์ Facebook ด้วยชื่อของเธอ และตกแต่งหน้าดังกล่าว ด้วยข้อมูลส่วนบุคคลของเธอ ซึ่งหาได้ไม่ยากจากสื่อทั่วไป เพื่อทำให้ทุกคนเชื่อว่าเป็นหน้า account ของเธอ

อย่างไรก็ดี การออกข่าวในครั้งนี้ ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกเพียงว่า มีจุดประสงค์เพียงแค่ แจ้งให้สังคมรู้ ว่าเธอถูกผู้ไม่หวังดีปลอมเป็นเธอใน Facebook โดยไม่ได้มีการดำเนินการแก้ไขแต่อย่างใด ซึ่งทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกว่า คุณก้อย คงไม่ตระหนักถึงผลกระทบ ที่อาจเกิดขึ้นจากเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งข้าพเจ้าเชื่อว่า ผู้ไม่หวังดีซึ่งปลอมเป็นเธอ และแทรกตัวเข้าไปในเครือข่ายสังคมของเธอ อาจมีจุดประสงค์ที่จะหาประโยชน์ จากการเข้าไปติดต่อกับคนในวงกว้าง โดยหลอกว่าเป็นเธอ โดยไม่ใช่แค่เพียง ทำไปเพื่อความสนุกสนาน

สองข่าวข้างต้น สะท้อนให้เห็นว่าในปัจจุบัน การถูกคุกคามโดย Identity thief เกิดขึ้นได้หลายรูปแบบ อีกทั้งมีแน้วโน้มที่จะเกิดได้มากขึ้น และมีผลลัพธ์ที่รุนแรงมากขึ้น เนื่องจากในปัจจุบัน สังคมเราใช้ พึ่ง และให้ความเชื่อถือ กับข้อมูลในระบบต่างๆ เพื่อยืนยันตัวตนของแต่ละปัจเจกบุคคล มากขึ้นทุกวัน

ในข่าวแรก การที่ผู้เคราะห์ร้ายต้องกลายเป็น ต้องกลายเป็นคนเถื่อน และเธอไม่สามารถยืนยันความเป็นตัวเธอ เพื่อทำธุรกรรมใดๆ หรือไม่สามารถเรียกรับผลประโยชน์ใดๆ ที่เป็นของเธอได้ ก็ถือว่าเป็นผลลัพธ์ที่รุนแรงกับตัวเธอแล้ว

แต่ความรุนแรงของผลลัพธ์ ของการถูกขโมยตัวตน อาจไม่ได้จบเพียงแค่นั้น โดยอาจมีผลลัพธ์ที่รุนแรงมากขึ้น ถ้าหากคนที่กลายเป็นตัวเธอ ใช้ข้อมูลความเป็นตัวตนของเธอ ไปทำธุรกรรมฉ้อฉล หรืออาชญากรรมทางธุรกิจ ต่อไป

โดยผลลัพธ์จะยิ่งรุนแรงขึ้น หากผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ เป็นบุคคลที่มีหน้าที่ และความรับผิดชอบสูงในสังคม หรือเป็นผู้มีทรัพย์สินมากมาย

และจะยิ่งรุนแรงที่สุด หากผู้ที่กระทำการชิงทรัพย์ ทำไปโดยตั้งใจตั้งแต่แรก ที่จะขโมยข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อช่วงชิงความเป็นตัวตน ของบุคคลผู้นั้น เพื่อทำธุรกรรมฉ้อฉล หรืออาชญากรรมทางธุรกิจ ไม่ใช่แค่หวังใน ทรัพย์สินในกระเป๋าสตางค์ และได้นำเอาบัตรประชาชนที่ได้มาไปขาย หรือทิ้งไปอย่างไม่ตั้งใจ

อย่างไรก็ดี แม้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในข่าวที่สอง ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เกิดขึ้น กับหลักฐานทางราชการใด เช่นเดียวกับในข่าวแรก แต่เกิดขึ้นกับผู้มีชื่อเสียงในสังคม เป็นที่รู้จักในสังคมวงกว้าง จึงทำให้เป็นอีกกรณี ที่มีความเป็นไปได้ ที่จะเกิดความเสียหายรุนแรง หากคุณก้อยไม่ให้ความสนใจ ดำเนินการอย่างจริงจัง ที่จะตัดไฟเสียแต่ต้นลม

อะไรจะเกิดขึ้น ถ้าผู้ปลอมเป็นคุณก้อย ในเครือข่ายสังคม Facebook ใช้เครือข่ายสังคมของคุณก้อย เพื่อล่อลวงทรัพย์จากผู้อื่นๆ หรือเพื่อการก่ออาชญากรรม

การที่ Identity thief เพิ่มปริมาณมากขึ้นในปัจจุบัน มีสาเหตุสำคัญมาจาก การที่โลกของเรามี ใช้ และพึ่งพา ICT ในรูปแบบของระบบข้อมูลต่างๆ ทั้งแบบออนไลน์และไม่ออนไลน์ มากขึ้นๆทุกวัน และยิ่งจะทวีความรุนแรงมากขึ้น เมื่อหลายประเทศในโลก มีความพยายามที่จะทำให้ บัตรประชาชนอิเลคทรอนิกส์เพียงใบเดียว สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลทุกอย่าง ของประชาชนแต่ละคน และอนุญาตให้ผู้ที่จำเป็นต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งได้รับอนุญาตจากระบบ สามารถเข้าถึงได้ข้อมูลนั้นๆได้ เมื่อต้องการ

แต่เนื่องจากในสังคม ยังมีความเหลื่อมล้ำทางความรู้ ความเข้าใจ ในการใช้งานเทคโนโลยี และขาดการตระหนักถึงความปลอดภัย ในการใช้งานระบบข้อมูลต่างๆอยู่อีกมาก จึงทำให้ผู้ที่มองเห็นช่องว่าแห่งความไม่เท่าทันนี้ หาประโยชน์จากช่องว่างดังกล่าว (เคยถูกพูดถึง ในบทความตอนที่ 3 เรื่องการโลกาภิวัฒน์ ปฏิญญากรุงเทพ เว็บเครือข่ายสังคม และภัยคุกคามทางเทคโนโลยี)

การเพิ่มปริมาณของ Identity thief เป็นสัญญาณสำคัญ ที่ทำให้เราทุกคน ต้องตระหนัก ในทุกครั้งที่เราเอาข้อมูลส่วนบุคคลของตน ไปแจกจ่ายไว้ในที่ต่างๆ เช่น บนเครือข่ายสังคมออนไลน์ ซึ่งกำลังได้รับความนิยมสูง ในทุกครั้งที่เราใช้เครื่องคอมพิวเตอร์สาธารณะ จัดการข้อมูลหรือทำธุรกรรมที่เป็นความลับ และในทุกครั้งที่เราพยายามนำข้อมูลส่วนบุคคล มาจัดการผ่านเทคโนโลยีระบบข้อมูล โดยไม่ระมัดระวัง ...เนื่องจากเราไม่มีสิทธิ์รู้ตัวเลยว่า เรากำลังตกเป็นเป้าหมายของพวก Identity thief เมื่อไหร่

ยิ่งข้อมูลความเป็นตัวตนของเรา เข้าถึงได้ง่าย หรือหาได้ทั่วไปได้มากเท่าไหร่ ความเป็นตัวตนของเรายิ่งเสี่ยงที่จะถูกค้นหาและสืบค้น เพื่อการปลอมแปลง และนำไปใช้ในทางมิชอบ ได้มากขึ้นเท่านั้น

คุณกำลังสนุกกับการใช้งานเทคโนโลยี เพื่อการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล จนลืมตระหนักถึงความปลอดภัย ของความเป็นตัวตน ของคุณรึเปล่า

บล็อกของ SenseMaker

SenseMaker
Digital Divide คือ คำในภาษาอังกฤษที่ใช้เรียกสภาวะ ที่ซึ่งความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ICT เป็นตัวการสำคัญ ที่ทำให้ช่องว่างและความแตกต่างในสังคมเกิดขึ้นและขยายตัวในขณะที่ปัจจุบัน ทั่วโลกกำลังให้ความสำคัญกับ ICT ในฐานะที่เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ต่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจ โดยเห็นได้จากแนวนโยบายของรัฐบาลในหลายประเทศทั่วโลก ที่มุ่งสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ทาง ICT เพื่อให้บริการต่างๆของภาครัฐ ผ่านเครื่องมือที่เรียกว่า“รัฐบาลอิเลคทรอนิค” หรือ e-government ทั่วโลกก็กำลังเผชิญหน้ากับการขยายตัวของปัญหา ช่องว่างและความแตกต่างในสังคม ไปพร้อมกัน
SenseMaker
ปัจจุบันความก้าวหน้าทาง ICT อนุญาตให้ประชาชนทุกคน สามารถแสดงออกทางความคิดเห็น ได้อย่างกว้างขวาง ผ่านความหลากหลายของช่องทางการติดต่อสื่อสาร และความอุดมสมบูรณ์ของสื่อ ไม่เพียงเท่านั้น ICT ยังอนุญาตให้เราสามารถ จัดการกับข้อมูลและเนื้อหาของการแสดงออกทางความคิด เพื่อใช้สำหรับการเข้าถึงในวงกว้างโดยผู้คนอื่นต่อไปได้อีกด้วยด้วยความสามารถของ ICT ข้างต้น ทำให้ประชาชนเริ่มมองเห็น และตระหนักในศักยภาพ ของการนำICT มาใช้เพื่อสะท้อนสภาพปัญหาที่แต่ละบุคคลประสบ มองหาผู้ร่วมชะตากรรมเดียวกัน และมองหาผู้อื่นที่เต็มใจให้ความช่วยเหลือ เพื่อร่วมคิด แสดงความเห็น ให้คำปรึกษา และช่วยกันหาทางบรรเทาหรือแก้ไขปัญหานั้นๆ…
SenseMaker
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของโครงการจัดทำ แผนแม่บททางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารฉบับที่ 2 ของประเทศไทย เพื่อประกาศใช้ระหว่าง พ.ศ. 2552 – 2556 ยังอยู่ในระหว่างการเร่งจัดทำร่าง เพื่อประกาศใช้ให้ทันการเริ่มต้นใช้งานในปีหน้าข้าพเจ้ามีโอกาสได้อ่านแผนแม่บทฉบับร่างดังกล่าว ซึ่งกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ได้เตรียมเพื่อใช้ประกอบการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ ระหว่างวันที่ 4-13 สิงหาคม ที่ผ่านมา ซึ่งข้าพเจ้าคิดว่าน่าจะเป็นฉบับล่าสุด ที่กระทรวงฯเปิดเผยและประชาสัมพันธ์ต่อสาธารณะ (ท่านผู้อ่านสามารถอ่านข้อมูลของโครงการจัดทำแผ่นแม่บทนี้ เพิ่มเติม รวมทั้ง download เอกสารประกอบต่างๆได้ที่ http…
SenseMaker
หากท่านผู้อ่านได้อ่านบทความก่อนๆ ไม่ว่าจะเป็นบทความเรื่อง “การเข้าถึงเทคโนโลยี ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ ความแตกต่างทางสังคม และสังคมในแนวขนาน” หรือเรื่อง “เว็บยุค2.0 สื่อพลเมือง และการท้าทายกระแสหลัก” และเรื่อง “ICT ตัวการแห่งการเปลี่ยนแปลง และผลลัพท์ทางสังคมที่ย้อนแย้ง” ข้าพเจ้าเชื่อว่าบทความเหล่านี้ จะทำให้ทุกท่านที่อ่านเริ่มตระหนัก ข้อเท็จจริงที่ว่า ICT เป็นตัวแปรต้นของความเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่ว่า สังคมของเราทุกวันนี้ มีความหลากหลายทางระบบความคิด ความเชื่อ และมีความแตกต่างทางด้านค่านิยมมากขึ้น ความเปลี่ยนแปลงทางสังคมข้างต้น แน่นอนว่าไม่ได้ถูกผลักดัน ด้วยความก้าวหน้าทางด้าน ICT…
SenseMaker
“คนไทยลืมง่าย” คือคำนิยามหนึ่งที่อธิบายลักษณะความคิดและนิสัยของคนไทย ได้เป็นอย่างดี คนไทยเรามักเลือกที่จะลืมและให้อภัย กับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นทุกๆเรื่อง ไม่ว่าเรื่องนั้นจะสร้างความเดือดร้อนใหญ่หรือเล็กเพียงใดหลายคนแสดงความเห็นว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้คนไทยเรามีอุปนิสัยเช่นนี้ เนื่องจากคนไทยเราส่วนใหญ่ ได้รับอิทธิพลทางด้านความคิดจากพุทธศาสนา ซึ่งปลูกฝังให้คนเรารู้จักให้อภัยกันและกัน ทำให้คนในสังคมของเรา อยู่กันแบบถ้อยทีถ้อยอาศัยและเกื้อกูลกัน ซึ่งนี้คือสิ่งที่หลายคนเห็นว่า “การลืมง่าย” ก่อให้เกิดผลดีกับบ้านเมืองของเราอย่างไรก็ดีธรรมชาติของเหรียญย่อมต้องมีสองด้าน...…
SenseMaker
เป็นความตั้งใจของข้าพเจ้า ที่ปล่อยให้บทความที่แล้ว ยึดพื้นที่คอลัมน์ยาวกว่าปกติสักหน่อย เพื่อดึงความสนใจจากผู้อ่าน และอยากให้ทุกท่านตระหนักว่า แนวโน้มการ Outsourcing ขององค์กรต่างๆ กำลังส่งผลกระทบสำคัญ กับแนวทางการดำเนินชีวิตของทุกคน บทความวันนี้ ให้ความสนใจกับปัญหาความล้มเหลวของโครงการด้าน ICT ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญที่องค์กรต่างๆกำลังเผชิญหน้าอยู่ โดยมีจุดประสงค์เพื่อมุ่งค้นหาส่วนประกอบสำคัญ ซึ่งสามารถช่วยให้องค์กรประสบความสำเร็จ ในการดำเนินโครงการด้าน ICT
SenseMaker
ต้องขอโทษท่านผู้อ่าน ที่ติดตามคอลัมน์กรองกระแส ICT ที่บทความสำหรับอาทิตย์นี้ต้องล่าช้าสักหน่อย เนื่องจากข้าพเจ้าไม่ใคร่สบายเล็กน้อย ในช่วงวันเวลาที่จัดไว้สำหรับเขียนบทความในบทความที่แล้ว ข้าพเจ้าพยายามชี้ให้ทุกท่านเห็น ปรากฏการณ์ที่ว่า ICT เป็นตัวแปรต้นที่สำคัญ ซึ่งสร้างความเปลี่ยนแปลงมากมาย ให้กับองค์กรต่างๆ ทั้งในบริบทของผลกระทบจากภายนอกองค์กร ในรูปแบบของ การทำให้สภาพแวดล้อมในการแข่งขันเปลี่ยนแปลง และในบริบทของผลกระทบที่เกิดภายในองค์กร ในลักษณะของการทำให้ รูปแบบการทำงานและแนวการบริหารทรัพยากรองค์กร ต้องเปลี่ยนไปบทความในวันนี้…
SenseMaker
ICT ตัวแปรต้นแห่งการเปลี่ยนแปลงภายในองค์กร ที่ไม่ควรถูกมองข้าม ก่อนเข้าสู่บทความอาทิตย์นี้ ข้าพเจ้าขอประณามการกระทำ ของผู้ที่ทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย อยู่ในขณะนี้ เนื่องจากข้าพเจ้าถือว่า ใครก็ตามที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งในบ้านเมือง ไม่มีความรักชาติอย่างจริงจัง และเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน มากกว่าประโยชน์ส่วนรวม หากทุกคน เล็งเห็นความสงบสุขและประโยชน์ ของประเทศเป็นสำคัญ จะต้องใช้วิธีประนีประนอม เพื่อหาหนทางแก้ปัญหา ความขัดแย้งทางความคิด ร่วมกัน มากกว่าการยึดเอาความคิดของตนเป็นใหญ่ มองความคิดของอีกฝ่ายว่าไม่ถูกต้อง และมุ่งล้มล้างฝ่ายตรงข้าม…
SenseMaker
หลังจากที่ได้ขีดๆเขียนๆบทความ ในด้านที่ข้าพเจ้าเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์กับสังคมไทย และอยู่ในความสนใจของตัวเอง เป็นระยะเวลาประมาณ 3 เดือน ข้าพเจ้ารู้สึกว่า เป็นเวลาอันสมควร ที่ควรจะทำความเข้าใจ กับผู้ให้ความกรุณาแวะเวียนเข้ามาอ่าน ทั้งขาประจำและขาจร ซึ่งมีอยู่จำนวนหนึ่ง ถึงที่มาของคอลัมน์ “กรองกระแส ICT”จุดเริ่มต้นของคอลัมน์นี้ เกิดจากการที่ข้าพเจ้ามีความสนใจ และมีโอกาสศึกษาหาความรู้ทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ Information Technology (IT) และ ทางด้านระบบข้อมูลสารสนเทศ หรือ Information System (IS) ประกอบกับประสบการณ์ในการทำงาน ในอุตสหกรรมโทรคมนาคม จนถือได้ว่า ข้าพเจ้าโชคดีที่มีความคุ้นเคยกับ ICT…
SenseMaker
บทความในวันนี้ เป็นผลสืบเนื่องมาจาก การได้รับทราบสองข่าว ซึ่งในความเห็นของข้าพเจ้า เป็นข่าวที่ไม่ได้อยู่ในกระแสความสนใจ ของคนไทยทั่วไปแต่อย่างไร แต่เป็นข่าวที่ข้าพเจ้า อยากเรียกร้องให้ทุกคน หันมาตระหนักถึงความน่ากลัว ของการถูกคุกคามโดย "Identity thief"Identity thief คือ กลุ่มคนที่มุ่งขโมยข้อมูลส่วนบุคคล โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลที่ใช้แสดงตัวตน ของบุคคลต่างๆ โดยมีเป้าหมายเพื่อ ใช้ข้อมูลดังกล่าวปลอมแปลงตนเป็นบุคคลผู้นั้น เพื่อหาประโยชน์อื่นๆต่อไปข่าวแรกที่เกิดขึ้น เป็นเหตุการณ์ที่ผู้หญิงคนหนึ่ง ถูกวิ่งราวกระเป๋าสตางค์ ภายหลังจากเกิดเรื่อง ซึ่งข้าพเจ้าเจ้าจำได้ไม่แน่นอนว่านานเท่าไหร่…
SenseMaker
“คู่แข่งกำลังลงทุนในเทคโนโลยี... เราจะรอช้าอยู่ไม่ได้ ต้องรีบดำเนินการผลักดันโครงการแบบเดียวกัน ให้เกิดขึ้นในทันที เพื่อตามให้ทัน และไม่ให้เราสูญเสียโอกาสทางการแข่งขัน"“เทคโนโลยี... กำลังได้รับความนิยมในตลาดโลก สร้างประโยชน์มากมายให้กับ ประเทศนั้นประเทศนี้ หรือองค์กรนั้นองค์กรนี้ ดังนั้นเราจึงควรลงทุนในเทคโนโลยีดังกล่าว อย่างเร่งด่วน”เหตุผลในทำนองข้างต้น เป็นเหตุผลที่ข้าพเจ้าได้ยินอยู่เป็นประจำ จากผู้มีอำนาจตัดสินใจในระดับนโยบาย ขององค์กรระดับต่างๆในประเทศไทย เพื่อนำเทคโนโลยีอันทันสมัย เข้ามาใช้ประโยชน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคโนโลยีทางด้าน ICT
SenseMaker
เช้ามา...เปิดคอม เปิดเนต เช็คตารางนัด เช็คเมล ตอบเมล ล็อคอินเข้า MSN เอาไว้คุยกับเพื่อน หาข้อมูลจาก Google และ Wikipedia เข้าไปดูว่าเพื่อนๆทำอะไรกันบ้าง พร้อมกับอัพเดตของมูลตัวเองบน MySpace, Hi5 หรือ Facebook เข้าไปอ่านข่าว บทความ หรือกระทู้ จากแหล่งข้อมูลเฉพาะด้าน จาก Blog หรือสังคมออนไลน์ต่างๆ ที่สนใจ เข้าไปดูวิดีโอแปลกๆ หรืออัพโหลดวิดีโอฝีมือตนเองบน Youtube เข้าไปอัพเดตรูปตัวเองหรือหารูปสวยๆบน Flickr และโทรหาใครหลายคน ไม่ว่าอยู่มุมไหนของโลกผ่าน Skypeชีวิตที่ดำเนินไปข้างต้น คงมีส่วนคล้ายกับชีวิตใครหลายคนในปัจจุบัน ไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับกลุ่มคนที่มีอายุต่ำกว่า 30…