Skip to main content



 

"ท่านเป็นเจ้านาย มีเงินเดือนกิน ท่านบ่ได้เป็นแม่ค้าหาเช้ากินค่ำ ท่านจะเว้าจังได๋ก็ได้"

คำพูดของแม่ค้าคนหนึ่งดังอยู่ข้างหูเมื่อทุกคนมายืนรอฟังคำตอบจากการไปเจรจากับทางเทศบาลมา


เสียงโทรศัพท์ที่ดังแต่เมื่อคืนบอกถึงเจตจำนงในการจะยึดพื้นที่ค้าขายกลับคืนมาในช่วงเวลาราวตีหนึ่งเศษทำให้เพื่อนบางคนที่ทำงานในศูนย์ภูมิปัญญาไทบ้านต้องรีบออกไปดูแต่เช้า และแน่นอนด้วยความอยากรู้อยากเห็นฉันก็ขอกระเตงติดรถไปด้วยคน


ความผูกพันของคนปากมูนที่เคยร่วมต่อสู้กันมานานนับเกือบยี่สิบปีทำให้ทุกวันนี้ แม้เรื่องราวการต่อสู้เพื่อสายน้ำอาจจะแผ่วลงไปแต่ทุกข์สุขใครมีก็ยังร่วมแชร์แบ่งปัน ดังนั้น เมื่อพี่น้องบางคนที่ประกอบอาชีพค้าขาย ไม่ว่าจะขายปูปลาหรือผักสดในตลาดได้รับความเดือดร้อน แม้ว่ายังไม่รู้จะช่วยอะไรได้บ้างแต่อย่างน้อยก็ขอได้ไปดูแล ถามไถ่ และให้กำลังใจ


ตลาดสดเทศบาลอำเภอพิบูลมังสาหารในช่วงสี่ห้าปีมานี้นับแต่มีการปรับปรุงสร้างอาคารตลาดสดขึ้นมาใหม่ พ่อค้าแม่ค้าบางส่วนก็ได้ย้ายที่ขายมาตั้งแผงริมถนนด้านข้างตลาดซึ่งมีความยาวประมาณห้าร้อยเมตร และมันกลายเป็นความเหมาะเจาะอย่างยิ่งที่ถนนเส้นข้างด้านนี้แทบไม่มีใครใช้เป็นทางสัญจรเนื่องมีถนนหลายสายใกล้ๆ ให้เลือกเดินรถมากกว่า ประกอบกับสองข้างทางมีต้นไม้เงาร่มสองฝั่ง คนมาซื้อจึงพากันเดินบนถนนเลือกซื้อของสดกันอย่างเพลินใจ มันกลายเป็นถนนคนเดินโดยอัตโนมัติ ซึ่งบรรยากาศดีกว่าข้างในมาก


เมื่อเป็นเช่นนี้จึงกลายเป็นแรงบันดาลใจให้พ่อค้าแม่ค้าคนอื่นพากันออกมาขายข้างนอกบ้างหรือบางคนเป็นแม่ค้าใหม่ก็พลอยมาจับจองที่ขายด้วย จนที่สุดแผงริมทางแห่งนี้ก็เต็มไปด้วยของสดมากมายเรียงรายไปจนสุดถนนสองฝั่ง ส่วนข้างในตลาดที่ไม่รับผลกระทบในการปรับปรุงก็ยังคงขายกันตามปกติ


อันที่จริง ฉันเคยคิดมานานแล้วว่าประเทศเมืองร้อนอย่างเรานั้นไม่เหมาะกับการมีตลาดในที่อับอุดอู้เพราะสินค้าของเรามักจะเน่าไวและอาหารหลายชนิดเป็นอาหารที่มีกลิ่นแรง ไม่ว่ากะปิ น้ำปลา ปลาร้า หรืออาหารแห้งหลายชนิดก็มีกลิ่นแรง ดังนั้น ตลาดเดินดินของชาวบ้านต่างจังหวัดที่มักจะวางแผงในที่อากาศปลอดโปร่งนั้นดูเหมาะและเข้ากันดีแล้ว อย่างเวลาไปตลาดเช้าของเมืองลาว ส่วนมากก็จะวางแบกะดินในที่โล่ง สายๆ ก็กลับบ้าน

 

แต่วิธีในเรื่องการจัดระเบียบของเทศกิจหรือเทศบาลนั้นก็มักจะสวนทางกับความต้องการของพ่อค้าแม่ค้าหรือแม้แต่ผู้บริโภคเสมอ เพราะค่านิยม หรือรสนิยมเดิมๆ มักจะบอกเราว่า การขายของแบบนี้ดูไม่เป็นระเบียบ ดูไม่สวยงาม (ในขณะที่กรอบคิดเรื่องความงามในแวดวงศิลปะนั้นไปไกลถึงไหนต่อไหนแล้วขนาดกรุงเทพฯ เมืองหลวงสุดเท่ ที่คนต่างจังหวัดแห่เอาอย่างเสมอนั้นก็ยังจัดงานปิดถนนให้คนเดินบ่อยๆ ถนนสีลมก็เคยปล่อยให้เด็กๆ มาละเลงสีวาดภาพเล่นบนพื้น หรือบางจังหวัดของเมืองไทยก็เคยจัดงานตลาดนัดสีเขียว เน้นบรรยากาศตลาดแบบชาวบ้าน โดยสร้างเพิงขายหลังคามุงหญ้าคา ซึ่งได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวไม่น้อยทีเดียว)


แต่เมื่อสายตาความงามของเราต่างกัน ตลาดสดที่นี่เมื่อปรับปรุงแล้วเสร็จ มุมค้าขายที่เคยเป็นที่เพลิดเพลินของคนซื้อขายจึงถูกสั่งย้ายให้กลับเข้าไปข้างในดังเดิม พ่อค้าแม่ค้าทุกคนก็ยอมไปโดยดี แต่ไปอยู่ข้างในได้หนึ่งเดือน พ่อค้าแม่ค้าบางส่วนก็ถอยกลับออกมาและตั้งหลักยึดสถานที่ค้าขายเดิมของตนดังที่มีเสียงโทรศัพท์แจ้งข่าวเมื่อคืน


"เข้าไปข้างในแล้วขายบ่ได้เลย เพราะเขาจัดโซนขายของให้เราไม่อยู่ในแถวเดียวกัน อย่างของสดไปขายกับพวกเสื้อผ้า หรือบางคนก็ได้ไปอยู่ในซอกหลังร้านเสื้อผ้า ใครจะไปซื้อ และมันก็อึดอัด"


แน่นอนว่าพ่อค้าแม่ค้าที่เคยอยู่เดิมย่อมได้เลือกพื้นที่ค้าขายที่ดีกว่า ส่วนคนที่ถูกย้ายเข้ามาก็ต้องยอมรับพื้นที่เท่าที่มีไปตามสภาพ


และที่ชวนฮาขำขันกันทุกทีที่เอยถึงความเดือดร้อนของแม่ค้า คือมีอยู่เจ้าหนึ่ง ขายปลาร้าแต่ถูกจับให้ไปอยู่ใกล้กับร้านเช่าชุดวิวาห์ คนมาลองชุดบางคนก็ปวดเศียรเวียนหัวเพราะกลิ่นปลาร้าส่วนแม่ค้าปลาร้าก็ขายไม่ได้ เพราะถูกจัดให้มาอยู่คนละทิศละทางกับพวกขายของสด


จวบหนึ่งเดือนผ่านไปเมื่อขายของกันไม่ได้เลยจึงทำให้เกิดยุทธการยึดหัวหาดการค้าเดิมเอาในดึกคืนหนึ่ง พร้อมผักสด หนังควาย กะปอม ปลาร้า ปลาเอือบ ปลาแห้ง ฯลฯ ตามแต่ชนิดสินค้าของแต่ละคน


รถดับเพลิงสองสามคันมาจอดรอไว้แล้ว รถตำรวจก็กระจายเสียงไม่ให้คนเข้ามาซื้อเพราะถือว่าผิดกฎหมาย เมื่อถึงยามสายทางเทศบาลยอมเปิดโต๊ะเจรจากับคณะกรรมการกลุ่มพ่อค้าแม่ค้า ทุกคนที่มายืนจับกลุ่มคุยกันต่างบอกว่าถ้าเราไม่สามัคคีไม่เข้มแข็ง เขาคงไม่ยอมเราแน่ พวกข้างในบางคนก็รอสมน้ำหน้าอยู่


ฉันอดคิดถึงการต่อสู้ของคนกลุ่มน้อยที่เกิดขึ้นจำนวนมากในสังคมไทยเราไม่ได้ว่า มันเป็นธรรมดาเช่นนี้เอง เมื่อมีการต่อสู้เรียกร้อง จะมีคนบางกลุ่มที่ไม่เอาด้วยและรอดูความพ่ายแพ้ของอีกฝ่าย แต่แน่นอนว่าถ้าผลกลับกลายเป็นตรงกันข้าม ประโยชน์ที่ได้ ตนก็มีส่วนที่จะได้รับเช่นกัน แม่ค้าบางคนบอกว่า คอยดูเถอะ ถ้าเขาอนุญาตให้ขายข้างนอกได้ตามเดิม เดี๋ยวพวกนั้นก็จะออกมาเหมือนกัน


อันที่จริง ข้อเรียกร้องของแม่ค้าพ่อค้าหาใช่จะต้องออกมาข้างนอกเพียงสถานเดียวเท่านั้น พวกเขาต่างบอกว่า ถ้าเพียงแต่ทางเทศบาลจะจัดโซนค้าขายให้พวกเขาได้อยู่ในโซนเดียวกัน พวกเขาก็ตกลง แต่นี่เล่นจัดให้อยู่คนละทิศละทาง ขายของไม่ได้เลยแล้วใครจะอยากอยู่


"
ท่านเป็นเจ้านาย มีเงินเดือนกิน ท่านบ่ได้เป็นแม่ค้าหาเช้ากินค่ำ ท่านจะเว้าจังได๋ก็ได้"

เสียงแม่ค้าบางคนพูดมาอย่างอัดอั้น

"ทำไมเขาไม่สอบถามคนซื้อบ้างว่าต้องการแบบไหน ฉันว่าคนมาซื้อก็อยากซื้อข้างนอก เห็นหลายคนบ่นเข้าไปซื้อข้างในแล้วมันวิงมันเวียนหัว มันร้อน อึดอัดจะตาย"

"คราวหน้าบ่ต้องเลือกนายกเทศบาลฯ คนนี้"

การเรียนรู้ในระบอบประชาธิปไตยเกิดขึ้นแล้วในกลุ่มคนเล็กๆ


เช้านี้แผงค้าขายราวห้าสิบกว่าแผงพากันมาตั้งร้านริมทางดังที่เคยเป็นแต่ก่อน ทุกคนยังใจเต้นตุ๊มๆ ต่อมๆ ว่าจะถูกสลายไหม หรือว่าจะได้รับความเข้าใจและอนุญาตให้ขายได้


ราวบ่ายกว่าๆ เมื่อคณะกรรมการพากันกลับมาพร้อมกับข่าวดีว่าท่านนายอำเภออนุญาตแล้วโดยบอกว่า ถ้าแม่ค้าพ่อค้าขายของที่นี่ดีกว่าก็ให้ขายที่นี่จนกว่าจะมีการปรับปรุงท่อระบายน้ำแล้วเสร็จ (ลืมเล่าว่าหลังจากย้ายพ่อค้าแม่ค้าให้เข้าไปข้างในเมื่อหนึ่งเดือนก่อน ครึ่งหนึ่งของถนนเส้นนี้ตอนนี้ได้ขุดดินทำท่อระบายน้ำ ซึ่งหากเสร็จครึ่งหนึ่งนี้แล้ว นายอำเภอก็จะให้ย้ายมาขายฝั่งที่ทำเสร็จและเริ่มทำท่อระบายน้ำในฝั่งที่เหลือ)


ทุกคนพากันยิ้มแย้มหน้าตาชื่นบาน

หลายคนเริ่มกางร่มคันใหญ่วางของขายกันอย่างสบายใจ แต่...

รถดับเพลิงยังไม่ยอมถอย รถตำรวจก็ยังประกาศเสียงผ่านไมโครโฟนดังเดิมว่าการขายของบนพื้นที่นี้ผิดกฎหมายให้พ่อค้าแม่ค้าย้ายออกไป การเจรจานานนับหลายชั่วโมงที่หลอกให้แม่ค้าดีอกดีใจดูเหมือนจะเป็นเพียงคำพูดลวงๆ ลมๆ


ไม่มีใครคาดคิดว่าตราบจนขณะนี้เป็นเวลาห้าทุ่มกว่าแล้ว รถดับเพลิงก็ยังจอดที่เดิม รถตำรวจยังจอดที่เดิม แม่ค้าพ่อค้าพากันนอนเฝ้าสินค้าและแผงหน้าร้านของตน ไม่กล้ากลับไปหรือละทิ้งแผงไม้ผุๆ พังๆ ที่ใช้ทำมาหากินมานานไว้ริมทางอย่างที่เคยเป็น


มันสุดจะคาดเดาได้ว่าดึกดื่นคืนนี้จะเป็นอย่างไร

 

บล็อกของ สร้อยแก้ว

สร้อยแก้ว
  ๑.ผูกพัน เป็นชื่อเพลงเพลงหนึ่งไม่บ่อยนักที่ฉันจะได้ฟังเพลงสักเพลงแล้วมันตรึงเราให้อยู่นิ่งๆ ตั้งอกตั้งใจฟังจำได้ว่า วันนั้นฉันนอนเปลที่ผูกเข้ากับเสาอาคารและต้นไม้ข้างศูนย์ฯ มีกิจกรรมค่ายของน้องๆ วัยมัธยมและมหาวิทยาลัยราวสี่สิบคน บรรดาพี่เลี้ยงเป็นคนทำงานด้านสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อมที่แต่ละคนล้วนฝีมือฉกาจฉกรรจ์ โดยเฉพาะ แคน และน้องผู้ชายอีกคนจำชื่อไม่ได้ (มาจากแก่งเสือเต้น) ดำเนินกิจกรรมให้กับเด็กๆ ได้อย่างมีสาระและสนุกสนาน เรียกว่าเอาอยู่ เก่งมากๆ
สร้อยแก้ว
 หน้าบ้านดอกโมกบานก่อนเพื่อนดอกมะลิตามมาดอกคูนเริ่มผลิไสวลั่นทมสี่ต้นที่เคยปลูกเองกับมือก็ผลิดอกให้ชมเร็วทันใจปีที่แล้วนี้เอง, ตอนนั้นเอามาปลูกกับเด็กหญิงไพจิตรพายุคะนองทำให้กิ่งก้านใหญ่ของลั่นทมหน้าศูนย์ฯ หักฉันแบ่งออกเป็นสี่กิ่งปลูกรอบบ้านดินไม่คิดว่าวันหนึ่งจะได้มาอยู่บ้านหลังนี้ลั่นทมกลิ่นหอม ชอบเด็ดมาดมดอกพุก ไม้ยืนต้นก็บานแล้วสีขาวดอกยอกขี้หมาส่งกลิ่นหอมจากคืนถึงเช้ามันเป็นดอกที่ชื่อกับตัวไม่เข้ากันเลยยอกขี้หมาสีขาวร่วงหล่นบนพื้นสีขาวเกลื่อนทางเดินดูสวยดียามเช้าตื่นมาเดินเล่น สูดดมกลิ่นหอมของดอกไม้แสนสดชื่นเย็นวันนี้…
สร้อยแก้ว
แม้ม็อบเสื้อสีๆ จะซาลงไปแล้ว (ซาแต่นามภาพ-รูปธรรม แต่ในความรู้สึกนั้นยังคงไหลแรง) แต่ฉันก็ยังเชื่อว่าคนที่เข้าร่วมแต่ละกลุ่มย่อมมีความคิด มีทัศนคติที่ชัดเจนของตนเอง อย่างที่ทิ้งท้ายไว้ในตอนที่แล้วว่าฉันจะนำความคิดของ ไม้หนึ่ง ก.กุนที มานำเสนอ เพราะเห็นว่าวิธีคิดของเขาน่าสนใจมาก ซึ่งแม้ปัจจุบันฉันจะยังอยู่ขอบปลายชายแดนอีสาน ไม่มีโอกาสได้เจอหรือพูดคุยกับตัวตนจริงๆ ของเขา และบทสัมภาษณ์ที่คัดลอกมาฝากนี้ก็เคยผ่านหน้านิตยสารมาบางส่วนแล้ว แต่ฉันก็ยังอยากให้ใครอีกหลายๆ ที่อาจยังไม่ได้ผ่านตากับความเห็นเหล่านี้ได้ลองอ่านเล่นๆ ดูบ้าง
สร้อยแก้ว
ไม้หนึ่ง ก. กุนที - เป็นใคร? สำหรับคนที่ไม่ได้สนใจงานเขียนประเภทกวีนิพนธ์หรืองานวรรณกรรม ก็มีความเป็นไปได้สูงที่อาจจะตั้งคำถามนี้ แต่สำหรับแวดวงนักเขียนหรือคนที่สนใจงานวรรณกรรม ย่อมรู้จักเขาดีว่าเขาคือหนึ่งในกวีหัวก้าวหน้าที่มีความสามารถสูงในด้านฉันทลักษณ์จนก้าวพ้นกรอบกฎเกณฑ์ของฉันทลักษณ์ไปได้อย่างสง่างามและพยายามที่จะให้ฉันทลักษณ์รับใช้ศิลปะ มีชีวิตชีวา มากกว่าเพียงแค่ถ้อยคำไพเราะเพราะพริ้ง
สร้อยแก้ว
แมนยูฯ คือ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ศูนย์ฯ คือ ศูนย์ภูมิปัญญาไทบ้านปากมูนฉันย้ายจากบ้านเช่าในเมืองโขงเจียมมาอยู่บ้านดินของศูนย์ภูมิปัญญาไทบ้านปากมูน ได้ ๑ เดือนเต็มๆ แล้วและนับตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ภายในบ้านที่มีโทรทัศน์ใส่กล่องกระดาษตั้งอยู่ มันก็มีหน้าที่เป็นพนักพิงยามเขียนหนังสือ (กับโต๊ะญี่ปุ่น) ให้เท่านั้น ฉันขอความร่วมมือจากคนร่วมชายคาบ้านว่าหากอยากดูข่าวสารจากโทรทัศน์ก็ช่วยออกแรงเดินสักร้อยกว่าเมตรไปดูในห้องทำงานของศูนย์ฯ เถอะนะ ซึ่งที่นั่นจะมีน้องชายอ้วนดูอยู่เป็นประจำ (และนอนที่นี่) คนอาศัยชายคาเดียวกันก็นับว่ามีน้ำใจยิ่ง ให้ความร่วมมือกับคนเรื่องมากอย่างฉันโดยดี
สร้อยแก้ว
ไม่ได้ตั้งใจจะเลี้ยงเล้ยยยยย... จริงๆ พับเผื่อยซิ วันประชุมสมัชชาคนจน ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบความเดือดร้อนจากการสร้างเขื่อน ได้มาประชุมปรึกษาหารือกันที่ศูนย์ภูมิปัญญาไทบ้าน เจ้าแมวตัวนี้นอนซุกอยู่ในรองเท้าเจ้าอ้วน - เด็กอ้วนแห่งรายการวิทยุชุมชน เด็กๆ แถวนี้บอกว่าพี่น้องมันตายไปหมดแล้ว หมาฟัดเรียบฉันได้แต่ฟังเขาพูด ไม่ได้ขึ้นไปฟังเขาประชุมด้วย เลยไม่รับรู้ต่อการมีอยู่ของมันแต่ว่าพอบ่ายแก่ๆ ก็มีมือดีจับใส่กระเป๋าเสื้อเดินมาให้ที่บ้านดิน"อยู่ที่นี่ดีกว่านะ ไม่งั้นเดี๋ยวมันจะถูกหมาฟัดตาย"เจ้าของเสียงดึงมันออกมา ตัวเล็กๆ อยู่ในอุ้งมือเดียวเท่านั้นของชายหนุ่มฉันมองแล้วทั้งยิ้มทั้งถอนใจ
สร้อยแก้ว
ร้อนๆ อย่างนี้ ซื้อน้ำแข็งกินทีไร ก็อดคิดถึงตู้เย็นไม่ได้ทุกที ถ้ามีตู้เย็นฉันคงจะซื้อน้ำแข็งกินไม่เปลืองเท่านี้ เพราะกินเท่าที่ต้องการ เหลือก็ใส่ตู้เย็น หรือบางทีก็ทำน้ำแข็งกินเองก็ได้ ส่วนของสดหรืออาหารที่กินเหลือก็แช่ตู้เย็นไว้ได้ หิวเมื่อไหร่ก็นำมากินได้อีก ไม่เปลือง อืมม์! คิดทีไรก็อยากกลับไปเอาตู้เย็นที่กรุงเทพฯ ทุกที แต่ก็ติดตรงที่ฉันไม่เคยแน่ใจสักทีว่าจะปักหลักที่ไหน การเคลื่อนย้ายบ่อยจึงไม่เหมาะที่จะมีสัมภาระอะไรมาก นี่ขนาดว่าไม่มาก ฉันก็ยังซื้อโทรทัศน์ (ไว้ดูข่าวสารบ้านเมือง) เครื่องซักผ้า (แก่แล้ว นั่งซักปวดหลัง) หนังสืออีกหนึ่งเข่งและข้าวของจิปาถะอีกสองเข่งกับอีกสองลังเสื้อผ้า…
สร้อยแก้ว
ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาการสร้างเขื่อนสิรินธรเมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๔ ได้จัดงานรำลึก ๑๕ ปีในการต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรมเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ในบริเวณแถบอีสานใต้นี้ นับว่ามีปัญหาของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายของภาครัฐอยู่หลายโครงการ เอาแค่ใกล้ๆ ที่ฉันอยู่ มีปัญหาจากการสร้างเขื่อนอยู่สามโครงการคือ เขื่อนสิรินธร เขื่อนปากมูน และเขื่อนราษีไศล
สร้อยแก้ว
  "ท่านเป็นเจ้านาย มีเงินเดือนกิน ท่านบ่ได้เป็นแม่ค้าหาเช้ากินค่ำ ท่านจะเว้าจังได๋ก็ได้"คำพูดของแม่ค้าคนหนึ่งดังอยู่ข้างหูเมื่อทุกคนมายืนรอฟังคำตอบจากการไปเจรจากับทางเทศบาลมาเสียงโทรศัพท์ที่ดังแต่เมื่อคืนบอกถึงเจตจำนงในการจะยึดพื้นที่ค้าขายกลับคืนมาในช่วงเวลาราวตีหนึ่งเศษทำให้เพื่อนบางคนที่ทำงานในศูนย์ภูมิปัญญาไทบ้านต้องรีบออกไปดูแต่เช้า และแน่นอนด้วยความอยากรู้อยากเห็นฉันก็ขอกระเตงติดรถไปด้วยคน
สร้อยแก้ว
ฉันมีโอกาสไปดูงานรณรงค์เลิกเหล้าของหมู่บ้านคำกลาง ตำบลโนนหนามแท่ง อำเภอเมือง จังหวัดอำนาจเจริญ เมื่อหลายเดือนก่อน ตำบลนี้มีกำนันคนเก่งเป็นผู้หญิงชื่อ รัตนา สารคุณ ก่อนนี้แม่กำนันเคยเป็นนักเลงสุรา ดื่มเหล้าหนัก แม่กำนันดื่มเหล้าเพียวและดื่มน้ำตบตูดแบบเดียวกับที่ผู้ชายพื้นบ้านนิยมดื่มกัน และแม่คอแข็งชนิดผู้ชายต้องยอมแพ้ แต่สุดท้ายเมื่อเวลาผ่านไป กาลเวลาสามารถพิสูจน์ความสามารถของเธอได้มากกว่าการพิสูจน์ความกินทนกินนาน ใจป้ำ ใจแกร่ง ในวงสุรา แม่กำนันก็เห็นโทษของการดื่มสุรา และหันมารณรงค์ให้ลูกบ้านลดละเลิกเหล้า
สร้อยแก้ว
  นึกไม่ออกแล้วว่าเคยไปร่วมงานวันเด็กครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่พยายามนึก...ลูกก็ยังไม่มี หลานรึ ก็ไม่เคยได้พาไป เพราะไม่ค่อยได้อยู่บ้านงานวันเด็กครั้งสุดท้ายของตัวเองน่าจะเป็นตอนที่ยังเรียนอยู่ชั้น ป.๖ นั่นแหละ เพราะหลังจากนั้น พอขึ้นชั้น ม.๑ ความแก่แดดแก่ลมของฉันก็พลันให้รู้สึกว่าตัวเองเป็นสาววัยรุ่นแล้ว ไม่ใช่เด็ก จึงไม่เคยไปวอแวงานวันเด็กอีก ไม่อย่างนั้น เค้าจะหาว่าเด็กจนปีใหม่นี้ฉันมีโอกาสไปนอนมองพระจันทร์กลางทุ่งนา มองฟ้าพร่างดาวเคลื่อนคล้อยข้ามคืนข้ามปีในช่วงปีใหม่ที่อำเภอกุดชุม จังหวัดยโสธร ก็เลยได้อยู่ยาวมาเรื่อยจนถึงงานวันเด็กของหมู่บ้าน