Skip to main content



 

"ท่านเป็นเจ้านาย มีเงินเดือนกิน ท่านบ่ได้เป็นแม่ค้าหาเช้ากินค่ำ ท่านจะเว้าจังได๋ก็ได้"

คำพูดของแม่ค้าคนหนึ่งดังอยู่ข้างหูเมื่อทุกคนมายืนรอฟังคำตอบจากการไปเจรจากับทางเทศบาลมา


เสียงโทรศัพท์ที่ดังแต่เมื่อคืนบอกถึงเจตจำนงในการจะยึดพื้นที่ค้าขายกลับคืนมาในช่วงเวลาราวตีหนึ่งเศษทำให้เพื่อนบางคนที่ทำงานในศูนย์ภูมิปัญญาไทบ้านต้องรีบออกไปดูแต่เช้า และแน่นอนด้วยความอยากรู้อยากเห็นฉันก็ขอกระเตงติดรถไปด้วยคน


ความผูกพันของคนปากมูนที่เคยร่วมต่อสู้กันมานานนับเกือบยี่สิบปีทำให้ทุกวันนี้ แม้เรื่องราวการต่อสู้เพื่อสายน้ำอาจจะแผ่วลงไปแต่ทุกข์สุขใครมีก็ยังร่วมแชร์แบ่งปัน ดังนั้น เมื่อพี่น้องบางคนที่ประกอบอาชีพค้าขาย ไม่ว่าจะขายปูปลาหรือผักสดในตลาดได้รับความเดือดร้อน แม้ว่ายังไม่รู้จะช่วยอะไรได้บ้างแต่อย่างน้อยก็ขอได้ไปดูแล ถามไถ่ และให้กำลังใจ


ตลาดสดเทศบาลอำเภอพิบูลมังสาหารในช่วงสี่ห้าปีมานี้นับแต่มีการปรับปรุงสร้างอาคารตลาดสดขึ้นมาใหม่ พ่อค้าแม่ค้าบางส่วนก็ได้ย้ายที่ขายมาตั้งแผงริมถนนด้านข้างตลาดซึ่งมีความยาวประมาณห้าร้อยเมตร และมันกลายเป็นความเหมาะเจาะอย่างยิ่งที่ถนนเส้นข้างด้านนี้แทบไม่มีใครใช้เป็นทางสัญจรเนื่องมีถนนหลายสายใกล้ๆ ให้เลือกเดินรถมากกว่า ประกอบกับสองข้างทางมีต้นไม้เงาร่มสองฝั่ง คนมาซื้อจึงพากันเดินบนถนนเลือกซื้อของสดกันอย่างเพลินใจ มันกลายเป็นถนนคนเดินโดยอัตโนมัติ ซึ่งบรรยากาศดีกว่าข้างในมาก


เมื่อเป็นเช่นนี้จึงกลายเป็นแรงบันดาลใจให้พ่อค้าแม่ค้าคนอื่นพากันออกมาขายข้างนอกบ้างหรือบางคนเป็นแม่ค้าใหม่ก็พลอยมาจับจองที่ขายด้วย จนที่สุดแผงริมทางแห่งนี้ก็เต็มไปด้วยของสดมากมายเรียงรายไปจนสุดถนนสองฝั่ง ส่วนข้างในตลาดที่ไม่รับผลกระทบในการปรับปรุงก็ยังคงขายกันตามปกติ


อันที่จริง ฉันเคยคิดมานานแล้วว่าประเทศเมืองร้อนอย่างเรานั้นไม่เหมาะกับการมีตลาดในที่อับอุดอู้เพราะสินค้าของเรามักจะเน่าไวและอาหารหลายชนิดเป็นอาหารที่มีกลิ่นแรง ไม่ว่ากะปิ น้ำปลา ปลาร้า หรืออาหารแห้งหลายชนิดก็มีกลิ่นแรง ดังนั้น ตลาดเดินดินของชาวบ้านต่างจังหวัดที่มักจะวางแผงในที่อากาศปลอดโปร่งนั้นดูเหมาะและเข้ากันดีแล้ว อย่างเวลาไปตลาดเช้าของเมืองลาว ส่วนมากก็จะวางแบกะดินในที่โล่ง สายๆ ก็กลับบ้าน

 

แต่วิธีในเรื่องการจัดระเบียบของเทศกิจหรือเทศบาลนั้นก็มักจะสวนทางกับความต้องการของพ่อค้าแม่ค้าหรือแม้แต่ผู้บริโภคเสมอ เพราะค่านิยม หรือรสนิยมเดิมๆ มักจะบอกเราว่า การขายของแบบนี้ดูไม่เป็นระเบียบ ดูไม่สวยงาม (ในขณะที่กรอบคิดเรื่องความงามในแวดวงศิลปะนั้นไปไกลถึงไหนต่อไหนแล้วขนาดกรุงเทพฯ เมืองหลวงสุดเท่ ที่คนต่างจังหวัดแห่เอาอย่างเสมอนั้นก็ยังจัดงานปิดถนนให้คนเดินบ่อยๆ ถนนสีลมก็เคยปล่อยให้เด็กๆ มาละเลงสีวาดภาพเล่นบนพื้น หรือบางจังหวัดของเมืองไทยก็เคยจัดงานตลาดนัดสีเขียว เน้นบรรยากาศตลาดแบบชาวบ้าน โดยสร้างเพิงขายหลังคามุงหญ้าคา ซึ่งได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวไม่น้อยทีเดียว)


แต่เมื่อสายตาความงามของเราต่างกัน ตลาดสดที่นี่เมื่อปรับปรุงแล้วเสร็จ มุมค้าขายที่เคยเป็นที่เพลิดเพลินของคนซื้อขายจึงถูกสั่งย้ายให้กลับเข้าไปข้างในดังเดิม พ่อค้าแม่ค้าทุกคนก็ยอมไปโดยดี แต่ไปอยู่ข้างในได้หนึ่งเดือน พ่อค้าแม่ค้าบางส่วนก็ถอยกลับออกมาและตั้งหลักยึดสถานที่ค้าขายเดิมของตนดังที่มีเสียงโทรศัพท์แจ้งข่าวเมื่อคืน


"เข้าไปข้างในแล้วขายบ่ได้เลย เพราะเขาจัดโซนขายของให้เราไม่อยู่ในแถวเดียวกัน อย่างของสดไปขายกับพวกเสื้อผ้า หรือบางคนก็ได้ไปอยู่ในซอกหลังร้านเสื้อผ้า ใครจะไปซื้อ และมันก็อึดอัด"


แน่นอนว่าพ่อค้าแม่ค้าที่เคยอยู่เดิมย่อมได้เลือกพื้นที่ค้าขายที่ดีกว่า ส่วนคนที่ถูกย้ายเข้ามาก็ต้องยอมรับพื้นที่เท่าที่มีไปตามสภาพ


และที่ชวนฮาขำขันกันทุกทีที่เอยถึงความเดือดร้อนของแม่ค้า คือมีอยู่เจ้าหนึ่ง ขายปลาร้าแต่ถูกจับให้ไปอยู่ใกล้กับร้านเช่าชุดวิวาห์ คนมาลองชุดบางคนก็ปวดเศียรเวียนหัวเพราะกลิ่นปลาร้าส่วนแม่ค้าปลาร้าก็ขายไม่ได้ เพราะถูกจัดให้มาอยู่คนละทิศละทางกับพวกขายของสด


จวบหนึ่งเดือนผ่านไปเมื่อขายของกันไม่ได้เลยจึงทำให้เกิดยุทธการยึดหัวหาดการค้าเดิมเอาในดึกคืนหนึ่ง พร้อมผักสด หนังควาย กะปอม ปลาร้า ปลาเอือบ ปลาแห้ง ฯลฯ ตามแต่ชนิดสินค้าของแต่ละคน


รถดับเพลิงสองสามคันมาจอดรอไว้แล้ว รถตำรวจก็กระจายเสียงไม่ให้คนเข้ามาซื้อเพราะถือว่าผิดกฎหมาย เมื่อถึงยามสายทางเทศบาลยอมเปิดโต๊ะเจรจากับคณะกรรมการกลุ่มพ่อค้าแม่ค้า ทุกคนที่มายืนจับกลุ่มคุยกันต่างบอกว่าถ้าเราไม่สามัคคีไม่เข้มแข็ง เขาคงไม่ยอมเราแน่ พวกข้างในบางคนก็รอสมน้ำหน้าอยู่


ฉันอดคิดถึงการต่อสู้ของคนกลุ่มน้อยที่เกิดขึ้นจำนวนมากในสังคมไทยเราไม่ได้ว่า มันเป็นธรรมดาเช่นนี้เอง เมื่อมีการต่อสู้เรียกร้อง จะมีคนบางกลุ่มที่ไม่เอาด้วยและรอดูความพ่ายแพ้ของอีกฝ่าย แต่แน่นอนว่าถ้าผลกลับกลายเป็นตรงกันข้าม ประโยชน์ที่ได้ ตนก็มีส่วนที่จะได้รับเช่นกัน แม่ค้าบางคนบอกว่า คอยดูเถอะ ถ้าเขาอนุญาตให้ขายข้างนอกได้ตามเดิม เดี๋ยวพวกนั้นก็จะออกมาเหมือนกัน


อันที่จริง ข้อเรียกร้องของแม่ค้าพ่อค้าหาใช่จะต้องออกมาข้างนอกเพียงสถานเดียวเท่านั้น พวกเขาต่างบอกว่า ถ้าเพียงแต่ทางเทศบาลจะจัดโซนค้าขายให้พวกเขาได้อยู่ในโซนเดียวกัน พวกเขาก็ตกลง แต่นี่เล่นจัดให้อยู่คนละทิศละทาง ขายของไม่ได้เลยแล้วใครจะอยากอยู่


"
ท่านเป็นเจ้านาย มีเงินเดือนกิน ท่านบ่ได้เป็นแม่ค้าหาเช้ากินค่ำ ท่านจะเว้าจังได๋ก็ได้"

เสียงแม่ค้าบางคนพูดมาอย่างอัดอั้น

"ทำไมเขาไม่สอบถามคนซื้อบ้างว่าต้องการแบบไหน ฉันว่าคนมาซื้อก็อยากซื้อข้างนอก เห็นหลายคนบ่นเข้าไปซื้อข้างในแล้วมันวิงมันเวียนหัว มันร้อน อึดอัดจะตาย"

"คราวหน้าบ่ต้องเลือกนายกเทศบาลฯ คนนี้"

การเรียนรู้ในระบอบประชาธิปไตยเกิดขึ้นแล้วในกลุ่มคนเล็กๆ


เช้านี้แผงค้าขายราวห้าสิบกว่าแผงพากันมาตั้งร้านริมทางดังที่เคยเป็นแต่ก่อน ทุกคนยังใจเต้นตุ๊มๆ ต่อมๆ ว่าจะถูกสลายไหม หรือว่าจะได้รับความเข้าใจและอนุญาตให้ขายได้


ราวบ่ายกว่าๆ เมื่อคณะกรรมการพากันกลับมาพร้อมกับข่าวดีว่าท่านนายอำเภออนุญาตแล้วโดยบอกว่า ถ้าแม่ค้าพ่อค้าขายของที่นี่ดีกว่าก็ให้ขายที่นี่จนกว่าจะมีการปรับปรุงท่อระบายน้ำแล้วเสร็จ (ลืมเล่าว่าหลังจากย้ายพ่อค้าแม่ค้าให้เข้าไปข้างในเมื่อหนึ่งเดือนก่อน ครึ่งหนึ่งของถนนเส้นนี้ตอนนี้ได้ขุดดินทำท่อระบายน้ำ ซึ่งหากเสร็จครึ่งหนึ่งนี้แล้ว นายอำเภอก็จะให้ย้ายมาขายฝั่งที่ทำเสร็จและเริ่มทำท่อระบายน้ำในฝั่งที่เหลือ)


ทุกคนพากันยิ้มแย้มหน้าตาชื่นบาน

หลายคนเริ่มกางร่มคันใหญ่วางของขายกันอย่างสบายใจ แต่...

รถดับเพลิงยังไม่ยอมถอย รถตำรวจก็ยังประกาศเสียงผ่านไมโครโฟนดังเดิมว่าการขายของบนพื้นที่นี้ผิดกฎหมายให้พ่อค้าแม่ค้าย้ายออกไป การเจรจานานนับหลายชั่วโมงที่หลอกให้แม่ค้าดีอกดีใจดูเหมือนจะเป็นเพียงคำพูดลวงๆ ลมๆ


ไม่มีใครคาดคิดว่าตราบจนขณะนี้เป็นเวลาห้าทุ่มกว่าแล้ว รถดับเพลิงก็ยังจอดที่เดิม รถตำรวจยังจอดที่เดิม แม่ค้าพ่อค้าพากันนอนเฝ้าสินค้าและแผงหน้าร้านของตน ไม่กล้ากลับไปหรือละทิ้งแผงไม้ผุๆ พังๆ ที่ใช้ทำมาหากินมานานไว้ริมทางอย่างที่เคยเป็น


มันสุดจะคาดเดาได้ว่าดึกดื่นคืนนี้จะเป็นอย่างไร

 

บล็อกของ สร้อยแก้ว

สร้อยแก้ว
นั่งดูบอลคู่นี้อย่างไม่ตั้งใจนัก เผอิญว่ากดรีโมทโทรทัศน์มาเจอเข้าพอดี เลยคิดว่าอยากจะเชียร์บอลไทยสักหน่อย ดูเวลาการแข่งขันตอนนั้นก็เข้าสู่นาทีที่เจ็ดสิบกว่าแล้ว ไทยนำอยู่ 2-1 ดูไปได้ไม่ทันไร ก็มาถึงจังหวะการกระโดดแย่งบอลกันกลางอากาศ นักเตะไทยเป็นฝ่ายกระโดดได้สูงกว่าและโดนลูกบอล แต่เมื่อเท้าแตะถึงพื้น นักเตะไทยวิ่งต่อ ส่วนนักเตะเลบานอนลงไปนอนกับพื้น เอากุมหัว ดิ้นอย่างเจ็บปวดสักพักเมื่อเขาลุกขึ้น สิ่งที่เห็นก็คือเลือดอาบหน้าและสองมือที่กุมเอาไว้ เลือดออกเยอะมากขนาดที่เห็นแล้วต้องเบะปาก ขณะที่เพื่อนร่วมทีมวิ่งมาดู นักเตะไทยเดินยิ้ม ยักไหล่ แพทย์สนามก็มาช้าเหลือเกิน เกมรึ…
สร้อยแก้ว
หลังการจากไปของพี่ปุ๋ย (นันทโชติ ชัยรัตน์) วันหนึ่งของต้นฤดูหนาว พี่แป๊ะ ภรรยาพี่ปุ๋ยก็มีดำริจะปลูกบ้านเป็นของตัวเองเสียที โดยพี่แป๊ะได้ซื้อไม้จากบ้านเก่าหลังหนึ่งไว้ ก่อนการเริ่มต้นปลูกบ้าน พี่แป๊ะจึงต้องหาคนมารื้อเอาไม้จากบ้านเก่าก่อน ซึ่งก็ได้น้องนุ่งแรงดีจากลุ่มน้ำมูนและหนุ่มในเมืองอย่างเอก และผู้อาวุโสแต่หัวใจวัยรุ่นอย่างพ่อถาหนึ่งในแกนนำปากมูน แห่งบ้านนาหว้า มาช่วยกันคนละไม้ละมือ
สร้อยแก้ว
(ขอความกรุณาสวมเสื้อขาว, สีฟ้า หรือสีที่ดูเหมาะสม ยกเว้นอย่าสวมเสื้อสีเหลืองหรือสีแดง เพราะจะทำให้แตกสามัคคี) ข้อความในวงเล็บนี้ทำเอาฉันอมยิ้มจนเกือบเผลอหัวเราะนี่คือจดหมายเชิญเดินเทิดพระเกียรติของชมรมผู้สูงอายุตำบลหารแก้วที่ประธานชมรมถึงกับควบมอเตอร์ไซค์แถดๆ มาหาพ่อถึงบ้าน
สร้อยแก้ว
 ฉันมีโอกาสไปร่วมงานรางวัลลูกโลกสีเขียว ครั้งที่ ๑๐ ปีนี้ เลยทำให้อดคิดไม่ได้ว่า รางวัล มีความหมายอย่างไรต่อชีวิตคนบ้าง ลองเปิดพจนานุกรมฉบับบัณฑิตยสถานดู เขาก็บอกว่ารางวัลคือ สิ่งของหรือเงินที่ได้มาจากความดี ความชอบ หรือความสามารถย้อนทบทวนตอนเด็กๆ รางวัลแรกของฉันมาจากการวิ่งได้ที่ ๓ จากการวิ่งแข่งกันสี่คน (เกือบไป!) โชคดีได้ขึ้นแท่นรับรางวัลกับเขา ยิ้มแก้มแทบปริ และเมื่อถึงบ้านก็รีบเอาสมุดดินสอมาให้พ่อกับแม่ดู
สร้อยแก้ว
ไม่รู้ทำไม จู่ๆ ภาพของเพื่อนสนิทคนหนึ่งในวันที่เข็นรถเด็กที่มีเด็กหญิงวัยแปดเดือนนั่งยิ้มแฉ่งเดินเล่นยามเย็นนอกเมืองก็โผล่ขึ้นมาในห้วงคำนึงในวันฝนตก ทั้งที่ไม่ได้เกี่ยวกันเลยสักนิด เธอดูมีความสุขปลอดโปร่งใจดีเหลือเกิน เธอบอกฉันว่า แต่ก่อน เธอมองชีวิตแบบเอ็นจีโอ ใส่เสื้อผ้าฝ้าย ใช้ข้าวของอย่างประหยัด หน้าตาไม่แต่ง เธอเชื่อมั่นในวิธีคิดแบบนั้น ศรัทธาคนเหล่านั้น แต่วันเวลาก็ทำให้เธอเห็นว่าคนเหล่านั้นก็เป็นเพียงปุถุชนธรรมดาๆ เท่านั้น พวกเขาไม่ได้ดีอย่างที่เรามอบความศรัทธาให้ เธอไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงใช้ชีวิตตามแนวคิดอย่างนั้นได้อย่างเชื่อมั่นอยู่ตั้งหลายปี…
สร้อยแก้ว
สำหรับนักเขียน ยามคอมพิวเตอร์มีปัญหานับว่าเป็นเรื่องใหญ่ทีเดียว เพราะแต่ละวันไม่ว่ายังไงก็ต้องได้ลูบๆ เคาะๆ วันละนิดละหน่อยจนเคยชิน ครั้นเมื่อมันเกิดปัญหาขลุกขลัก แม้จะรู้สึกเซ็งๆ แต่ก็ต้องทนหอบหิ้วมันไปหาช่าง – คนที่เราคิดว่าเขารู้ดีกว่าเราแต่การเลือกช่างก็เหมือนการเลือกหมอรักษาอาการป่วยของเรานั่นแหละ หากยามใดเราไปเจอหมอที่วินิจฉัยโรคเราผิด จากที่ไม่ได้เป็นอะไรเลยแต่กลับบอกว่าเป็นโรคร้ายต้องผ่าตัดไปหลายยก เจ็บกาย เสียเวลา เสียเงิน เพื่อที่จะพบว่า ที่แท้เราไม่ได้เป็นอะไรเลย ความรู้สึกโกรธและไม่อาจทำใจยอมรับกับความสูญเสียที่เกิดขึ้นได้ง่ายๆ…
สร้อยแก้ว
ชาวบ้านห้วยสะคามตื่นเต้น ใช้ไฟฟรี ประหยัดกันยกใหญ่! อยากให้พาดหัวข่าวแบบนี้ในหน้าหนังสือพิมพ์บ้างจัง แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องเล็กมากของประเทศ ท่ามกลางสถานการณ์ที่ขัดแย้งใหญ่หลวงของบ้านเมืองยามนี้ นโยบายอะไรๆ ของรัฐบาลก็ไม่ดีทั้งนั้น ในฐานะที่ไม่ได้รู้ตื้นลึกหนาบางอะไรมากเกี่ยวกับนโยบายประชานิยม แต่ว่าพอเข้าใจหัวจิตหัวใจของชาวบ้านตาดำๆ ซึ่งเวลาลงคะแนนเลือกตั้งเสียงของเขาก็มีค่าเท่ากับศาสตราจารย์หรือด๊อกเตอร์ในเมืองไทย เขาก็มองเห็นผลดีผลได้เท่าที่จับต้องได้ ไม่ต้องอ้างเอ่ยว่าเขาซื้อเสียงง่ายหรอก แต่เขาเห็นว่าเขาได้อะไรจากรัฐบาลชุดที่แล้ว (ยุคทักษิณ) เขาถึงเลือกและชอบ
สร้อยแก้ว
ภาพจาก http://www.blogth.com/blog/ddimg/uploadimg/20070514/093435918.jpgอาจไม่ต้องถึงขั้นเป็นคอบอล เป็นแค่ผู้นิยมกีฬาฟุตบอลก็คงต้องอยากดูเกมระหว่างแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด กับเชลซีเมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน ที่ผ่านมาว่าจะเป็นอย่างไร เปิดฤดูกาลของพรีเมียร์ลีก เชลซีเดินหน้าชนะทุกนัดเก็บมาได้เก้าคะแนนเต็ม เป็นการออกสตาร์ทที่สวยงามและทั้งนักเตะทั้งแฟนบอลเต็มไปด้วยความฮึกเหิม ขณะที่แชมป์เก่าอีกทั้งยังเป็นแชมป์ถ้วยฟุตบอลสโมสรยุโรปซะด้วย กลับเก็บมาได้เพียงสี่คะแนน แพ้บ้าง เสมอบ้าง จนแฟนๆ ชักใจคอไม่ดี แม้ฤดูกาลที่แล้วก็ออกสตาร์ทไม่ดีเหมือนกันแต่สุดท้ายก็ได้ถ้วย…
สร้อยแก้ว
โขงเจียมคือชื่ออำเภอหนึ่งของจังหวัดอุบลราชธานี อันเป็นที่รู้จักกันดีว่า เป็นเมืองที่เห็นพระอาทิตย์ขึ้นก่อนใครในสยามเพราะอยู่ทิศตะวันออกสุดของประเทศ และยังเป็นที่รู้จักอีกในฐานะที่มีแม่น้ำสายสำคัญของอีสานสองสายมาบรรจบคือแม่น้ำมูลและแม่น้ำโขง จุดที่บรรจบกันนั้นเรียกกันอย่างไพเราะว่า แม่น้ำสองสี โขงสีขุ่น มูลสีคราม (แต่ตอนนี้ขุ่นทั้งคู่ หากอยากเห็นมูลสีครามน่าจะเป็นช่วงหน้าแล้ง) โขงเจียมมีฐานะเป็นอำเภอ แต่อำเภอนี้เล็กเหมือนหมู่บ้าน ค่ำมาราวสักสองทุ่มก็เงียบแล้ว บางบ้านเข้านอน บางบ้านอาจจะยังนั่งพูดคุยกันอยู่หน้าบ้าน แต่คุยกันอย่างเงียบๆ ไม่กระโตกกระตาก สงบดีเหลือเกิน…
สร้อยแก้ว
ฤดูฝน นาพ่อสนเขียวไสวด้วยต้นข้าว ยามเช้าน้ำค้างชุ่มหญ้า ชุ่มพุ่มไม้ ครั้นเมื่อแสงแดดโผล่พ้นจากหมู่เมฆ ท้องนาสีเขียวยิ่งดูกระจ่างตา เหลียวมองรอบๆ แสนสบายตาสบายใจ เอ แล้วดอกอะไรกันหนอสีแดงขาว เป็นพุ่มไม้ใหญ่อยู่หน้าเถียงนาอีกแห่งนั่น ? เห็นแล้วก็อดคว้ากล้องเดินย่ำน้ำค้างบนคันนาไปหาดอกไม้นั้นไม่ได้ ไพจิตรเห็นก็วิ่งตามโดยทันใด เธอไม่ใส่รองเท้า ฉันบอกระวังหนาม ไพจิตรเงยหน้าขึ้นมองไม่ตอบอะไรนอกจากยิ้ม เธอทำให้ฉันอดคิดถึงครั้งหนึ่งเมื่อเราไปเที่ยวช่องเม็ก ด่านชายแดนลาวด้วยกัน
สร้อยแก้ว
ฉันถ่ายรูปไพจิตรไว้หลายรูปทีเดียว จนอดไม่ได้ที่จะเขียนถึงเธออีกครั้ง ด้วยความที่เธอบริสุทธิ์เหลือเกิน บ้านของไพจิตรอยู่ในหมู่บ้าน แต่เธอและครอบครัวมักชอบไปนอนเถียงนาที่มีวัว ควาย หมู หมา ไก่ เป็นเพื่อน ในหมู่บ้าน บ้านเรือนมักจะปลูกติดๆ กัน อันเป็นธรรมดาของสังคมหมู่บ้าน ซึ่งสมัยก่อน บ้านเรือนอาจปลูกไม่ชิดกันมากขนาดนี้ แต่เมื่อลูกหลานสร้างครอบครัวกันขึ้นมาใหม่ เริ่มปลูกบ้านหลังใหม่เพิ่ม ลักษณะหมู่บ้านจึงดูหนาแน่นขึ้น ครอบครัวของพ่อสนซึ่งรักความสันโดษเลยพากันไปนอนเถียงนาที่แสนจะเงียบสงบ อากาศเย็นสบาย และฉันก็มักไปนอนที่นั่นด้วยบ่อยๆ
สร้อยแก้ว
ดาวใจและไพจิตร เป็นชื่อของเด็กหญิงสองพี่น้อง ลูกสาวแม่พร พ่อสน คนดูแลสวน-สถานที่ของศูนย์ภูมิปัญญาไทบ้าน พ่อสนมีลูกทั้งหมดสิบคน ลูกชายสองคนก่อนหน้าดาวใจ ไพจิตร ชื่อไมโคร และ นูโว นัยว่าพ่อท่าจะชอบเสียงเพลงมากถึงตั้งชื่อลูกเป็นชื่อศิลปินนักร้อง ตอนนี้ลูกๆ ของพ่อสนที่ไม่ได้เอ่ยนามล้วนออกเรือน มีครอบครัว บ้างเสียชีวิต ลูกๆ ที่ยังอยู่กับพ่อสน แม่พร จึงมีสี่คนที่ว่า (ส่วนลูกชายอีกคนหนึ่งของพ่อสนที่เคยโด่งดังในม็อบปากมูนเมื่อหลายปีก่อน จนหนังสือพิมพ์หลายฉบับต่างเขียนถึงและลงบทสัมภาษณ์ คือดาวไฮปาร์คเด็กที่ชื่อ เปาโล ตอนนี้เปาโลโตเป็นหนุ่ม แต่งงานมีลูกแล้ว) ดาวใจกับไพจิตร เป็นเด็กหญิงที่ร่าเริง…