Skip to main content



ไม้หนึ่ง ก. กุนที
- เป็นใคร?

สำหรับคนที่ไม่ได้สนใจงานเขียนประเภทกวีนิพนธ์หรืองานวรรณกรรม ก็มีความเป็นไปได้สูงที่อาจจะตั้งคำถามนี้ แต่สำหรับแวดวงนักเขียนหรือคนที่สนใจงานวรรณกรรม ย่อมรู้จักเขาดีว่าเขาคือหนึ่งในกวีหัวก้าวหน้าที่มีความสามารถสูงในด้านฉันทลักษณ์จนก้าวพ้นกรอบกฎเกณฑ์ของฉันทลักษณ์ไปได้อย่างสง่างามและพยายามที่จะให้ฉันทลักษณ์รับใช้ศิลปะ มีชีวิตชีวา มากกว่าเพียงแค่ถ้อยคำไพเราะเพราะพริ้ง

ไม้หนึ่ง ก. กุนที เป็นที่รู้จักในแวดวงวรรณกรรมมานานเกือบยี่สิบปี (ประมาณการเอาจากผู้เขียนที่เคยเห็นผลงานของเขา แต่เขาเริ่มเขียนมานานเท่าไหร่ไม่อาจทราบได้) ในช่วงที่เขามีชื่อเสียงมากๆ บทกวีของเขาได้ลงในมติชนสุดสัปดาห์ทุกอาทิตย์ ด้วยความโดดเด่นในแง่การเขียนบทกวีอย่างมีสไตล์ มีลักษณะเฉพาะ และมีวิธีคิดที่ก้าวหน้าจากกวีรุ่นเดียวกันมาก

วันนี้ชื่อเสียงของ ไม้หนึ่ง ก. กุนที กลับมาฮือฮาและร้อนแรง ร้อนเร่า (คนละเรื่องกับบุคลิกเยือกเย็น สุขุม ของเขา) อีกครั้ง ด้วยเพราะเขาประกาศตัวชัดเจนว่าเขาอยู่ฝ่ายเสื้อแดง ในท่ามกลางที่กวีใหญ่กวีน้อยบางคนเลือกเสื้อเหลือง และหลายคนไม่กล้าเลือก (ไม่เจ็บตัวดี)

หลายเดือนมาแล้วที่ท่าทีของ ไม้หนึ่ง ก. กุนที ชัดเจนขึ้นจากบทกวีในหน้ามติชนสุดสัปดาห์ จนพักหลังมานี้เขาหายไปจากหน้ากระดาษ ทว่ากลับผงาดบนเวทีคนเสื้อแดงอย่างสง่าผ่าเผย (ในขณะที่นักเขียนส่วนใหญ่มักจะสำรวมตนไม่กล้าข้องแวะสีใดเพราะกลัวแปดเปื้อน กลัวถูกมองว่าเป็นเครื่องมือของนักการเมือง โดยเฉพาะพวกเสื้อแดง ใครๆ ก็ว่าเอาเงินซื้อคน จ้างมาม็อบทั้งนั้น เลือกสีแดงไม่เท่!) เขาปฏิบัติหน้าที่ของนักเขียนคนหนึ่งอย่างเข้มข้นและทรงพลังที่สุด ซึ่งนานนักหนาแล้วที่ไม่มีบทกวีเช่นนี้ปรากฏในประเทศของเรา ทั้งคมคาย ทั้งชัดเจน ทั้งครบถ้วน ทั้งมีชั้นเชิง ทั้งตอกย้ำและอิงประวัติศาสตร์อย่างเข้าใจถ่องแท้หมดจด

และนี่คือบทกวีที่สั่นสะเทือนที่สุดในจักรวาล "สถาปนาสถาบันประชาชน"

ไม้หนึ่ง ก.กุนที อ่านบทกวีชิ้นนี้ในงาน Thai Poet Forum เมื่อ 23 มีนาคม ที่ผ่านมา ใครต่อใครต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าทรงพลังและเรียกอารมณ์คล้อยตามได้มากที่สุด

โดยเฉพาะในงานนี้กวีอย่าง เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ร่วมอยู่ด้วย (เป็นที่รู้กันว่าอยู่ฝ่ายเสื้อเหลืองชัดเจน) ทว่าบทกวีของกวีรัตนโกสินทร์กลับไม่อาจสะกดคนฟังได้เลย ตรงข้ามกับไม้หนึ่งที่ใครบางคนต้องขอไปจับไม้จับมือเมื่อเขาเดินลงมา

ทั้งหมดนี้มีคนอื่นเล่ามา จึงขออนุญาตเล่าต่อ จริงเท็จประการใดขอให้ทำใจว่านี่คือข้อมูลชั้นสอง
ฉันไม่ได้เห็นด้วยตา ไม่ได้ยินกับหู ว่าพี่ไม้หนึ่งอ่านบทกวีด้วยน้ำเสียงอย่างไร
แต่เพียงแค่ได้อ่านบทกวีชิ้นนี้ ก็ขนลุกแล้ว

ขอค้อมหัวคารวะพี่ท่านมา ณ โอกาสนี้

สถาปนาสถาบันประชาชน

            เราไม่ปกป้องการอภิวัฒน์                            สายลมปฏปักษ์จึงพัดหวน
การรื้อสร้างไม่อาจทำอย่างนุ่มนวล                ทุกชิ้นส่วนต้องกล้านับ 1 ใหม่

เราไม่ปกป้องการอภิวัฒน์                            กระบวนทรรศน์เสรีไม่ขยาย
2475 พริบตาเป็นอาชาไนย                         แล้วก็กลับเป็นงัวควายเหมือนๆ เดิม

เราไม่ปกป้องการอภิวัฒน์                            สิทธิ หน้าที่ แจ่มชัดไม่ทันเริ่ม
ลงหมุดแล้วไม่ตอกต่อเสาเติม                      เอาเครื่องเรือนไปปลูกเสริมสร้างเวียงวัง

เราไม่ปกป้องการอภิวัฒน์                            อำนาจรัฐ เศรษฐกิจ จึงล้าหลัง
เงินในบ้านชาวนามีน้อยจัง                           แต่สะพรั่งแน่นวองขาวในพานทอง

คณะราษฎร์คือเด็กสาว                               มีความรัก เยาว์วัยได้ตั้งท้อง
ถ้าพวกคุณเป็นพ่อแม่ผู้ปกครอง                    เลือกทำแท้งหรือจะบำรุงครรภ์

เด็กในท้องอาจคลอดเป็นผู้แทนถ่อย             ชั่วหรือดีอยู่ที่เลี้ยงสร้างสรรค์
อดทนคอยให้เขาพัฒนาการ                         ย่อมเติบใหญ่สมบูรณ์งามตามเวลา

แต่...
บางคนสร้างยุทธศาสตร์ "ราษฎร์ไม่พร้อม"      คุณไม่เคยยินยอมให้เราก้าวหน้า
เฝ้าแทรกแซงแบ่งแซะเสมอมา                     เป็นประชาธิปไตยใจพิการ

ใจพิการเพราะประชาไร้อำนาจ                     ความเป็นชาติอยู่ในกำมือทหาร
การตัดสินของหมู่ตุลาการ                           ไม่พิพากษาในนามมหาชน

วางระเบิดระบบการศึกษา                            ถึงเวลามืดบอดไม่เห็นหน
ทัศนวิสัยใบ้จำนน                                      ปัญญาชนบื้อพันหลักสนตะพาย

ชนชั้นกลางกลวงว่างเปล่าสมอง                    บกพร่องทำปัญญาเสื่อมสูญหาย
ชีวิตไหวเบาหวิวปลิวสยาย                           แย่กว่าควายไม่มีใครยอมไถนา!

เขารวมตัวคืนอำนาจให้บางคน                      ยืนเดินนั่งตะโกนกันคลั่งบ้า
กู่ป่าวๆ เอาประเทศไทยคืนมา                      คืนมาจากกำมือประชาไท

ความก้าวหน้าปรากฏในชนชั้นล่าง                 การเลือกตั้งปี 50 ยืนยันได้
กองทัพยึดเบ็ดเสร็จกุมกลไก                       แต่ไม่สามารถบล็อกโหวตทหารเกณฑ์

เพราะว่าคุณประมาทราษฎร                         ทุกครั้งเคยเขย่าคลอนหัวเล่น
เขาเอียนรสคุณธรรมทนลำเค็ญ                    เลือกประชาธิปไตยเส้นทางทุน

เหนื่อยอาภัพหยาบกร้านมานานนัก                ข้าวปลาผักคุณปรุงกินกันหอมกรุ่น
แต่ตอบแทนเขาด้วยเนรคุณ                         กินไม่อิ่มนอนไม่อุ่นเสมอมา

การเมืองไทยก้าวหน้าไปมาก                       แม้แต่นายสมัครก็ยังมีความก้าวหน้า
แสงแห่งทุนปลุกปฏิกิริยา                            เร่งทำมาค้าขายขยายคลัง

การเมืองไทยก้าวหน้าไปมาก                      คนรากหญ้ายิ่งไม่ยอมอยู่ล้าหลัง
ชัดเจนสิทธิ์หน้าที่มีกำลัง                            เริ่มก่อสร้างยุคศรีอาริย์ด้วยมือตัว

เสรีชนแพร่ลามเหมือนแบคทีเรีย                  แทะนรกสวรรค์แบ่งดีชั่ว
เหลือเพียงพุทธปัญญาชัยมืดมัว                   บัว 4 เหล่ารกทุกชั้นฐานันดร

นับปีผ่านจาก 17 มา 40                              รัฐธรรมนูญพัฒนาครึ่งมาค่อน
แม้หมกเม็ดแทรกซึมบางบทตอน                  เช่นองค์กรอิสระของบางใคร ?

แต่ก็ถือว่าเกือบจะเต็มใบอยู่                         รอเพียงผู้นำความคิดที่สดใหม่
ล้างงมงายชนชั้นนำโบราณภัย                      ฝ่าตีนใหญ่กดหัวเลอะฝุ่นละออง

การรุกคืบของอำนาจประชาชน                     คนหลายกลุ่มคิดเล่ห์กลขึ้นปกป้อง
สามัคคีให้คนดีรุมปกครอง                          ล้างสมองปรองดองเพื่อแผ่นดิน

แผ่นดินหรือแท้คือประชาราษฎร์                   ทับถมร่างเปื่อยเป็นชาติครอบคลุมสิ้น
เลี้ยงพืชพันธุ์ธัญญาก่อชีวิน                         เกิดฟอสซิล ทอง เพชร นิล จินดา

ธาตุกระดูกสามัญชนซึมรากข้าว                   รวงข้าวเหนียวข้าวเจ้าอุดมค่า
เหลืองทิพย์ทองผ่องทุ่งปรุงท้องนา                เลี้ยงขุนศึก อมาตยา ไม่รู้คุณ

แผ่นดินหรือคือสมบัติไทยทั้งชาติ                 เลี้ยงเจ้าทาสมูลนายมาทุกรุ่น
2475 สิ้นยุคฤทธิ์สิทธิ์สมบูรณ์ฯ                    คุณเกิดจากราษฎรการุณนะภูมี

            คุณแทบเป็นหุ้นส่วนทุกบริษัท                      ผลกำไรไม่จำกัดทุนวิถี
กินล้นเหลือเจริญเกินอ้วนพี                         ขณะผองคนมากมีไม่มีกิน

เหงื่อทั้งปวงที่คุณเปลืองพลัง                       แค่ละอองชนชั้นล่างทั่วท้องถิ่น
เขายากจนทนทุกข์ขลุกโคลนดิน                  คือตัวจริง ผลิตสินสมบัติเมือง

ประชาชนของคุณคือคนไหน                       คนสมบูรณ์หน้าใสใส่เสื้อเหลือง?
คนเสื้อแดงมอมแมมแสนฝืดเคือง?               คนเซื่องซึมจรจัดขาดอาภรณ์?

ความเป็นชาติของคุณอยู่ที่ตรงไหน...            สิเนรุอำไพเผือกสิงขร?
เราคือฐานพีระมิดประชากร                         กัดกร่อนเราคุณก็ล้มลงระยำ!

ผมอยากชวนพวกคุณไปสนามหลวง             ที่สำคัญของปวงไทสยาม
สัมผัสดินดิบด้านผ่านเคี่ยวกรำ                     เลี้ยงแถวแนวมะขามละลานตา

ช่างเหมือนกับมวลประชามหาศาล                ผู้หยาบกร้านพันธุ์ต่ำแต่ล้ำค่า
คือเข็มรากฐากหลักนัครา                           ปลูกผลิตเนื้อผักปลาข้าวของจริง

ไม้มะขามธรรมดาหม่นสีสัน                        ไม่ผ่องพรรณสดใสดอกใบกิ่ง
แต่ต้นแกร่งต้านพายุยากไหวติง                   เป็นที่สิงวิญญาณวีรชน

ไปจับมือเดินบนแผ่นดินประวัติศาสตร์            ลุกฮือขึ้นอภิวัฒน์ใหม่อีกหน
ขวางคิ้วเฉยกัดฟันไม่จำนน                          เป็น 1 ในมหาชนโดยชอบธรรม

จะสมหวังวันที่ดีกว่านี้                                 มีกินใช้เพียงพอทุกเช้าค่ำ
สลายหมดหมู่เมฆทะมึนดำ                          ข้าวทุกคำเคี้ยวกินเองอิ่มสมบูรณ์
                                                            ข้าวทุกคำเคี้ยวกินเองอิ่มสมบูรณ์                 

                                                            ไม้หนึ่ง ก.กุนที

(ปล. ตอนหน้ามาอ่านปฏิกิริยาของคนฟัง คนอ่าน และผลกระทบหลังจากการอ่านบทกวีบทนี้ รวมถึงความคิดอันเฉียบแหลมของเขา)

บล็อกของ สร้อยแก้ว

สร้อยแก้ว
  ๑.ผูกพัน เป็นชื่อเพลงเพลงหนึ่งไม่บ่อยนักที่ฉันจะได้ฟังเพลงสักเพลงแล้วมันตรึงเราให้อยู่นิ่งๆ ตั้งอกตั้งใจฟังจำได้ว่า วันนั้นฉันนอนเปลที่ผูกเข้ากับเสาอาคารและต้นไม้ข้างศูนย์ฯ มีกิจกรรมค่ายของน้องๆ วัยมัธยมและมหาวิทยาลัยราวสี่สิบคน บรรดาพี่เลี้ยงเป็นคนทำงานด้านสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อมที่แต่ละคนล้วนฝีมือฉกาจฉกรรจ์ โดยเฉพาะ แคน และน้องผู้ชายอีกคนจำชื่อไม่ได้ (มาจากแก่งเสือเต้น) ดำเนินกิจกรรมให้กับเด็กๆ ได้อย่างมีสาระและสนุกสนาน เรียกว่าเอาอยู่ เก่งมากๆ
สร้อยแก้ว
 หน้าบ้านดอกโมกบานก่อนเพื่อนดอกมะลิตามมาดอกคูนเริ่มผลิไสวลั่นทมสี่ต้นที่เคยปลูกเองกับมือก็ผลิดอกให้ชมเร็วทันใจปีที่แล้วนี้เอง, ตอนนั้นเอามาปลูกกับเด็กหญิงไพจิตรพายุคะนองทำให้กิ่งก้านใหญ่ของลั่นทมหน้าศูนย์ฯ หักฉันแบ่งออกเป็นสี่กิ่งปลูกรอบบ้านดินไม่คิดว่าวันหนึ่งจะได้มาอยู่บ้านหลังนี้ลั่นทมกลิ่นหอม ชอบเด็ดมาดมดอกพุก ไม้ยืนต้นก็บานแล้วสีขาวดอกยอกขี้หมาส่งกลิ่นหอมจากคืนถึงเช้ามันเป็นดอกที่ชื่อกับตัวไม่เข้ากันเลยยอกขี้หมาสีขาวร่วงหล่นบนพื้นสีขาวเกลื่อนทางเดินดูสวยดียามเช้าตื่นมาเดินเล่น สูดดมกลิ่นหอมของดอกไม้แสนสดชื่นเย็นวันนี้…
สร้อยแก้ว
แม้ม็อบเสื้อสีๆ จะซาลงไปแล้ว (ซาแต่นามภาพ-รูปธรรม แต่ในความรู้สึกนั้นยังคงไหลแรง) แต่ฉันก็ยังเชื่อว่าคนที่เข้าร่วมแต่ละกลุ่มย่อมมีความคิด มีทัศนคติที่ชัดเจนของตนเอง อย่างที่ทิ้งท้ายไว้ในตอนที่แล้วว่าฉันจะนำความคิดของ ไม้หนึ่ง ก.กุนที มานำเสนอ เพราะเห็นว่าวิธีคิดของเขาน่าสนใจมาก ซึ่งแม้ปัจจุบันฉันจะยังอยู่ขอบปลายชายแดนอีสาน ไม่มีโอกาสได้เจอหรือพูดคุยกับตัวตนจริงๆ ของเขา และบทสัมภาษณ์ที่คัดลอกมาฝากนี้ก็เคยผ่านหน้านิตยสารมาบางส่วนแล้ว แต่ฉันก็ยังอยากให้ใครอีกหลายๆ ที่อาจยังไม่ได้ผ่านตากับความเห็นเหล่านี้ได้ลองอ่านเล่นๆ ดูบ้าง
สร้อยแก้ว
ไม้หนึ่ง ก. กุนที - เป็นใคร? สำหรับคนที่ไม่ได้สนใจงานเขียนประเภทกวีนิพนธ์หรืองานวรรณกรรม ก็มีความเป็นไปได้สูงที่อาจจะตั้งคำถามนี้ แต่สำหรับแวดวงนักเขียนหรือคนที่สนใจงานวรรณกรรม ย่อมรู้จักเขาดีว่าเขาคือหนึ่งในกวีหัวก้าวหน้าที่มีความสามารถสูงในด้านฉันทลักษณ์จนก้าวพ้นกรอบกฎเกณฑ์ของฉันทลักษณ์ไปได้อย่างสง่างามและพยายามที่จะให้ฉันทลักษณ์รับใช้ศิลปะ มีชีวิตชีวา มากกว่าเพียงแค่ถ้อยคำไพเราะเพราะพริ้ง
สร้อยแก้ว
แมนยูฯ คือ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ศูนย์ฯ คือ ศูนย์ภูมิปัญญาไทบ้านปากมูนฉันย้ายจากบ้านเช่าในเมืองโขงเจียมมาอยู่บ้านดินของศูนย์ภูมิปัญญาไทบ้านปากมูน ได้ ๑ เดือนเต็มๆ แล้วและนับตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ภายในบ้านที่มีโทรทัศน์ใส่กล่องกระดาษตั้งอยู่ มันก็มีหน้าที่เป็นพนักพิงยามเขียนหนังสือ (กับโต๊ะญี่ปุ่น) ให้เท่านั้น ฉันขอความร่วมมือจากคนร่วมชายคาบ้านว่าหากอยากดูข่าวสารจากโทรทัศน์ก็ช่วยออกแรงเดินสักร้อยกว่าเมตรไปดูในห้องทำงานของศูนย์ฯ เถอะนะ ซึ่งที่นั่นจะมีน้องชายอ้วนดูอยู่เป็นประจำ (และนอนที่นี่) คนอาศัยชายคาเดียวกันก็นับว่ามีน้ำใจยิ่ง ให้ความร่วมมือกับคนเรื่องมากอย่างฉันโดยดี
สร้อยแก้ว
ไม่ได้ตั้งใจจะเลี้ยงเล้ยยยยย... จริงๆ พับเผื่อยซิ วันประชุมสมัชชาคนจน ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบความเดือดร้อนจากการสร้างเขื่อน ได้มาประชุมปรึกษาหารือกันที่ศูนย์ภูมิปัญญาไทบ้าน เจ้าแมวตัวนี้นอนซุกอยู่ในรองเท้าเจ้าอ้วน - เด็กอ้วนแห่งรายการวิทยุชุมชน เด็กๆ แถวนี้บอกว่าพี่น้องมันตายไปหมดแล้ว หมาฟัดเรียบฉันได้แต่ฟังเขาพูด ไม่ได้ขึ้นไปฟังเขาประชุมด้วย เลยไม่รับรู้ต่อการมีอยู่ของมันแต่ว่าพอบ่ายแก่ๆ ก็มีมือดีจับใส่กระเป๋าเสื้อเดินมาให้ที่บ้านดิน"อยู่ที่นี่ดีกว่านะ ไม่งั้นเดี๋ยวมันจะถูกหมาฟัดตาย"เจ้าของเสียงดึงมันออกมา ตัวเล็กๆ อยู่ในอุ้งมือเดียวเท่านั้นของชายหนุ่มฉันมองแล้วทั้งยิ้มทั้งถอนใจ
สร้อยแก้ว
ร้อนๆ อย่างนี้ ซื้อน้ำแข็งกินทีไร ก็อดคิดถึงตู้เย็นไม่ได้ทุกที ถ้ามีตู้เย็นฉันคงจะซื้อน้ำแข็งกินไม่เปลืองเท่านี้ เพราะกินเท่าที่ต้องการ เหลือก็ใส่ตู้เย็น หรือบางทีก็ทำน้ำแข็งกินเองก็ได้ ส่วนของสดหรืออาหารที่กินเหลือก็แช่ตู้เย็นไว้ได้ หิวเมื่อไหร่ก็นำมากินได้อีก ไม่เปลือง อืมม์! คิดทีไรก็อยากกลับไปเอาตู้เย็นที่กรุงเทพฯ ทุกที แต่ก็ติดตรงที่ฉันไม่เคยแน่ใจสักทีว่าจะปักหลักที่ไหน การเคลื่อนย้ายบ่อยจึงไม่เหมาะที่จะมีสัมภาระอะไรมาก นี่ขนาดว่าไม่มาก ฉันก็ยังซื้อโทรทัศน์ (ไว้ดูข่าวสารบ้านเมือง) เครื่องซักผ้า (แก่แล้ว นั่งซักปวดหลัง) หนังสืออีกหนึ่งเข่งและข้าวของจิปาถะอีกสองเข่งกับอีกสองลังเสื้อผ้า…
สร้อยแก้ว
ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาการสร้างเขื่อนสิรินธรเมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๔ ได้จัดงานรำลึก ๑๕ ปีในการต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรมเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ในบริเวณแถบอีสานใต้นี้ นับว่ามีปัญหาของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายของภาครัฐอยู่หลายโครงการ เอาแค่ใกล้ๆ ที่ฉันอยู่ มีปัญหาจากการสร้างเขื่อนอยู่สามโครงการคือ เขื่อนสิรินธร เขื่อนปากมูน และเขื่อนราษีไศล
สร้อยแก้ว
  "ท่านเป็นเจ้านาย มีเงินเดือนกิน ท่านบ่ได้เป็นแม่ค้าหาเช้ากินค่ำ ท่านจะเว้าจังได๋ก็ได้"คำพูดของแม่ค้าคนหนึ่งดังอยู่ข้างหูเมื่อทุกคนมายืนรอฟังคำตอบจากการไปเจรจากับทางเทศบาลมาเสียงโทรศัพท์ที่ดังแต่เมื่อคืนบอกถึงเจตจำนงในการจะยึดพื้นที่ค้าขายกลับคืนมาในช่วงเวลาราวตีหนึ่งเศษทำให้เพื่อนบางคนที่ทำงานในศูนย์ภูมิปัญญาไทบ้านต้องรีบออกไปดูแต่เช้า และแน่นอนด้วยความอยากรู้อยากเห็นฉันก็ขอกระเตงติดรถไปด้วยคน
สร้อยแก้ว
ฉันมีโอกาสไปดูงานรณรงค์เลิกเหล้าของหมู่บ้านคำกลาง ตำบลโนนหนามแท่ง อำเภอเมือง จังหวัดอำนาจเจริญ เมื่อหลายเดือนก่อน ตำบลนี้มีกำนันคนเก่งเป็นผู้หญิงชื่อ รัตนา สารคุณ ก่อนนี้แม่กำนันเคยเป็นนักเลงสุรา ดื่มเหล้าหนัก แม่กำนันดื่มเหล้าเพียวและดื่มน้ำตบตูดแบบเดียวกับที่ผู้ชายพื้นบ้านนิยมดื่มกัน และแม่คอแข็งชนิดผู้ชายต้องยอมแพ้ แต่สุดท้ายเมื่อเวลาผ่านไป กาลเวลาสามารถพิสูจน์ความสามารถของเธอได้มากกว่าการพิสูจน์ความกินทนกินนาน ใจป้ำ ใจแกร่ง ในวงสุรา แม่กำนันก็เห็นโทษของการดื่มสุรา และหันมารณรงค์ให้ลูกบ้านลดละเลิกเหล้า
สร้อยแก้ว
  นึกไม่ออกแล้วว่าเคยไปร่วมงานวันเด็กครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่พยายามนึก...ลูกก็ยังไม่มี หลานรึ ก็ไม่เคยได้พาไป เพราะไม่ค่อยได้อยู่บ้านงานวันเด็กครั้งสุดท้ายของตัวเองน่าจะเป็นตอนที่ยังเรียนอยู่ชั้น ป.๖ นั่นแหละ เพราะหลังจากนั้น พอขึ้นชั้น ม.๑ ความแก่แดดแก่ลมของฉันก็พลันให้รู้สึกว่าตัวเองเป็นสาววัยรุ่นแล้ว ไม่ใช่เด็ก จึงไม่เคยไปวอแวงานวันเด็กอีก ไม่อย่างนั้น เค้าจะหาว่าเด็กจนปีใหม่นี้ฉันมีโอกาสไปนอนมองพระจันทร์กลางทุ่งนา มองฟ้าพร่างดาวเคลื่อนคล้อยข้ามคืนข้ามปีในช่วงปีใหม่ที่อำเภอกุดชุม จังหวัดยโสธร ก็เลยได้อยู่ยาวมาเรื่อยจนถึงงานวันเด็กของหมู่บ้าน