Skip to main content

Nick Srnicek ได้สรุปภาพรวมของแพลตฟอร์มดิจิทัลที่แตกต่างกัน 5 ประเภท คือ

1.แพลตฟอร์มโฆษณา, 2.แพลตฟอร์มจัดเก็ยข้อมูล, 3.แพลตฟอร์มอุตสาหกรรม, 4.แพลตฟอร์มผลิตภัณฑ์, และ 5.แพลตฟอร์มแบบลีน

 

1) แพลตฟอร์มโฆษณา Advertising Platform
ก่อนหน้านี้ในยุคดอทคอม ช่วง 1990s บริษัทต่าง ๆ ในตลาดสหรัฐอเมริกาต่างใช้กลยุทธ์ 'การเติบโตก่อนผลกำไร' ที่ได้สร้างพื้นฐานสำหรับรูปแบบธุรกิจที่เน้นการโฆษณาและดึงดูดผู้ใช้อยู่แล้ว แต่วิกฤติฟองสบู่แตกในปี 20088 บริษัทเหล่านี้หันไปลงทุนในการโฆษณาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งได้กลายเป็นพื้นที่ในการแสวงหารายได้หลัก
แพลตฟอร์มโฆษณาคือความพยายามครั้งแรกในการสร้างแบบจำลองสำหรับยุคดิจิทัล โดยมี Google และ Facebook เป็นแนวหน้าในการทำตลาดโฆษณา
Google ได้รวบรวมข้อมูลผู้ใช้จากการค้นหาและใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อปรับปรุงการค้นหา  ซึ่งในหนังสือได้ชี้ให้เห็นว่านี่คือ การใช้ข้อมูลแบบคลาสสิกในระบบทุนนิยม คือ ใช้ข้อมูลและกิจกรรมที่บันทุกไว้จากระบบเพื่อปรับปรุงบริการสำหรับลูกค้าและผู้ใช้ แต่ด้วยความต้องการรายได้เพิ่มขึ้น Google ก็เริ่มนำข้อมูลการค้นหาพร้อมกับคุกกี้และข้อมูลอื่น ๆ ของผู้ใช้เพื่อสร้างพื้นที่โฆษณา และขายข้อมูลเหล่านั้นให้กับผู้โฆษณาผ่านระบบอัตโนมัติ 
วิธีที่ Google และ Facebook สร้างรายได้นั้นเป็นเรื่องง่าย หากมองว่าข้อมูลและกิจกรรมที่ไหลเวียนอยู่ในระบบนั้นนั้นมีฐานะเป็นผู้ใช้เป็นแรงงานที่ไม่ได้รับค่าจ้างในการผลิตสินค้า  (ข้อมูลและเนื้อหา) ที่บริษัทนำไปขายให้กับผู้โฆษณาและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่น ๆ
ภายใต้แนวคิดมาร์กซิสต์ แรงงานมีความหมายถึงผู้ทำกิจกรรมที่สร้างมูลค่าส่วนเกินภายในบริบทของตลาดแรงงานและกระบวนการผลิตที่มุ่งเน้นการแลกเปลี่ยน  ดังนี้ การจะอภิปรายว่าปฏิสัมพันธ์ทางสังคมออนไลน์เป็นส่วนหนึ่งของการผลิตทุนนิยมหรือไม่ ไม่ใช่แค่การถกเถียงเชิงวิชาการที่เกี่ยวกับคำจำกัดความเท่านั้น ดังนี้ แม้ว่าจะมีแรงกดดันที่จะทำให้คนหันมาทำกิจกรรมต่าง ๆ ทางออนไลน์มากขึ้น ถ้าการโต้ตอบออนไลน์ของผู้คนในยุคปัจจุบันเป็นแรงงานฟรี แรงงานฟรีที่เกิดขึ้นใหม่นี้ก็จะถูกเอารัดเอาเปรียบอย่างรุนแรง 
ปัจจุบันแพลตฟอร์มโฆษณาเหล่านี้เป็นธุรกิจแพลตฟอร์มใหม่ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด มีรายได้สูง ผลกำไรจำนวนมาก และมีพลังขับเคลื่อนที่แข็งแกร่ง ซึ่งสวนทางกับระดับการลงทุนที่ยังคงมีการลงทุนในระดับที่ต่ำในตลาดทั่วโลก เนื่องจากบริษัทเหล่านี้มักจะลงทุนด้วยเงินสดและหลีกเลี่ยงภาษี 

 

2) แพลตฟอร์มจัดเก็บข้อมูล Cloud Platform
เรื่องราวของการเช่าระบบคลาวด์ขององค์กรเริ่มต้นด้วยอีคอมเมิร์ซในปี 1990 ในช่วงปลายทศวรรษ 1990 บริษัทอีคอมเมิร์ซต่างๆ ลงทุนในการสร้างคลังสินค้าและจ้างคนงานจำนวนมาก 
ในปี 2016 Amazon ได้ลงทุนในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ที่มีเทคโนโลยีในการดำเนินการต่าง ๆ ในกิจการ หุ่นยนต์ขนย้ายคลังสินค้า และระบบคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ กระทั่งมีการใช้โดรนสำหรับส่งของ นอกจากนี้ยังเป็นนายจ้างรายใหญ่ที่สุดในเศรษฐกิจดิจิทัลด้วย มีพนักงานมากกว่า 230,000 คนและคนงานตามฤดูกาลหลายหมื่นคน ซึ่งส่วนใหญ่ทำงานด้วยค่าแรงต่ำ และงานที่มีความเครียดสูงในคลังสินค้า เพื่อเติบโตเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ Amazon พยายามที่จะเข้าถึงผู้ใช้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ผ่านการซื้อขายข้ามประเทศ
แต่แท้จริงแล้ว ตรรกะเบื้องหลังของแพลตฟอร์มจัดเก็บข้อมูลนั้นคล้ายกับนั้นคล้ายกับวิธีการทำงานในการจัดหาสาธารณูปโภค Jeff Bezos ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Amazon เปรียบเทียบกระบวนการสร้าง AWS กับการจัดการทรัพยากรไฟฟ้า  คือ โรงงานในยุคแรกๆ จะมีเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเป็นของตัวเอง แต่ในที่สุดการผลิตไฟฟ้าก็ถูกรวมศูนย์และปล่อยให้เช่า 'ตามความจำเป็น' แต่ทุกวันนี้ ทุกด้านของเศรษฐกิจมีการบูรณาการเข้ากับมากขึ้น ดังนั้นการเป็นเจ้าของโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับอุตสาหกรรมอื่น ๆ ทั้งหมดจึงเป็นตำแหน่งที่ทรงพลังและให้ผลกำไรมหาศาล

 

3) แพลตฟอร์มอุตสาหกรรม Industrial Platform
เนื่องจากการเก็บรวบรวม การจัดเก็บ และการวิเคราะห์ข้อมูลมีราคาถูกลงเรื่อย ๆ บริษัทต่างๆ ได้พยายามนำแพลตฟอร์มเข้ามาสู่การผลิตแบบดั้งเดิมมากขึ้นเรื่อยๆ ความพยายามที่สำคัญที่สุดเหล่านี้อยู่ภายใต้ภาพของ อุตสาหกรรม Internet of Things (IOT Industrial)
แพลตฟอร์มอุตสาหกรรมถูกสร้างขึ้นด้วยความหวังที่จะทำให้เพิ่มกำลังให้แก่กระบวนการผลิต อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อลดต้นทุนและเวลาทำงาน โดยมีความสำคัญคือมีจุดมุ่งหมายที่จะเชื่อมโยงกระบวนการผลิตให้ใกล้ชิดกับกระบวนการผลิต แทนที่จะอาศัยการสนทนากลุ่มหรือการสำรวจจากแรงงานมนุษย์ ผู้ผลิตต่างหวังที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่และออกแบบคุณสมบัติใหม่โดยพิจารณาจากข้อมูลการใช้งานที่ดึงมาจากผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ก่อนหน้าแล้วอย่างเป็นระบบ  ดังนั้น แพลตฟอร์มอุตสาหกรรมนั้นจึงเกี่ยวข้องกับการฝังเซ็นเซอร์และชิปคอมพิวเตอร์ในกระบวนการผลิตและการขนส่งโลจิสติกส์ที่ทั้งหมดเชื่อมโยงกันผ่านการเชื่อมต่อทางอินเทอร์เน็ต กระบวนการนี้กำลังได้รับการประกาศว่าเป็น 'Industry 4.0' ในเยอรมนี   โดยมีแนวคิดคือแต่ละแผนกในกระบวนการผลิตสามารถระหว่างกันได้ โดยไม่จำเป็นต้องขอคำแนะนำจากคนงานหรือผู้จัดการ โดยทำการแบ่งปันข้อมูลเฉพาะทางในกระบวนการผลิตอย่างต่อเนื่อง
หนังสือได้นำเสนอว่า แพลตฟอร์มอุตสาหกรรมนี้สามารถช่วยลดต้นทุนแรงงานได้ 25 เปอร์เซ็นต์,  ลดต้นทุนด้านพลังงานลง 20 เปอร์เซ็นต์, ลดต้นทุนการบำรุงรักษาลงร้อยละ 40 และสามารถลดข้อผิดพลาดในสายพานการผลิตและเพิ่มคุณภาพแก่สินค้าได้ 
ความท้าทายสำคัญประการหนึ่งของแพลตฟอร์มอุตสาหกรรมคือการสร้างมาตรฐานสำหรับการสื่อสารขององค์กร ที่จำเป็นต้องมีการทำงานร่วมกันระหว่างแผนกต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของเครื่องจักรรุ่นเก่า แพลตฟอร์มอุตสาหกรรมจะทำหน้าที่เป็นเฟรมเวิร์กพื้นฐานสำหรับการเชื่อมโยงระหว่างโรงงานและซัพพลายเออร์, ผู้ผลิตและผู้บริโภค, ซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ เข้าด้วยกัน

 

4) แพลตฟอร์มผลิตภัณฑ์ Product Platform
แพลตฟอร์มผลิตภัณฑ์เป็นหนึ่งในวิธีการที่ใหญ่ที่สุดที่บริษัทนำมาใช้ เพื่อฟื้นฟูแนวโน้มที่จะไม่มีต้นทุนส่วนเกินในสินค้าบางประเภท โดยในหนังสือได้ยกตัวอย่างผ่านอุตสาหกรรมดนตรี ในช่วงปลายทศวรรษ 1990 ที่การดาวน์โหลดเพลงฟรีแบบละเมิดลิขสิทธิ์ทำให้รายได้ของค่ายเพลงลดลงอย่างมาก  เนื่องจากผู้บริโภคหยุดซื้อผลิตภัณฑ์โดยตรงจากอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมดนตรีได้รับการฟื้นฟูในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาโดยแพลตฟอร์ม Spotify, Pandora ที่ใช้วิธีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากผู้ฟัง ค่ายเพลง และผู้โฆษณา  นอกจากนี้ ยังยกตัวอย่างการจัดการการดูแลเครื่องยนต์ไอพ่นจากบริษัท Rolls Royce ที่ใช้วิธีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไอพ่นแก่สายการบินต่าง ๆ โดยมีการเชื่อมต่อข้อมูลการบำรุงรักษาเครื่องยนต์ในระบบเพื่อคอยตรวจสอบและดูแลมาตรฐานของผลิตภัณฑ์อยู่เสมอ 

 

5) แพลตฟอร์มแบบลีน Lean Platform
แพลตฟอร์มแบบลีนนี้เป็นการย้อนกลับไปยังระยะแรกสุดของยุคอินเทอร์เน็ต ในขณะที่แพลตฟอร์มแบบอื่น ๆ นี้มีรูปแบบธุรกิจที่มุ่งสร้างผลกำไรในทางใดทางหนึ่ง แต่แพลตฟอร์มแบบลีนกลับใช้แนวคิด 'การเติบโตก่อนทำกำไร' เช่นเดียวกับกระแสในปี 1990 
บริษัทต่างๆ เช่น Uber และ Airbnb ได้กลายเป็นชื่อที่คุ้นเคยอย่างรวดเร็วและได้เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของรูปแบบธุรกิจแบบลีน มีคำพูดที่กล่าวว่า 'Uber เป็นบริษัทแท็กซี่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่กลับไม่มียานพาหนะ และ Airbnb คือผู้ให้บริการที่พักรายใหญ่ที่สุด แต่กลับไม่มีอสังหาริมทรัพย์ในครอบครอง'  ในแง่นี้ หน้าที่หลักของแพลคฟอร์มแบบลีนนี้คือควบคุมแพลตฟอร์มที่ช่วยให้ได้รับค่าเช่าผูกขาด โดยไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงจากการเข้าครอบครองต้นทุนอื่น ๆ
ในแง่ของตลาดแรงงาน แพลตฟอร์มแบบลีนได้เปลี่ยนบริการที่ครั้งหนึ่งเคยซื้อขายไม่ได้ให้กลายเป็นบริการที่ซื้อขายได้ ส่งผลให้อุปทานแรงงานเพิ่มขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ ตอนนี้งานใหม่ๆ มากมายสามารถทำได้ทางออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์ม ซึ่งสิ่งนี้ช่วยให้ธุรกิจสามารถลดต้นทุนได้อีกครั้งด้วยการใช้ประโยชน์จากแรงงานราคาถูกในประเทศกำลังพัฒนา และสร้างแรงกดดันต่อค่าแรงที่ลดลงด้วยการวางงานเหล่านี้ในตลาดแรงงานทั่วโลก
เมื่อพิจารณาจากต้นทุนค่าแรงที่ลดลงจากวิธีการดังกล่าว จึงไม่น่าแปลกใจที่มาร์กซ์เขียนว่า 'ค่าจ้างรายชิ้น เป็นรูปแบบของค่าจ้างที่สอดคล้องกับวิธีการผลิตแบบทุนนิยมมากที่สุด'  การจ้างแรงงานภายนอกแสดงให้เห็นภถึงแนวโน้มการเอาท์ซอร์สที่กว้างขึ้นและยาวนานขึ้น  ในอเมริกา แพลตฟอร์มเหล่านี้อธิบายว่าคนงานของพวกเขาเป็น 'ผู้รับเหมาอิสระ' มากกว่า 'พนักงาน' ซึ่งช่วยให้บริษัทสามารถประหยัดค่าแรงได้ประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์  จากการลดต้นทุนค่าสวัสดิการ ค่าล่วงเวลา วันลาป่วย และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ นอกจากนี้ยังหมายถึงการจ้างจ้างภายนอกค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม เนื่องจากการฝึกอบรมอนุญาตเฉพาะสำหรับพนักงานเท่านั้น
ตลาดแรงงานแบบดั้งเดิมที่ใกล้เคียงที่สุดกับแพลตฟอร์มแบบลีนคือ ตลาดแรงงานรายวัน เช่น คนงานเกษตร, คนงานท่าเรือ หรือคนงานค่าแรงต่ำอื่น ๆ ซึ่งจะมาปรากฏตัวที่ไซต์งานในตอนเช้าด้วยความหวังว่าจะหางานทำในวันนั้น 

 

อ้างอิง
Nick Srnicek, Platform Capitalism (Cambridge: Polity, 2017).
Shoshana Zuboff, “Google as a Fortune Teller: The Secrets of Surveillance Capitalism,” Faznet (Frankfurter Allgemeine Zeitung, March 5, 2016), http://www.faz.net/aktuell/feuilleton/debatten/the-digital-debate/shoshana-zuboff-secrets-of-surveillance-capitalism-14103616.html.
Hal R Varian, “Online Ad Auctions,” American Economic Review 99, no. 2 (January 2009): 430-434. in Nick Srnicek, Platform Capitalism (Cambridge: Polity, 2017).
McKenzie Wark, A Hacker Manifesto (Cambridge, MA: Harvard University Press, 2004).


*ปรับปรุงจากบททบทวนวรรณกรรม โดย ภาณุพงศ์ จือเหลียง ใน วิจัย โครงการสังเคราะห์องค์ความรู้ทางกฎหมายเพื่อสนับสนุนการแบ่งปันผลประโยชน์จากข้อมูลดิจิทัลอย่างเป็นธรรม, 2565. โดย สถาบันพระปกเกล้า.

 

บล็อกของ ทศพล ทรรศนพรรณ

ทศพล ทรรศนพรรณ
เรื่องล่าสุดที่ใครอาจคิดว่าไกลตัว แต่มันเข้ามาใกล้ตัวเรากว่าที่หลายคนคิด ใช่แล้วครับ แรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย และจะมีจำนวนมากขึ้นอย่างแน่นอนในอนาคตตามการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทย และความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจกับประเทศรอบด้าน   บางคนอาจคิดไปว่าคนต่างด้าวเข้ามาแย่งงานคนไทย แต่คน
ทศพล ทรรศนพรรณ
การบังคับใช้กฎหมายของรัฐเหนือดินแดนหลังหมดยุคอาณานิคมนั้น ก็มีความชัดเจนว่าบังคับกับทุกคนที่อยู่ในดินแดนนั้น  ไม่ว่าคนไทย จีน อาหรับ ฝรั่ง ขแมร์ พม่า เวียต หากเข้ามาอยู่ในดินแดนไทยแล้วก็ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายไทย ดุจเดียวกับ “คนชาติ” ไทย   แต่ความยากลำบากเกิดขึ้นเมื่อปัจจุบันการข้ามพรมแดนย
ทศพล ทรรศนพรรณ
เรื่องนี้จะทำให้ทุกท่านเข้าใจแจ่มแจ้งเลยนะครับว่า “เงินทองมันไม่เข้าใครออกใคร” จริงๆ ให้รักกันแทบตาย ไว้ใจเชื่อใจกันแค่ไหนก็หักหลังกันได้ และบางทีก็ต้องคิดให้หนักว่าที่เขามาสร้างความสัมพันธ์กับเรานั้น เขารักสมัครสัมพันธ์ฉันคู่รัก มิตรสหาย หรืออยากได้ทรัพย์สินเงินผลประโยชน์จากเรากันแน่  
ทศพล ทรรศนพรรณ
หลังจาก คสช. ได้เรียกคนไทยในต่างแดนมารายงานตัว และมีความพยายามนำคนเหล่านั้นกลับมาดำเนินคดีในประเทศทำให้เกิดคำถามว่า กฎหมายใช้ไปได้ถึงที่ไหนบ้าง?  ขอบเขตของกฎหมายก็เชื่อมโยงกับองค์ประกอบของ รัฐยังจำกันได้ไหมครับ ว่า รัฐประกอบไปด้วยอะไรบ้าง?
ทศพล ทรรศนพรรณ
เรื่องต่อมาคงเคยผ่านหูผ่านตาหลายท่านกันมามากแล้วนะครับ นั่นคือ การออกโปรโมชั่นต่างๆของบริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือสองสามเจ้าที่แข่งกันออกมายั่วยวนพวกเราให้หลงตามอยู่เรื่อยๆ   ผมเองก็เกือบหลงกลไปกับภาษากำกวมชวนให้เข้าใจผิดของบริษัทเหล่านี้อยู่หลายครั้งเหมือนกันนะครับ ต้องยอมรับเลยว่าคนที่
ทศพล ทรรศนพรรณ
หลังจากที่เครือข่ายเฟซบุคล่มในประเทศไทยเป็นเวลาเกือบชั่วโมงจนเพื่อนพ้องน้องพี่เดือดดาลกัน    ตามมาด้วยข่าวลือว่า "คสช. จะตัดสัญญาณอินเตอร์เน็ต และไล่ปิดโซเชียลเน็ตเวิร์ค" นั้น  สามารถอธิบายได้ 2 แนว คือ1. เป็นวิธีการที่จะเอาชนะทางการเมืองหรือไม่ และ
ทศพล ทรรศนพรรณ
เวลาคนทะเลาะกัน จะหาทางออกอย่างไร ? 
ทศพล ทรรศนพรรณ
กฎหมายมีผลตั้งแต่วันที่ประกาศใช้ กฎหมายที่มีผลร้ายห้ามมีผลย้อนหลัง  การออกกฎหมายมาลงโทษการกระทำที่เกิดขึ้นในอดีตจะทำไม่ได้ กฎหมายสิ้นผลเมื่อประกาศยกเลิก 
ทศพล ทรรศนพรรณ
เรามักได้ยินคนพูดว่า ดูละครแล้วย้อนมองตน เพราะชีวิตของคนในละครมักสะท้อนให้เห็นแง่มุมต่างๆในชีวิตได้ใช่ไหมครับ แต่มีคนจำนวนมากบอกว่าชีวิตใครมันจะโชคร้ายหรือลำบากยากเย็นซ้ำซ้อนแบบตัวเอกในละครชีวิตบ้างเล่า  แต่เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ทำให้ผมมั่นใจว่าเรื่องราวในชีวิตจริงยิ่งกว่านิยาย หากมันจะทำให
ทศพล ทรรศนพรรณ
ภัยใกล้ตัวอีกเรื่องที่ไม่ว่าผู้หญิงคนไหนก็ไม่อยากเจอคงเป็นเรื่องลึกๆ ที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ส่วนตัวซึ่งเป็นความในไม่อยากให้ใครหยิบออกมาไขในที่แจ้ง แม้ความคิดของคนในสังคมเกี่ยวกับเรื่องเพศสัมพันธ์และความบริสุทธิ์จะเปลี่ยนไปแล้ว คือ เปิดกว้างยอมรับกับความหลังครั้งเก่าของกันและกันมากขึ้น &nbsp
ทศพล ทรรศนพรรณ
                ประเทศไทยประกาศต่อประชาชนในประเทศว่าจะรับประกันสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ และประกาศต่อโลกว่าเป็น รัฐประชาธิปไตย มีกฎหมายใช้จัดการความขัดแย้งอย่างยุติธรรม รวมไปถึงป้องกันการใช้อำนาจตามอำเภอใจของรัฐ   แต่การประกาศใช้กฎอัยการศึกได้ทำลายสิทธ
ทศพล ทรรศนพรรณ
เรื่องนี้เป็นวิกฤตครั้งใหญ่ของน้องคนหนึ่ง ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตได้ทำให้ครอบครัวเค้าสูญเสียทุกอย่างไป   น้องได้ลำดับเรื่องราวให้ฟังว่า