10 ข้อโต้แย้งข้อเสนอบอนไซด้วยอคติสัดส่วนหญิงชาย 50:50 ในรัฐธรรมนูญ เพราะไม่ใช่ว่าหญิงจะปกป้องผู้หญิง และไม่ใช่ว่าชายจะไม่สนับสนุนความเสมอภาคทางเพศ
เห็นกลุ่มผู้หญิง(บางกลุ่ม)ออกมาเรียกร้องให้รัฐธรรมนูญบัญญัติสัดส่วนหญิงชาย 50:50 โดยหวังว่าจะสร้างความเสมอภาคทางเพศ ผมคิดว่า...
1. เราต้องเข้าใจว่าการมีผู้หญิงนั่งอยู่ในตำแหน่งทางการเมืองไม่ใช่ว่าเขาจะปกป้องผลประโยชน์ของผู้หญิง และถึงปกป้องก็ใช่ว่าจะเป็นผู้หญิงส่วนใหญ่ ในทางกลับกันใช่ว่าผู้ชายหรือเพศอื่นๆ จะไม่สนับสนุนความเสมอภาคทางเพศ
2. แต่มันขึ้นอยู่กับว่า 'ใครเลือกเขามา' และเขา 'ถูกควบคุมตรวจสอบโดยใคร' นี่ต่างหากที่จะเป็นหลักประกันที่จะให้ผู้ดำรงตำแหน่งนั้นๆ ดำเนินนโยบายไปทิศทางใด
3. จากข้อ 2. ผู้หญิงใน สนช. สปช. ที่ถูกแต่งตั้งโดย คสช. ก็จะรับผิดชอบหรือดำเนินการตาม คสช. เป็นหลัก หรืออย่างน้อยก็ไม่ต่อต้าน คสช. (ตามที่ป้า ทิชา ยืนยันว่าไม่ได้ต่อต้าน คสช.)
4. ถ้าบรรดาผู้หญิงเหล่านั้นเชื่อว่าการที่มีผู้หญิงอยู่ในตำแหน่งสำคัญๆ และจะปกป้องสิทธิของผู้หญิงจริง ผู้หญิงเหล่านั้นก็คงจะออกมาปกป้อง ยิ่งลักษณ์ อย่างเอาเป็นเอาตายอยู่แล้ว แต่ความเป็นจริงไม่เป็นเช่นนั้น หลายคนทำในสิ่งตรงข้าม หลายคนออกมาล้มการเลือกตั้ง 2 ก.พ.ด้วยซ้ำ เพราะเขาไม่ได้มองว่ายิ่งลักษณ์ในฐานะตัวแทนผู้หญิง ซึ่งก็ไม่ผิด
5. การที่ผู้หญิงหลายคน(ไม่ทั้งหมด)ที่เรียกร้อง 50:50 เคยเป่านกหวีดจนล้มเลือกตั้ง 2 ก.พ. ด้านหนึ่งก็เป้นการตัดความเท่าเทียมทาเพศด้วยซ้ำ เพราะการเลือกตั้งมันเป็นกระบวนการพื้นฐานสุดของการยืนยันความเท่าเทียมบนหลักการ 1 สิทธิ 1 เสียง ผู้หญิงมีสิทธิเท่ากับผู้ชาย
6. ที่มาของวันสตรีสากลส่วนหนึ่งก็มาจากการเรียกร้องสิทธิในการออกเสียงที่เท่าเทียมกับชายเช่นกัน
7. การกำหนดโควต้าในรัฐธรรมนูญ เช่นนี้ ด้านหนึ่งมันคือ 'บอนไซ' คือไปบีบบังคับให้เขาตั้งยัดๆ ผู้หญิงเข้าไป แทนที่จะเป็นไปตามความต้องการของประชาชนที่จะเลือกหรือนิยมคนนั้นคนนี้ ตัวอย่าง หากชายคนหนึ่งมีคนที่ต้องการเลือกเขามากกว่า หญิงอีกคนหนึ่ง แต่ด้วยหลัก 50:50 ทำต้องกันที่ให้กับผู้หญิง ไม่ใช่แค่การตัดสิทธิชายคนดังกล่าวหากแต่เป็นการบิดเบือนเสียงที่แท้จริงของประชาชนที่เขาจะเลือกชายคนนั้นด้วย
8. และถึงที่สุดสัดส่วนดังกล่าวคนที่จะได้ภายใต้กระแสลดทอนสิทธิเสียงของประชาชนตั้งแต่การเลือกตั้งระดับชาติละท้องถิ่น ผู้หญิงที่จะเข้าไปนั่งในสัดส่วน 50:50 นั้นก็จะเป็นโอกาสของผู้หญิงชนชั้นสูงมากกว่า ด้วยการแต่งตั้ง ยัดเยียด ลากตั้งอย่างที่เป็นอยู่ขณะนี้
9. ผมยังคงยืนยันว่าคู่ขัดแย้งหญิง-ชาย เป็นเรื่องรองมาก เมื่อเทียบกับคู่ขัดแย้งทางชนชั้น ใช่ว่าผู้หญิงจะไม่กดขี่ผู้ชาย หากผู้หญิงนั้นเป็นชนชั้นสูง เป็นนายทุน ฯลฯ ดังนั้นการพูดถึงความเสมอภาคทางเพศ โดยไร้มิติความเหลื่่อมล้ำทางสังคม ความขัดแย้งทางชนชั้นจึงไม่นำไปสู่ความเสมอภาคที่แท้จริงแต่อย่างใด นอกจากทำให้ได้รู้สึกว่ายุติธรรมบนความอยุติธรรมรองเท่านั้น
10.แทนที่จะบอนไซ บีบบังคับในรัฐธรรมนูญ ให้สัดส่วน 50:50 นั้น ควรรณรงค์ให้ประชาชนเขาเลือกคนที่มีนโยบายส่งเสนอมความเสมอภาคทางเพศมากกว่า เพราะถ้าเธอเหล่านั้นดีจริงเดี๋ยวประชาชนเขาก็เลือกเอง อย่าลืมว่าปัจจุบันประเทศไทยมีผู้หญิงมากกว่าผู้ชายด้วยซ้ำ
ส่วนคนที่บอกว่า "ถ้าให้เลือกตั้งเสรี ผู้หญิงก็ไม่เลือกผู้หญิงอยู่ดี" นั่นล่ะครับยิ่งเป็นเครื่องยืนยันที่ดีที่สุดว่าเอาเข้าจริงใช่ว่าผู้หญิงจะสนับสนุนความเสมอภาคทางเพศ เพราะแม้แต่คุณยังยอมรับเลยว่าผู้หญิงด้วยกันใช่ว่าจะสนับสนุนผู้หญิงด้วยกัน
หมายเหตุ : ข้อโต้แย้งนี้ผมเขียนลงในเฟซบุ๊ก 'Bus Tewarit' เมื่อสตรีสากลหรือวันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา