งานลอยกระทง
ของอำเภอเวียงแหงผ่านพ้นไปแล้ว แต่ผลการตัดสินการประกวดกระทง ยังคงถูกวิพากษ์วิจารณ์แพร่หลาย ไม่จางหายไปง่ายๆ บ้างกล่าวว่า กรรมการตัดสินลำเอียง ตัดสินให้กระทงบ้านเจ้าภาพของงานชนะเลิศ เพราะพากรรมการไปเลี้ยงดูปูเสื่อ บางกลุ่มว่าประธานกรรมการตัดสิน มีภรรยาเป็นชาวบ้านของกระทงที่ชนะเลิศ สารพัดของการณ์วิจารณ์ บ่งบอกการไม่พอใจ ไม่ยอมรับกรรมการตัดสินกระทงชุดนี้
เวลาผ่านไป
เทศกาลวันเข้าพรรษาวนมาถึง ปีนี้นอกจากงานทำบุญแล้ว จะมีการประกวดบ้องไฟหรือบั้งไฟด้วย
โดยบ้านเวียงแหงเป็นเจ้าภาพ หมู่บ้านใกล้ไกลได้รับแจ้งข่าว เชิญชวนส่งบ้องไฟเข้าประกวด
เรื่องสำคัญที่ถูกหยิบยกมากล่าวถึงอีกได้แก่ กรรมการตัดสินทุกหมู่บ้านแจ้งให้เจ้าภาพเลือกกรรมการที่เป็นกลางจริงๆ ไม่เอากรรมการจากหมู่บ้านใดๆ ควรให้อำเภอเป็นกรรมการกลางจะดีที่สุด ทุกหมู่บ้านยอมรับได้ นายอำเภอได้รับการเรียกร้อง จึงได้จัดประชุมเจ้าหน้าที่อำเภอ ทุกฝ่ายเห็นควรมอบหน้าที่กรรมการตัดสินบ้องไฟ ให้สำนักงานการประถมศึกษาอำเภอ หัวหน้าการประถมศึกษาอำเภอรับข้อเสนอ
ท่านหัวหน้าการฯ รับเรื่องมาหารือในสำนักงาน ที่ประชุมตกลงเลือกกรรมการ 3 คน คุณโพยม ฝ่ายการเงิน
ธาตรี เจ้าหน้าที่ธุรการ ตัวผม นักวิชาการ
ผมชักหนักใจ
ไม่มีความรู้เรื่องบ้องไฟเพียงพอจะตัดสินได้ มีเพียงความเป็นกลางที่ชาวบ้านไว้ใจ
ปรึกษากรรมการด้วยกัน ปรึกษาผู้รู้ เช่น สะหล่า (ช่างผู้ชำนาญการ) บ้องไฟ พระที่วัด เราจะต้องดูอะไร จึงจะให้คะแนนบ้องไฟได้ถูกต้อง อย่างไรได้มาก ได้น้อย เขาบอกว่า ให้ดู 2 อย่าง ขึ้นสูงประการที่หนึ่ง ไม่มีควันหรือควันน้อยเป็นประการที่สอง กรรมการดูบ้องไฟรายแรกที่พุ่งขึ้นท้องฟ้า ควรให้คะแนนน้อยไว้ก่อน ราว 7 คะแนนจากเต็ม 10 คะแนน บ้องไฟต่อไป ถ้าขึ้นสูงและควันมีน้อยกว่าบ้องไฟรายแรก ให้กรอกคะแนนลงไปมากกว่า 7 คะแนน ถ้าขึ้นไม่สูงกว่ารายแรกและควันมากกว่าก็ให้คะแนนน้อยกว่า 7 คะแนน ไม่ยาก ไม่ต้องหนักใจ.