Skip to main content

 

วันนี้ขับรถกระบะสีเขียว
รุ่น พ.ศ. 2537 ออกจากบ้านทุ่งแป้ง อำเภอสันป่าตองราว 8.00 น.เศษ มีจุดหมายปลายทางที่บ้านวัยทองนิเวศน์ อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ คนนั่งซ้ายมือเป็นขาประจำ มีหน้าที่นั่งคุยเป็นเพื่อนไม่ให้คนขับรถง่วง บางเวลาก็นั่งเฝ้ารถกรณีผมเข้าห้องสมุดที่ต่างๆ คอยซื้ออาหารกลางวัน เครื่องดื่มบำรุงคนขับรถ เป็นฝ่ายสวัสดิการ บางทีทำเกินหน้าที่ กลายเป็นฝ่ายก่อความสงบภายในรถ สร้างความเครียดแก่คนขับแทนการผ่อนคลาย สาเหตุจากให้เฝ้ารถนานๆ เมื่อผมกลับจากค้นคว้าในห้องสมุดมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หน้าเธอจะบึ้งก้มหน้า ออกอาการบ่นว่าร้อนบ้าง หิวกาแฟเย็นๆหวานๆบ้าง วันใดไม่อยากไปนั่งเฝ้ารถนานๆ พอขึ้นรถจะเปิดฉากโจมตีด้วยอาวุธพิสัยใกล้ทันที อาทิเช่น
“ เหม็นอะไรในรถ ?   กลิ่นเหมือนฉี่คน ?
“ เปิดแอร์เลขอะไรเนี่ย ? ไม่เย็นเลย ไม่เห็นไปเปลี่ยนน้ำยาแอร์เหมือนใครเขาสักที ใช้มากี่ปีแล้ว .”
“ ดูซิ !   ที่วางเท้ามีแต่ขี้ฝุ่น บนนี่ ที่วางของหน้ารถ มีผงฝุ่นจับเต็มไปหมด ไม่เอารถไปดูฝุ่นล้างรถ เหมือนคนอื่นบ้างเลย ?.

ผมชำเลืองมองหน้าเธอ อ้วนขึ้น ผิวพอได้ขาวใกล้เคียงตอนยังวัยสาว การเปลี่ยนแปลงทางร่างกายเป็นเรื่องปรกติ แต่ที่เปลี่ยนไป เธอพูดเก่งในเรื่องจุกจิก อะไรขวางตาต้องบ่นไม่มียั้ง ต่างกับช่วงคบหาดูใจกัน พูดน้อยไม่ขัดคอ ถ้าขัดก็แย้งน้ำเสียงราบเรียบ รูปร่างรึโปร่งเพรียว คิดถึงตัวเอง ส่องกระจกยามเช้า เปลือกตาสองข้างตก หนังใต้ตาหย่อนกว่าเดิม มุมปากสองข้างเช่นกัน ตีนกาไม่มี ทำให้พอยิ้มได้เล็กน้อย  เอียงข้างดูเอวแขม่วท้องช่วยเล็กน้อยก็ยังหลามพอสมควร กาลเวลาไม่ปราณีผู้ใดในใต้หล้าเลยนะ โอ...ฟ้าดินเจ้าเอ๋ย
 
รถวิ่งจากอำเภอสันป่าตอง
ถึงเชียงใหม่ ระยะทางประมาณ 33 กิโลเมตร แวะหาลูกชายคนเล็กที่บ้านในซอยซิ้นเชียงหลี ถนนราชวงค์ นัดหมายกันว่า จะให้ลูกชายคนเล็กขับรถแทน จากเชียงใหม่ไปบ้านวัยทองนิเวศน์ อำเภอแม่แตง เชียงใหม่ ระยะทางราว 44  กิโลเมตร เพราะผมขับต่อไม่ไหว มันล้าและเพลีย ให้ลูกชายขับรถแทนก็มีปัญหาเล็กน้อย สูงวัยอย่างผมไม่ชอบนั่งรถที่ขับเร็ว อยากนั่งปล่อยอารมณ์ชมวิวข้างทาง รถวิ่งสัก 60-70 กิโลเมตรต่อชั่วโมงกำลังดี อยากหลับก็หลับไป แต่ลูกเป็นวัยรุ่น  ความเร็วขั้นต้นต้อง 80-90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถ้าให้แกพอใจต้อง 100 กว่ากิโลเมตรต่อชั่วโมง

ผมต้องคอยบอกให้แกขับช้าอีกนิดเป็นระยะๆ บางทีแกชะลอโดยกันชนด้านหน้า ห่างรถคันหน้าไม่ถึงคืบ ผมร้องบอก บ่อยๆเข้าแกชักรำคาญ
“ พ่อบ่นอะไรก็ไม่รู้ มองซ้ายมองขวา ยุกๆยิกๆ  กวนสมาธิคนขับ ไม่เชื่อมือกันก็มาขับเอง.”

ผมเคยจ้างคนขับรถแทนหลายครั้ง หาคนยากมาก ล่าสุดได้คนแก่วัย 70 กว่ามาขับ แกขับไปเรื่อยๆ ผมนั่งสบายอารมณ์ แต่พอกลับบ้านเย็นหน่อย แสงแดดลดลง ลีลาการขับแกเปลี่ยนไป แซงรถข้างหน้าหวาดเสียวมาก ข้างรถผมแทบเสียดสีรถอีกคัน ยังไม่พอครับ ขับรถจี้คันหน้าแทบกันชนหน้าจูบอีกคัน มาทราบทีหลังว่า ถ้ามืดค่ำลงหูตาแกไม่ดี
 
รถวิ่งสู่อำเภอแม่แตงถึงกิโลเมตรที่ 41 กว่าเล็กน้อย 
จึงเลี้ยวขวาที่ปากทางเข้าเขื่อนแม่งัด ลูกชายบังคับรถแล่นขึ้นเนินอีก 2 กิโลเมตร ถ้าพ้นเนินข้างหน้า จะเป็น “ศูนย์ฟื้นฟูอาชีพคนพิการหยาดฝน” ถัดขึ้นไปเป็นโรงพยาบาลอำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ผมบอกให้ลูกเลี้ยวขวา เข้าสู่ “บ้านวัยทองนิเวศน์.”
 
 

 

บล็อกของ ถนอมรัก เดือนเต็มดวง

ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง  เก้าอี้สำหรับนั่งร้องเพลง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก  เดือนเต็มดวง   เช้านี้
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง ตาผมกวาดไปที่ประตูใหญ่,,,
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง   เหตุเกิดกลางคืนวันอาทิตย์
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง  ความขัดแย้งรุนแรง...
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ม็อบกระเทียมปิดถนนเรียกร้องความต้องการ ทำความเดือนร้อนแก่ประชาชนผู้ใช้ถนน ผู้เคารพกฎจราจร เคารพกฎหมายบ้านเมือง ผู้ร้ายล็อกคอพลเมืองดีเป็นตัวประกัน ต่อรองเรียกร้องให้คนอื่นทำตามใจตน นี่เป็นตัวอย่างของบางคนบางกลุ่ม ที่รบกวนความสงบสุขของผู้อื่นโดยผิดกฎหมาย ก่อความเดือนร้อนให้คนดีๆ ผู้ก่อเหตุความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และบางอำเภอในสงขลา วางระเบิด ยิงคนดีๆ ผู้บริสุทธิ์คนทำมาหากิน ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใคร ทำลายทั้งชีวิตและบ้านเรือนร้านค้า ใช้อาวุธร้ายแรง ยิงคนเหมือนยิงนก คล้ายดังเชือดเป็ดไก่ ไร้ความรู้สึกของวิญญูชน ไม่ถามหรอกทำไมทำเช่นนั้น รู้ดี เพราะเราคิดไม่เหมือนกันนั่นเอง...…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  ถนอมรัก  เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ตอนเช้า