Skip to main content

 


เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า
ได้ประเมินหรือไม่ว่า ทำไมเราสู้กับน้ำไม่ได้เลย ปัญหาอยู่ตรงจุดไหน นางสาวยิ่งลักษณ์ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ประการที่ 1 ปริมาณน้ำมากกว่าทุกปีเป็นประวัติศาสตร์ มากกว่าถึง 3 เท่า ประการที่ 2 ปริมาณน้ำที่เจอนั้น ไม่มีโอกาสได้ระบายเลย ขังมา 2-3 เดือนแล้ว ดังนั้นจะให้แก้ในเดือนที่ 3 นั้นเป็นไปไม่ได้ อีกทั้งปริมาณน้ำในเขื่อนใช้อย่างเต็มพิกัดหรือเรียกว่าเกินศักยภาพก็ได้ ประการที่ 3 สภาพภูมิประเทศไม่เอื้อต่อการระบายน้ำ วันนี้การสร้างตึก สร้างถนน เป็นสิ่งที่ต้องมาหารือกันในเรื่องการวังผังเมือง ประการที่ 4  ต้องไปหารือกันในระยะยาวในเรื่องการวางแผนการไหลของน้ำให้สัมพันธ์กัน ทั้งกรมชลประทานและการคมนาคม  ซึ่งเป็นจุดที่รัฐบาลจะนำสิ่งต่างๆมาวิเคราะห์และดำเนินการลงทุนแก้ไขปัญหาต่อไป (ไทยรัฐ 20 ตุลาคม 2554)
 
มติชนสุดสัปดาห์
ฉบับประจำวันที่ 14-20 ตุลาคม 2554    คอลัมน์ “วิกฤตน้ำท่วม ฯ”   ได้เขียนว่า รัฐบาลจะต้องรีบวางแผนระยะยาว อาจเป็น 10 ปี สิ่งที่ทำส่วนใหญ่ยังเป็นการแก้ปัญหาขณะน้ำท่วมและบูรณะเยียวยาเมื่อน้ำลดลงแล้ว มีแนวทางการป้องกันน้ำท่วม 3 วิธี 1.การสร้างคันกั้นน้ำบนตลิ่งขนานไปกับลำน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้นำล้นตลิ่งเข้าไปท่วมพื้นที่ด้านใน เช่น ริมแม่น้ำปิง เชียงใหม่ ปากน้ำโพ นครสวรรค์ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา 2.สร้างเขื่อนเพื่อเก็บกักน้ำไม่ให้ไหลลงสู่พื้นที่ต่ำเร็วเกินไป 3. ก่อสร้างทางผันน้ำเพื่อผันน้ำให้ออกไปโดยเร็ว โดยการขุดคลองสายใหม่เชื่อมต่อกับที่มีน้ำท่วม เพื่อให้ไหลออกไปสู่ทะเล หรือปรับปรุงสภาพลำน้ำเดิม ขุดลอกให้น้ำไหลสะดวก...การดิ้นรนเอาตัวรอดจากน้ำท่วมในบ้านเราใช้วิธีสร้างคันกั้นน้ำ การสร้างเขื่อนหรือฝายกั้นน้ำ การขุดคลองระบายน้ำยังเป็นคลองขนาดเล็กและมีน้อย ภัยน้ำท่วมในปีนี้มีขนาดรุนแรงกว่าในอดีต คันกั้นน้ำ (พนัง) ที่สร้างด้วยดินหรือกระสอบทรายจึงพังลงหลายแห่ง...วันนี้เขื่อนจึงไม่สามารถป้องกันน้ำท่วมได้ถ้าพบกับอุทกภัยขนาดใหญ่
 
แต่ละจังหวัดแก้ปัญหาน้ำท่วม
โดยป้องกันไม่ให้น้ำท่วมเขตจังหวัดของตน ไม่ได้มองปัญหาในภาพรวม ไม่ได้คำนึงว่าแก้ปัญหาจุดนี้ได้จะส่งผลกระทบจุดอื่นอีกที่ไหม วิธีแก้ยังคงใช้พนังกั้นน้ำ ใช้กระสอบทรายมาวางซ้อนๆกัน แถวเดียวต้านไม่ไหวเพิ่มความหนาเข้าไป เป็นทั้งสูงทั้งกว้างหนา น่าเห็นใจเพราะนึกไม่ถึงว่าน้ำมันจะมามากมหาศาล แก้ปัญหาเฉพาะหน้ากันไป ปีหน้าและในอนาคต น้ำคงปริมาณมากขึ้น รุนแรงขึ้น การวางแผนต่อสู้กับน้ำ ต่อสู้ธรรมชาติ มนุษย์จะเอาชนะธรรมชาติได้ไหม ยังน่ากังวล ถ้าอย่างนั้น ถามใจตนเอง ? เราจะสู้หรือเราจะถอย(หนี ย้ายที่อยู่)...ทุกคนต้องตอบและลงมือทำ ไม่มีเวลาอีกต่อไปแล้ว.
 
 

 

บล็อกของ ถนอมรัก เดือนเต็มดวง

ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    นอสตราดามุส (ค.ศ. 1502-1566) เป็นชาวฝรั่งเศสเชื้อสายยิว เรียนจบปริญญาตรีคะแนนดีเยี่ยม จึงโดดเรียนปริญญาเอกจนจบสาขาแพทย์ ได้ทำนายไว้ว่า  “ ...วันเวลาแห่งความศักดิ์สิทธิ์ของการสิ้นยุคเก่าและการมาถึงของยุคใหม่...กำลังจะเข้ามาปรากฏแก่สังคมโลกมนุษย์อยู่แล้ว ซึ่งคาดตามตรรกะจะเกิดขึ้นในช่วงระหว่าง 23 ปีข้างหน้านี้ คือระหว่างปี ค.ศ. 2000 ถึง ค.ศ.2023...” (หนังสือนอสตราดามุส โดย ศ.เจริญ วรรธนะสิน หน้า 363)  
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    ผมปลดกระเป๋าหนังสะพายบ่า เปิดกระเป๋าหยิบเอกสารปึกใหญ่ออกมา ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับแผ่นดินไหว ดูท่านยิ้มเหมือนพึงพอใจ ชี้ไปที่เอกสารฉบับหนึ่งแล้วบอกว่า นั่นเป็นชื่อของท่านที่เขียนเรื่องนั้น ผมหัวเราะแก้เขินที่จุดไต้ตำตอ ถือโอกาสย้ำถาม “ ท่านชื่อคุณอดิศร ฟุ้งขจรหรือครับ ? ขอโทษผมไม่ทราบจริงๆครับ.” เราทั้งคู่หัวเราะและยิ้มให้กัน เราเริ่มคุ้นเคยกันในเวลาอันสั้น คงจะจริงนะ ที่ว่าการพบกันครั้งแรกเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง หากอัธยาศัยต้องกัน หรือที่พูดกันว่า ถูกชะตากัน ยิ่งคุยยิ่งสนุก มิตรภาพงอกงามรวดเร็ว…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  24 พฤษภาคม 2554
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  เพลงที่ 11 ลืมไม่ได้เด็ดขาด ชื่อเพลง “ศรัทธา” ขับร้องโดยคุณโป่ง ปฐมพงษ์ สมบัติพิบูลย์ นักร้องนำวง หิน เหล็ก ไฟ ก่อนเปลี่ยนเป็นวง The Son ทราบว่าเพลงของวงนี้ เขาแต่งเนื้อร้องทำนองเองหมด คุณโป่งเป็นนักร้องร็อคระดับต้นแบบ หรือ Idol ของใครอีกมากมายที่เดินตามในถนนสายดนตรี เสียงมีพลัง มีความหนักแน่น เป็นเพลงประเภทให้กำลังใจต่อสู้ ให้มุมมองชีวิต ให้ความคิด เนื้อเพลงบางท่อนกลายเป็นวลีฮิตติดปากไปแล้ว เนื้อเพลงบางตอน              …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
 
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
      ผมฟังคุณศิริพรกล่าวเนื่องในวันเกิด ของผู้ชราหลายคนในวันนี้ ฟังแล้วจับใจไม่น้อย “ ...ถึงแม้บ้านวัยทองนิเวศน์ จะมีอาหารการกิน มีเครื่องนุ่งห่ม เครื่องใช้สอย แต่ที่ขาดเป็นด้านจิตใจ แม้จะไม่สามารถทดแทนครอบครัวเดิมของท่านได้ก็ตาม จะพยายามเติมเต็มส่วนที่ขาด ตามที่สามารถทำได้...” เมื่อพิธีกรงานวันเกิดกล่าวต่อจนจบแล้ว 
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ใกล้เที่ยงในโรงอาหารมีคนพลุกพล่าน พินิจดูเป็นเด็กหนุ่มสาว อาจเป็นระดับอาชีวะ หรือมหาวิทยาลัยราวปี 1 , 2 มีโต๊ะยาววางถ้วยจานแก้วน้ำ หน้าโรงอาหาร มีเจ้าหน้าที่บริการ 2 คน ผมเดินไม่รู้ไม่ชี้มองหาเจ้าหน้าที่บ้านวัยทองนิเวศน์
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ผมเดินออกจากสำนักงาน
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  ผมบอกให้ลูกจอดรถ ที่ถนนทอดสู่ตัวอาคารสำนักงาน บอกให้แกพาแม่ไปเยี่ยมยายที่บ้านปง ที่อยู่ห่างจากที่นี่ราว 3 กิโลเมตรเศษ ประมาณ 11 โมงให้กลับมารับพ่อ ผมเดินเข้าไปหาเจ้าหน้าที่ในตัวอาคาร พบเจ้าหน้าที่หญิง เป็นคนที่เคยรู้จักกันมาก่อน เธอยกมือไหว้เมื่อเห็นหน้าผม เธอมีบ้านพักอาศัยอยู่ในหมู่บ้านสันมหาพน หมู่บ้านนี้อยู่ตรงข้ามกับโรงเรียนสันมหาพนวิทยา ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ตั้งอยู่ฟากถนนทิศตะวันตก โรงเรียนนี้อยู่ห่างที่ว่าอำเภอไปทางทิศใต้ไม่ถึง 100 เมตร ผมเคยสอนโรงเรียนนี้นาน 12 ปี ผมบอกเธอว่า …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  วันนี้ขับรถกระบะสีเขียว รุ่น พ.ศ. 2537 ออกจากบ้านทุ่งแป้ง อำเภอสันป่าตองราว 8.00 น.เศษ มีจุดหมายปลายทางที่บ้านวัยทองนิเวศน์ อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ คนนั่งซ้ายมือเป็นขาประจำ มีหน้าที่นั่งคุยเป็นเพื่อนไม่ให้คนขับรถง่วง บางเวลาก็นั่งเฝ้ารถกรณีผมเข้าห้องสมุดที่ต่างๆ คอยซื้ออาหารกลางวัน เครื่องดื่มบำรุงคนขับรถ เป็นฝ่ายสวัสดิการ บางทีทำเกินหน้าที่ กลายเป็นฝ่ายก่อความสงบภายในรถ สร้างความเครียดแก่คนขับแทนการผ่อนคลาย สาเหตุจากให้เฝ้ารถนานๆ เมื่อผมกลับจากค้นคว้าในห้องสมุดมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  ปีนี้ พ.ศ.2554 จะยังมีกิจกรรมดำหัวผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่หรือไม่ ? หนังสือพิมพ์ท้องถิ่น “ไทยนิวส์” ฉบับวันศุกร์ที่ 1 เมษายน 2554 ได้ลงข่าวหน้า 1 ว่า “ จัดดำหัวผู้ว่าฯสานประเพณี เปลี่ยนชื่องานใหม่ สระเกล้าฯป้อเมือง .” โดยมีเนื้อหาข่าวบางตอนดังนี้ครับ “เมื่อ 30 มีนาคม 2554 นายวรการ ยศยิ่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เผยว่า เพื่อให้การจัดกิจกรรมนี้เป็นการแสดงออกถึงความเป็นวัฒนธรรมประเพณีปีใหม่เมืองล้านนาของจังหวัดเชียงใหม่ จึงได้มีการปรับเปลี่ยนชื่อกิจกรรมเป็นงาน สระเกล้าดำหัวป้อเมืองเจียงใหม่ …