ความสัมพันธ์ระหว่างร่างกายกับอำนาจรัฐนั้นเปี่ยมด้วยปริศนาที่ชวนให้พิจารณาในเรื่องความไม่เป็นธรรมที่ผู้คนในสังคมนั้นๆ ต้องเผชิญและอยู่ร่วมกับความรุนแรงที่มาจากรัฐ
กรณีของชัยภูมิ ป่าแส เมื่อเรามองภาพนี้แล้วเราเห็นอะไร?
การลั่นไกปืนจากทหารนายหนึ่ง ย่อมมีอำนาจของรัฐเป็นสิ่งยืนยันความชอบธรรม อำนาจรัฐนั่นแหละเป็นคนลั่นไกตัวจริง อำนาจรัฐคิดว่าร่างกายของพลเมืองทุกคนอยู่ในความยินยอมและเชื่องเสียจนตัวแทนการใช้อำนาจจะกระทำอย่างไรและตอนไหนก็ได้ ลักษณาการอำนาจของรัฐในลักษณะนี้มีอยู่ในรัฐเผด็จการเท่านั้น
ร่างกายของชัยภูมิในภาพมิได้ถูกยิงจนเสียชีวิตอย่างเดียว หากถูกชันสูตรหรือการพิสูจน์ค้นหาหลักฐานถึงสาเหตุของการตาย ทว่า มันก็เป็นเสมือนการใช้อำนาจรัฐผ่านความรู้ทางการแพทย์ การยืนยันทางวิทยาศาสตร์ก็ไม่อาจนำมาใช้เพื่อลดทอนอำนาจรัฐหรือค้นหาสาเหตุการตายที่แท้จริงของชัยภูมิได้ ใช่ เขาอาจจะตายจากกระสุนปืน แต่เขาก็ตายเพราะอำนาจอันล้นพ้นของอำนาจรัฐ
ร่างกายจึงไม่ใช่ของพวกเราแต่เป็นส่วนหนึ่งการกล่อมเกลา ควบคุม ละเมิด และทำลายทิ้งของรัฐ นอกเหนือไปจากกรณีของชัยภูมิ ทุกวันนี้เราไม่อาจทราบว่าร่างกายของหะยีสุหรงและทนายสมชายอยู่ที่ไหน ?
คราแรกที่ผมเห็นภาพนี้ ผมนึกถึงภาพวาดทางศาสนา
ภาพเยซูในศาสนาคริสต์จำนวนไม่น้อยได้ถูกวาดขึ้นเพื่อจินตนาการไปสู่ the body ที่ไม่มีใครเคยได้เห็น ภาพวาดเหล่านี้มิได้เน้นถึงความทุกข์ทรมานที่เยซูได้รับเพียงอย่างเดียว ทว่า เราสามารถรับรู้ได้ถึงความเมตตาและความรักที่มีต่อมวลมนุษย์ไปพร้อมๆ กัน เราไม่อาจปฏิเสธได้ว่าความตายของเยซูก็เกี่ยวพันโดยตรงกับอำนาจรัฐ กระนั้น ในแววตาของเยซูก็มิได้ปราศจากความเกรงกลัว ทว่าเปี่ยมด้วยความโศกเศร้าและเวทนาต่อผู้ใช้อำนาจ
แววตาของชัยภูมิในภาพนี้ก็เช่นกัน
เมื่อความตายของคนๆหนึ่งผูกโยงกับการใช้ความรุนแรงของรัฐ ไม่ว่าร่างจะยังคงอยู่หรือสาบสูญ พวกเขาก็จะยังคงมีชีวิตผ่านความทรงจำของผู้คน และเป็นประจักษ์พยานของความไม่เป็นธรรม
ไม่ว่าร่างจะยังคงอยู่หรือสาบสูญ สุสานของพวกเขาก็สถิตย์อยู่ในใจและเลือดเนื้อของเรา
หมายเหตุ ภาพวาดโดยทัศนัย เศรษฐเสรี