ก่อนหน้านี้หลายสัปดาห์แล้วล่ะ ที่ฉันไปยืนอยู่ตรงนั้น
แล้วพยายามจะนับดูว่า ดอกทิวลิปที่ก้านอวบ กลีบสวย ในสวนตรงนี้ มีจำนวนกี่สีกันแน่
มวลหมู่ไม้มากมาย พืชพันธุ์ทั้งไทยและฝรั่ง ผลิบานแสดงความแข็งแรงต่ออากาศหนาวยามเช้า และแดดจัดยามบ่ายในบริเวณสวนสาธารณะของหาดเชียงราย แม้มันจะไม่ได้เกิดและเติบโตที่นั่น แต่ถูกเพาะปลูกเลี้ยงดูด้วยการทดลอง กระทั่งเมื่อสำเร็จผล ก็ถูกขนย้าย มาลงบนผืนดินชั่วคราวเพื่อแสดงงานดอกไม้
ดอกทิวลิป ลิลลี่ บานชื่อพันธุ์ใหม่ และดอกไม้ชื่อแปลกหูอีกหลายชนิด เบ่งบานอวดสีสันอยู่ไม่ไกลนักจากลำน้ำกกที่พากันไหลอ้อยสร้อย เชื่องช้า
ไม่เพียงแต่ทดสอบความทนทานของดอกไม้ต่ออากาศเท่านั้น แต่การแสดงดอกไม้ยังทดสอบความสามารถของผู้ดูแลสวนอีกด้วย แต่ละโซน มีเจ้าหน้าที่คอยพรมพร่างสายน้ำเบาๆ เพื่อควบคุมความชุ่มชื้น อยู่ตลอดเวลา มีเจ้าหน้าที่แต่งกายเรียบร้อยสวยงาม พูดจากำกับไม่ให้คนเข้าไปแหวกดอกไม้ เอาตัว เอาหน้าไปซุกถ่ายรูป
แม้จะติดป้ายเอาไว้แล้วว่า “ห้ามเข้า” คนก็ยังอยากโน้มกิ่งดอกไม้ให้มาใกล้ตัวที่สุด ยามฉีกปากยิ้มให้กับกล้องดิจิตอล
บรรยากาศในสวนดอกไม้ในฐานะของผู้จัด บางครั้งจึงจำเป็นต้องเลือก ว่าจะดูแลดอกไม้หรือดูแลนักท่องเที่ยวดี ใครเลยจะห้ามไม่ให้คนเอามือไปสัมผัส แตะต้อง หรือกระทั่งดมกลิ่นได้
ฉันเห็นแม่อุ้ยพากันจูงมือมาจัดท่ายืน ท่านั่ง อยู่ข้างแปลงทิวลิป อาจะเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิต ที่เขาได้ใกล้กับดอกไม้ชนิดนี้ที่สุด เมื่อลูกหลานกดชัตเตอร์ถ่ายภาพแล้ว การทรงตัวที่คลอนแคลนก็ทำเอาล้ม จนเกือบทับดอกไม้
เจ้าหน้าที่รุดเข้าไปประคอง เอ่ยเตือนเบาๆ “อย่าเข้าไปนะคะ” เธอพูดเสียงเพราะในชุดแต่งกายเมืองเหนือ แต่เมื่อแม่อุ้ยฟังไม่ได้ยินเท่าไหร่ เธอก็จึงต้องเอ่ยเสียงดังขึ้น
“สุมาเต๊ะเจ๊า อย่าเข้าไปใกล้เกินไปนะคะ อย่าเด็ด อย่าข้ามรั้วเน้อเจ้า"
ทุกโซนมีเสียงตะเบ็งแข่งกัน กับเสียงประกาศประชาสัมพันธ์อื่นๆ ภายในงาน ทุกอย่างดูคึกครื้นดี
ฉันมีโอกาสทำหน้าที่เป็นช่างภาพให้กับบางคู่ที่มากันแค่สองคน บางคนก็ถ่ายกับป้ายในงาน บางคนก็ถ่ายกับซุ้มดอกไม้ มีบ้างบางคน ขอถ่ายกับบริเวณที่มีคนเยอะๆ และที่แปลกที่สุดคือ เขาขอให้ถ่ายโดยไม่ให้เห็นว่าที่นี่เป็นที่ไหน นอกจากสวนทิวลิป
“จะได้ไปอวดเพื่อนว่าไปต่างประเทศมา”
ฉันได้แต่อมยิ้ม ดูเหมือนจะเป็นเวลาแห่งความสุข ได้เห็นว่าคนไทยรักต้นไม้ไม่น้อย ดอกไม้ ธรรมชาติ โขดหิน น้ำตกจำลอง ที่ใช้พลังงานจำนวนมาก เพื่อประคองให้เกิดความสุขแด่ผู้มาชมให้มากที่สุด
แม้ตลอดระยะทางกว่าจะมาถึงสวน รถติดอยู่นับชั่วโมง อาหารมีราคาแพง ห้องน้ำไม่มีเพียงพอให้บริการ แต่ส่วนใหญ่ดูจะรู้สึก “คุ้มค่า” สำหรับการมาหลังจากได้ชื่นชมความงาม ของโลกดอกไม้ที่เคยอยู่ห่างออกไปครึ่งโลกจากเมืองแห่งนี้
ไม่แน่ใจว่านั่นสะท้อนว่า ทุกคนมาเติมเต็มความงามที่ขาดหายไปจากชีวิต หรือเรากำลังแสวงหาโลกใหม่ซึ่งเราไม่เคยได้สัมผัส และคิดว่าน่าจะดีไปกว่าโลกปัจจุบันที่มีอยู่
..........................
เพราะมาถึงวันนี้ ปลายเดือนมกราคม สวนสาธารณะของเชียงใหม่เดินทางมาถึงกำหนดงานดอกไม้ประจำปี อีกครั้ง
ฉันได้ยินเสียงตอบเบาๆ ของใครบางคน ที่ถูกชวนไปร่วมงานว่า
“ไม่ไปหรอก ทีนี่ไม่เห็นมีอะไร เราได้ดูดอกทิวลิปมาแล้ว ดอกไม้อื่นๆ ธรรมดามาก สู้ไม่ได้อีกแล้ว”
..............................