Skip to main content

เมจิกคัลเรียลลิสม์ หรือที่แปลเป็นไทยว่า สัจนิยมมายา หรือสัจนิยมมหัศจรรย์ เป็นแนวการเขียนที่นักเขียนไทยนำมาใช้ในงานเรื่องสั้น นวนิยายกันมากขึ้น ไม่เว้นในกวีนิพนธ์ โดยส่วนใหญ่จะได้แรงบันดาลใจมาจาก ผลงานของกาเบรียล การ์เซีย มาเกซ ซึ่งมาเกซเองก็ได้แรงบันดาลใจมาจาก ฮวน รุลโฟ (ฆวน รุลโฟ) จากผลงานนวนิยายเรื่อง เปโดร ปาราโม อีกทอดหนึ่ง เพื่อไม่ให้ประวัติศาสตร์วรรณกรรมแนวนี้ถูกตัดตอน ขอกล่าวถึงต้นธารของงานสกุลนี้สักเล็กน้อย


กล่าวถึงฮวน รุลโฟ ซึ่งจริงๆ แล้วควรเขียนเป็นภาษาไทยว่า ฆวน รุลโฟ ทำให้หวนระลึกถึงผลงานแปลฉบับของ ราอูล ที่ฉันตกระกำลำบากในการอ่านอย่างแสนสาหัส ในนวนิยายแนวสัจนิยมมหัศจรรย์เรื่อง เปโดร ปาราโม ที่เคยเขียนถึงในคอลัมน์นี้มาแล้ว


อ่านตั้งสามรอบกว่าจะพอรู้เรื่องเป็นเลาๆ และต้องอ่านอีกหลายรอบกว่าจะจินตนาการให้ซึมซับความเลอเลิศของสุดยอดนวนิยายเรื่องนี้ได้ ขอบคุณพระเจ้าที่มอบเวลาให้ฉันมากเป็นพิเศษ ท่านคงหัวร่อจนคอเคล็ดแล้วตอบว่า “เพราะแกมันทึ่มเองนี่นา คนทื่อมะลื่ออย่างแกสมควรจะมีเวลามากกว่าคนฉลาดเขา” อย่างไร ฉันก็ขอบคุณล่ะ และไม่ลืมเอาเจ้าเปโดรสุดที่รักไปถ่ายเอกสารเก็บไว้ เป็นสำเนาสำรอง ถ้าหนังสือหาย หรือถูกขอยืมโดยไม่อาจเรียกเก็บได้ ยังไงซะ ฉบับถ่ายเอกสารก็ยังอยู่ ฉันชอบใช้วิธีนี้จัดการกับหนังสือสุดหวง ถ้าตังค์เยอะหน่อยก็สำเนาไว้สักสองชุด ถือเป็นความละโมบได้ไหมนี่


ขอบอกก่อนเลยว่า เปโดร ปาราโม ฉบับที่แปลโดย ราอูล นั้น เป็นการแปลที่มีข้อผิดพลาดอย่างมากมาย ถ้าใครได้อ่านบทความของ เพ็ญพิสาข์ ศรีวรนารถ อาจารย์ประจำสาขาวิชาภาษาสเปน คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ปรากฏอยู่ในหนังสือ ก่อนเริ่มโรงเรียนวิชาหนังสือ แล้วจะรู้ซึ้งเลยว่า ราอูล แปลสุดยอดนวนิยายเมจิกคัลเรียลลิสม์ของโลก ให้กลายเป็นอะไรสักอย่างที่อาจฆาตกรรมคนอ่านได้ แต่ยังไงฉันก็รักเปโดรเล่มนี้สุดหัวใจ มันน่าพิสมัยกว่า คนจมน้ำตายที่รูปหล่อที่สุดในโลก ของ มาเกซ เสียอีกแน่ะ


กับผลงานเรื่อง เปโดร ปาราโมนิดหนึ่ง

เปโดร ปาราโม ถือเป็น ผลงานแนวเซอร์เรียลลิสม์ระดับมาสเตอร์พีซของนักเขียนชาวเม็กซิกันท่านนี้ บรรยายให้เห็นถึงประสบการณ์แปลกประหลาดที่ชายคนหนึ่งได้รับ เมื่อเขาเดินทางไปตามหาพ่อจากคำบอกเล่าของแม่ว่า เปโดร ปาราโม พ่อซึ่งไม่เคยรู้จักมาก่อนเลยของเขาอาศัยอยู่ที่โกมาลา เขาจึงต้องเดินทางไปยังเมืองที่มีชีวิตอยู่ด้วยเสียงกระซิบและเงามืดแห่งนั้น ตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับแม่ก่อนที่ท่านจะเสียชีวิต ที่นั่นมีเหตุการณ์เกิดขึ้นมากมาย และเขาได้รับรู้เรื่องราวในอดีตเหล่านั้น ผ่านคำบอกเล่าของวิญญาณที่แวะเวียนมาหาเขา ทั้งในยามหลับและยามตื่น


หนังสือเล่มนี้ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1955 และได้รับคำยกย่องและความนิยมอย่างกว้างขวางทันที ด้วยวิธีการนำเสนอที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับงานแนวเรียลลิสม์ซึ่งมีอยู่ทั่วไปในงานเขียนแถบลาตินอเมริกาในยุคก่อนหน้างานเขียนของ ฆวล รุลโฟ เต็มไปด้วยจินตนาการ การเหลื่อมซ้อนทางความคิดและเวลา และการสร้างภาพที่ละเอียดอ่อน เป็นภาพเหนือจริงที่ยืนอยู่บนฐานของความเป็นจริง ซึ่งในภายหลังงานแนวนี้ได้รับการเรียกขานว่าเป็นงานแนว เมจิกคัล เรียลลิสม์ ที่มีอิทธิพลต่อผลงานของนักเขียนในกลุ่มลาตินอเมริกาในยุคต่อ ๆ มา อย่าง โฮเซ่ โดโนโซ การ์ลอส ฟูเอนเต้น ไปจนถึง มาริโอ วาร์กัส โลซ่า และ กาเบรียล การ์เซีย มาร์เกซ ที่เรารู้จักกันดี


เมจิกคัลเรียลลิสม์ หรือสัจนิยมมหัศจรรย์ ที่เรารู้จักนั้น ถือกำเนิดมาจากประเทศแถบลาตินอเมริกา ซึ่งโดยทั่วไปแล้วน่าจะเป็นประเทศที่อยู่ใต้สหรัฐอเมริกาลงมาจนสุดปลายทวีปอเมริกาใต้ หรือกลุ่มประเทศลาตินอเมริกาที่เคยเป็นอาณานิคมของประเทศสเปนและใช้ภาษาสเปนเป็นภาษาราชการ


ในหนังสือก่อนเริ่มโรงเรียนวิชาหนังสือ เล่มนี้ยังเขียนถึงวรรณกรรมลาตินอเมริกาไว้ในบทความชื่อ

วรรณกรรมลาตินอเมริกา ความหลากหลายในความเป็นหนึ่งเดียว เขียนโดย ภาสุรี ลือสกุล อาจารย์สาขาวิชาภาษาสเปน คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

โดยแบ่งวรรณกรรมกลุ่มลาตินอเมริกาไว้ 5 กลุ่ม

1.กลุ่มประเทศลุ่มน้ำริโอ เด ลา ปลาตา ได้แก่ อาร์เจนตินาและอุรุกวัย

2.กลุ่มประเทศเทือกเขาแอนดีส ได้แก่ ชิลี เปรู โบลิเวีย

3.กลุ่มประเทศแคริบเบียน ได้แก่ คิวบา เปอร์โตริโก โดมินิกัน

4.กลุ่มประเทศอเมริกากลาง ได้แก่ กัวเตมาลา ฮอนดูรัส คอสตาริกา

5.เม็กซิโก ซึ่งมีความหลากหลายทางวรรณกรรม แต่ก็ปรากฏงานเขียนสำคัญที่นำแนวคิดชนเผ่า แอสเท็กมาผสมผสานกับแนวเขียนสมัยใหม่ รวมถึงแนวสัจนิยมมหัศจรรย์


โดยแนวสัจนิยมมหัศจรรย์นี้ ถือเป็นแนวการเขียน “ร้อยแก้วแนวใหม่” ซึ่งมี 3 แนวหลัก คือ สัจนิยมแฟนตาซี สัจนิยมมหัศจรรย์ แฟนตาซีแนวใหม่ ถือกำเนิดในทศวรรษ 1950- 1970 โดยมีกาเบรียล การ์เซีย มาเกซ เป็นความโดดเด่นแห่งยุค จากนวนิยายเรื่อง หนึ่งร้อยปีแห่งความโดดเดี่ยว


ลักษณะสำคัญของสัจนิยมมหัศจรรย์คือ การขยายความเป็นไปได้ของ “ความเป็นจริง” โดยผสมผสานความจริงและจินตนาการจากตำนานความเชื่อดั้งเดิมเพื่อบอกเล่า “ความเป็นจริง” ของสังคม เป็นการตั้งคำถามต่อความเป็นจริงด้วยสิ่งที่ถูกมองว่าเป็นเพียงความเชื่อเท่านั้น ซึ่งลักษณะเช่นนี้ ต้องอาศัยบริบทของสังคม วัฒนธรรมประเพณีดั้งเดิมของสังคมมาร่วมด้วย มิใช่ถือกำเนิดขึ้นมาโดด ๆ เช่นเดียวกับบริบททางสังคมของประเทศลาตินอเมริกา ที่มีความหลากหลายของชาติพันธุ์ มีชนพื้นเมือง มีชาติตะวันตก มีตำนานชนเผ่าต่าง ๆ ที่อาศัยอยู่ก่อน ซึ่งน่าสนใจตรงที่ บทความดังกล่าวเขียนไว้ว่า (หน้า76)


ทั้งที่ความเป็นจริง ทฤษฎีต้นกำเนิดของชนพื้นเมืองในอเมริกาซึ่งยอมรับกว้างขวางที่สุดระบุไว้ว่า ชนพื้นเมืองเหล่านั้นอพยพจากเอเชียข้ามไปยังทวีปอเมริกาผ่านทางบริเวณช่องแคบแบริ่ง ในยุคที่ผืนแผ่นดินบริเวณดังกล่าวยังไม่แยกออกจากกันทำให้ชาวเอเชียและชนพื้นเมืองมีรูปพรรณสัณฐาน วัฒนธรรมความเชื่อที่คล้ายคลึงกันอันเชื่อมโยงถึงความ “คล้ายคลึง” ของแนวความคิดที่ปรากฏในวรรณกรรมของทั้งสองซีกโลกด้วยเช่นกัน


ดังที่นักเขียนไทยบางคนเคยพูดว่า บรรยากาศ วัฒนธรรมท้องถิ่นทางภาคใต้ของไทย มีบริบท มีกลิ่นอายเอื้อให้เกิดงานเขียนแนวสัจนิยมมหัศจรรย์ขึ้นได้ ก็เป็นข้อพิสูจน์หนึ่งที่สอดคล้องกับทฤษฎีต้นกำเนิดของชนพื้นเมืองดังกล่าวนี้ด้วย


กลับมาที่ประเทศไทย ที่เราพบว่า วรรณกรรมแนวสัจนิยมมหัศจรรย์ กำลังก่อร่างสร้างตัวจนถึงขั้นแผ่ขยายเป็นความมั่งคั่งไปแล้ว อย่างนี้ถือว่ามนตร์เสน่ห์ของงานเขียนแนวนี้ยังคงไว้ซึ่งความขลังอลังการมาได้เป็นร้อยปีแล้วอย่างน่าทึ่ง และนักเขียนไทยก็ได้แรงบันดาลใจมากจากหนังสือเล่มเดียวกัน เพราะปัญหาการขาดแคลนนักแปลภาษาสเปนของไทยนี่เอง อย่างนี้หรือเปล่าที่ทำให้วรรณกรรมไทยมีใบหน้าคล้ายคลึงกันไปหมด ซึ่งก็ไม่สำคัญเท่ากับใบหน้าที่เสแสร้งในงานวรรณกรรม ไม่ว่าจะเสแสร้งให้เป็นเมจิกคัลฯ หรือเสแสร้งให้เซอร์เรียลลิสม์ก็ตาม


หากเรา ผู้อ่านสามารถตีความและเข้าถึงความเป็นเมจิกคัลเรียลลิสม์ได้ถึงแก่น ก็จะสามารถจำแนกแยกแยะงานที่เป็นของจริงกับการเสแสร้งออกจากกันได้ไม่ยาก และการที่จะเข้าถึงหัวใจของเมจิกคัลฯนั้น เราควรศึกษาถึงบริบททางสังคม เข้าใจถึงตำนาน วัฒนธรรมที่เป็นฉากหลังของวรรณกรรมนั้นด้วย หาไม่แล้ว เมจิกฯจะกลายเป็นงานที่ทำให้เราเงอะงะเท่านั้นเอง


สาเหตุที่เมจิกคัลฯ ยังถูกใช้งานเพื่อตีความ เสียดสี หรือตั้งคำถามเกี่ยวกับ “ความจริง” อยู่จนทุกวันนี้ อาจเป็นเพราะ “ความจริง” และ “ความลวง” มีความซับซ้อนมากขึ้น และถูกตีความจากมุมมองที่หลากหลายมากขึ้น บ่อยครั้งที่ไม่สามารถหาบรรทัดฐานใดอย่างโดด ๆ มาวัด จัดค่า ชี้ให้เห็นถึง ความถูก ความผิด ได้เลย ไม่สามารถแม้กระทั่งจะเปลี่ยนขั้ว จากดีเป็นชั่ว จากชั่วเป็นดี จากนักบุญเป็นปีศาจ เราต่างรู้ซึ้งว่าสังคมไทยก้าวล่วงไปสู่พัฒนาการอื่น ที่ไม่ใช่แค่ การเปลี่ยนขั้ว เท่านั้น เรากำลังจะก้าวสู่ศตวรรษใหม่ ด้วยท่าทีแยบคายกว่าเดิม


เช่นเดียวกับวรรณกรรมไทย ที่นักเขียนต่างพยายามแสวงหา “เครื่องมือ” ทางวรรณกรรม มารับใช้แนวคิดของตนเอง และเครื่องมือสุดฮอตก็คือ เมจิกคัลเรียลลิสม์ นั่นเอง ไม่เชื่อก็ลองหยิบเรื่องสั้น นวนิยายแนวที่เรียกตัวเองว่า สร้างสรรค์ ทั้งหลายนั่นแหละ เชื่อเหอะว่า คุณได้ลิ้มรสกับเมจิกคัลฯอย่างง่ายดาย แต่ไม่รับรองนะว่า เมจิกคัลฯ ที่บังเอิญติดมือมาจะเป็นของจริงหรือของปลอม และถ้าต้องชี้ชัดลงไปว่าเล่มไหนของจริง เล่มไหนของเก๊ ก็เป็นการไม่สมควรอย่างแรง หรือว่าไม่จริง


ที่กล้าชี้ชัดลงไปอย่างนี้ ก็ด้วยเหตุผลที่เมจิกคัลฯ เป็นเรื่องของสุนทรียรสอย่างเที่ยงธรรม และไม่ได้ขึ้นต่อศีลธรรมซึ่งเป็นตัวกระตุ้นให้สุนทรียรสผิดแผกไปได้ แต่เรากลับพบงานเขียนเมจิกคัลฯที่กำลังพ่นคำเทศนาทางศีลธรรม จนแทบจะยกมือกราบไหว้บูชาเลยทีเดียว


ดูจะเป็นการเอาจริงเอาจังเกินไป ทั้งที่บรรยากาศไม่ค่อยอำนวยเลย ว่ามั้ย

แต่อยากให้นักเขียนนิยมเมจิกคัลฯทั้งหลาย รอบคอบและประณีตกับ “เครื่องมือ” ของท่านสักหน่อย อย่าให้มันเร่อร่า ลุ่น ๆ ออกมาแบบมักง่ายนัก ของดี ๆ เขามีให้ศึกษาก็ควรพิถีพิถัน ให้เกียรติเจ้าของสกุลงานเขาหน่อย ไม่ใช่สักแต่จะจำลองภาพเท่านั้น


โดยทั่วไปแล้ว เมจิกคัลฯ มักจะมีพื้นฐานมาจากบรรยากาศในท้องถิ่นดังที่ได้กล่าวมาแล้ว และโดยบรรยากาศนั้นก็มีความพิลึก มหัศจรรย์ในตัวมันเองอยู่แล้ว ดังนั้นการเสแสร้งให้ดูลึกลับ พิลึกพิลั่น จึงเป็นการกระทำของนักเขียนที่ยังอ่านเมจิกคัลฯไม่แตกเท่านั้นเอง และโดยเฉพาะกับตัวละครด้วย เห็นชัดเจนในเรื่องเปโดร ปาราโม ที่ภูมิประเทศเป็นทะเลทรายแห้งแล้ง ร้อนระอุดุจเดียวกับนรก ตัวละครในเรื่องที่ต้องเผชิญกับสภาพภูมิอากาศร้ายกาจรุนแรง จึงไม่ยี่หระว่า เมื่อตายไปแล้ว เขาจะต้องทนทรมานในนรกอเวจี เพราะตอนที่มีชีวิตอยู่ เขาก็ได้รู้ซึ้งแล้วว่า นรกเป็นอย่างไร ไม่ใช่เป็นเพียงการล้อเลียน หรือลอกแบบเช่น เรียกโสเภณีว่าเป็นนางอัปสร เพียงเพื่อจะยั่วล้อการแปรสภาพของมายาคติเท่านั้น


ถ้าได้เอ่ยถึงงานเขียนที่ยังเป็นเพียงข้อปฏิเสธของเมจิกคัลเรียลลิสม์แล้วจะเกิดอาการ “ไม่เวิร์ค” ในอารมณ์ขึ้นมาทันที ดังนั้นแล้ว เราควรมาทำให้มันเวิร์คด้วยการพินิจพิเคราะห์งานที่เข้าขั้นจะดีกว่า ว่ามั้ย


เอาเป็นว่า จะนำผลงานของกนกพงศ์ สงสมพันธุ์ มาเขียนถึงเพื่อการนี้โดยเฉพาะ

โทษทีนะ ไม่ใช่เพราะกนกพงศ์จะลาโลกไปแล้ว ค่อยนำมาเขียนสดุดีกันอย่างที่สังคมวรรณกรรมนิยมกันหรอก อย่างประเภทว่า ถ้านักเขียน กวี คนไหนลาโลกไปก่อนวัยอันควร ผลงานของพวกเขาจะถูกตีพิมพ์กันจนเกร่อ ทำไมตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่ จึงไม่มีใครดูดำดูดีเขาบ้าง หรือเป็นคนประเภทตอนมีชีวิตอยู่คุยกันไม่รู้เรื่อง นิยมคุยผ่านควันธูปอย่างงั้นหรือ


เหตุที่เลือกผลงานของกนกพงศ์นั้นก็เพราะ... เอ.. หรือจะเลือก เงาสีขาว ของแดนอรัญ แสงทอง ดีนะ

ชักเลือกไม่ถูก ว่าไปแล้ว อสรพิษ หรือ เจ้าการะเกด ของแดนอรัญ แสงทอง ก็ไม่เป็นสองรองใคร ฝีมืออยู่ในขั้นน่ายกย่องทั้งสิ้น เอาเป็นว่า ไว้เจอกันใหม่ค่อยเฉลยดีกว่า ตอนนี้ยังเลือกไม่ถูก.

 

 

บล็อกของ สวนหนังสือ

สวนหนังสือ
 ชื่อหนังสือ : เคล็ดกลอน เคล็ดแห่งอหังการ ผู้เขียน : ประไพ วิเศษธานี จัดพิมพ์โดย : สำนักพิมพ์ทะเลหญ้า พิมพ์ครั้งที่ 3 พ.ศ. 2536 ไปเจอหนังสือเก่าสภาพดีเล่มหนึ่งเข้าที่ตลาดนัดหนังสือใกล้บ้าน เป็นความถูกใจที่วิเศษสุด เนื่องจากเป็นหนังสือที่คิดว่าหายากแล้ว ไม่เท่านั้นเนื้อหายังเป็นตำราทางการประพันธ์ เหมาะทั้งคนที่เป็นนักเขียนและนักอ่าน นำมาตัดทอนให้อ่านสนุก ๆ เผื่อว่าจะได้ใช้ในคราวบังเอิญ เคล็ดกลอน เคล็ดแห่งอหังการเล่มนี้ ผู้เขียนใช้นามปากกา ประไพ วิเศษธานี ซึ่งไม่เป็นที่คุ้นสักเท่าไร แต่หากบอกว่านามปากกานี้เป็นอีกสมัญญาหนึ่งของนายผี อัศนี พลจันทร ล่ะก็…
สวนหนังสือ
นายยืนยง    ชื่อหนังสือ : อาถรรพ์แห่งพงไพร ผู้เขียน : ดอกเกด ผู้แปล : ศรีสุดา ชมพันธุ์ ประเภท : นวนิยายรางวัลซีไรต์ พิมพ์ครั้งที่ 1 ตุลาคม 2549 จัดพิมพ์โดย : สำนักพิมพ์เสมสิกขาลัย กลับบ้านสวนคราวที่แล้ว ตู้หนังสือยังคงสภาพเดิม ละอองฝุ่นเหมือนได้ห่อหุ้มมันให้พ้นจากสายตาผู้คน ไม่ก็ผู้คนเองต่างหากเล่าที่ห่อหุ้มตัวเองให้พ้นจากหนังสือ นอกจากตู้หนังสือที่เงียบเหงาแล้ว รู้สึกมีสมาชิกใหม่มาเข้าร่วมขบวนความเหงาอีกสามสิบกว่าเล่ม น่าจะเป็นของน้องสาวที่ขนเอามาฝากไว้ ฉันจึงจัดเรียงมันใหม่ในตู้ใบเล็กที่วางอยู่ข้างกัน ดูเป็นบ้านที่หนังสือเข้าครอบครองพื้นที่ส่วนใหญ่…
สวนหนังสือ
นายยืนยง ชื่อหนังสือ : เจ้าหญิงน้อย (A Little Princess) ผู้เขียน : ฟรานเซส ฮอดจ์สัน เบอร์เน็ตต์ (Frances Hodgson Burnett) ผู้แปล : เนื่องน้อย ศรัทธา ประเภท : วรรณกรรมเยาวชน พิมพ์ครั้งที่ 3 กรกฎาคม 2545 จัดพิมพ์โดย : แพรวเยาวชน ปีกลายที่ผ่านมา มีหนังสือขายดีติดอันดับเล่มหนึ่งที่สร้างกระแสให้เกิดการเขียนหนังสืออธิบาย เพื่อตอบสนองความสนใจผู้อ่านต่อเนื่องอีกหลายเล่ม ทั้งผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิเคราะห์เอย ด้านมายาจิตเอย ทำให้หลายคนหันมาสนใจเรื่องความคิดเป็นจริงเป็นจัง หนังสือเล่มดังกล่าวนั่นคงไม่เกินเลยความคาดหมาย มันคือ เดอะซีเคร็ต ใครเคยอ่านบ้าง?…
สวนหนังสือ
นายยืนยง ผู้เขียน : เรวัตร์ พันธุ์พิพัฒน์ ประเภท : รวมเรื่องสั้น พิมพ์ครั้งที่ 1 สิงหาคม 2551 จัดพิมพ์โดย : สำนักพิมพ์ในดวงใจ ชวนอ่านเรื่องสั้นมหัศจรรย์ ปลายกันยายนจนถึงต้นเดือนตุลาคมปีนี้ ข่าวสารที่ได้รับค่อนไปทางรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตสถาบันการเงินของสหรัฐที่ส่อเค้าว่าจะลุกลามไปทั่วโลก ทั้งตลาดเงิน ตลาดทุน หุ้นร่วงรูดเป็นประวัติการณ์ ชวนให้บรรดานักเก็งกำไรอกสั่นขวัญแขวน ไม่กี่วันจากนั้น รัฐบาลที่นำโดย นายกรัฐมนตรี นายสมชาย วงค์สวัสดิ์ ซึ่งนั่งอยู่ในตำแหน่งได้ไม่กี่วัน ก็ได้ใช้อำนาจทำร้ายประชาชนอย่างไร้ยางอาย ตลอดวันที่ 7 ตุลาคม 2551…
สวนหนังสือ
นายยืนยง นวนิยายเรื่อง : บ้านก้านมะยม สำนักพิมพ์ : นิลุบล ผู้แต่ง : ประภัสสร เสวิกุล อาขยาน เป็นบทท่องจำที่เด็กวัยประถมล้วนมีประสบการณ์ในการท่องจนเสียงแหบแห้งมาบ้างแล้ว ทุกครั้งที่แว่วเสียง ... แมวเอ๋ยแมวเหมียว รูปร่างประเปรียวเป็นนักหนา หรือ มานี มานะ จะปะกระทะ มะระ อะไร จะไป จะดู หรือ บ้าใบ้ถือใยบัว หูตามัวมาใกล้เคียง เล่าท่องอย่าละเลี่ยง ยี่สิบม้วนจำจงดี ฯลฯ เมื่อนั้น..ความรู้สึกจากอดีตเหมือนได้ลอยอ้อยอิ่งออกมาจากความทรงจำ ช่างเป็นภาพแสนอบอุ่น ทั้งรอยยิ้มและไม้เรียวของคุณครู ทั้งเสียงหัวเราะและเสียงกระซิบกระซาบจากเพื่อน ๆ ตัวน้อยในวัยเยาว์ของเรา…
สวนหนังสือ
นายยืนยง ชื่อหนังสือ : แม่ทั้งโลกเป็นเช่นนี้ ผู้เขียน : ชมัยภร แสงกระจ่าง ประเภท : รวมเรื่องสั้น พิมพ์ครั้งที่ 1 มีนาคม 2551 จัดพิมพ์โดย : สำนักพิมพ์ คมบาง เมื่อคืนพายุฝนสาดซัดเข้ามาทั่วทิศทาง กระหน่ำเม็ดราวเป็นคืนแห่งวาตะภัย มันเริ่มตั้งแต่หกทุ่มเศษ และโหมเข้า สาดเข้า ถ้าเป็นหลังคาสังกะสี ฉันคงเจ็บปางตายเพราะฝนเม็ดหนานัก มันพุ่งแรงเหลือเกิน ต่อเนื่องและเยือกฉ่ำ ฉันลุกขึ้นมาเปิดไฟ เผชิญกับความกลัวที่ว่าบ้านจะพังไหม? ตัดเรือน เสา ที่เป็นไม้ (เก่า) ฐานรากที่แช่อยู่ในดินชุ่มฉ่ำ โถ..บ้านชราภาพจะทนทานไปได้กี่น้ำ นั่งอยู่ข้างบนก็รู้หรอกว่า ที่ใต้ถุนนั่น น้ำคงเนืองนอง…
สวนหนังสือ
 นายยืนยง  ชื่อหนังสือ : มาลัยสามชาย ผู้เขียน : ว.วินิจฉัยกุล ประเภท : นวนิยาย พิมพ์ครั้งที่ 1 กรกฎาคม 2550 จัดพิมพ์โดย : บริษัท ศรีสารา จำกัด หนังสือที่ได้รับรางวัลดีเด่นในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ จะส่งผลกระทบหรือสะท้อนนัยยะใดบ้าง เป็นเรื่องที่น่าจับตาอีกเรื่องหนึ่ง แม้รางวัลจะประกาศนานแล้ว แต่เนื้อหาในนวนิยายจะยังคงอยู่กับผู้อ่าน เพราะหนังสือรางวัลทั้งหลายมีผลพวงต่อยอดขายที่กระตือรือร้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะประเภทวรรณกรรม เรื่องสั้น นวนิยาย กวีนิพนธ์ โดยในปีนี้ นวนิยายเรื่อง มาลัยสามชาย ผลงานของ ว.วินิจฉัยกุล ได้รับรางวัลดีเด่น ประจำปี 2551…
สวนหนังสือ
นายยืนยง        ชื่อหนังสือ : อาหารรสวิเศษของคนโบราณ      ผู้เขียน : ประยูร อุลุชาฎะ      ฉบับปรับปรุง : กันยายน 2542      จัดพิมพ์โดย : สำนักพิมพ์แสงแดดใครที่เคยแก่อายุเข้าแล้ว พออากาศไม่เหมาะก็กินอะไรไม่ถูกปาก ลิ้นไม่ทำหน้าที่ซึมซับรสอันโอชาเสียแล้ว อาหารจึงกลายเป็นเรื่องยากประจำวันทีเดียว ไม่เหมือนเด็ก ๆ หรือคนวัยกำลังกินกำลังนอน ที่กินอะไรก็เอร็ดอร่อยไปหมด จนน่าอิจฉา คราวนี้จะพึ่งแม่ครัวประจำตัวก็ไม่เป็นผลแล้ว ต้องหาของแปลกลิ้นมาชุบชูชีวิตชีวาให้กลับคืนมา…
สวนหนังสือ
นายยืนยง ชื่อหนังสือ : แม่ใหม่ที่รัก ( Sarah, Plain and Tall ) ผู้เขียน : แพทริเซีย แมคลาแคลน ผู้แปล : เพชรรัตน์ ประเภท : วรรณกรรมเยาวชน พิมพ์ครั้งแรก มีนาคม 2544 จัดพิมพ์โดย : แพรวเยาวชน หากใครเคยพยายามบ่มเพาะให้เด็กมีนิสัยรักหนังสือ รักการอ่าน ย่อมเคยประสบคำถามจากเด็ก ๆ ของท่านทำนองว่า หนังสือจำเป็นกับชีวิตมากปานนั้นหรือ? เราจะตายไหมถ้าไม่อ่านหนังสือ? หรือเราจะมีชีวิตอยู่ได้ โดยที่ไม่อ่านหนังสือจะได้ไหม? กระทั่งบ่อยครั้งผู้ใหญ่อย่างเรา ๆ ก็อาจหาคำตอบที่สมเหตุสมผลมาตอบอย่างซื่อสัตย์ได้ไม่ง่ายนัก เป็นที่แน่นอนอยู่ว่า ผู้ใหญ่บางคนมีคำตอบในใจอยู่แล้ว ต่างแต่ว่า…
สวนหนังสือ
นายยืนยง ชื่อหนังสือ : ก่อนเริ่มโรงเรียนวิชาหนังสือ (สูจิบัตรในงาน ‘หนังสือ ก่อนและหลังเป็นหนังสือ’ ) จัดพิมพ์โดย : สำนักพิมพ์ผีเสื้อ สัปดาห์ก่อนไปมีปัญหาเรื่องซื้อหนังสือกับพนักงานขายของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ด้วยเพราะหนังสือที่จะซื้อมีราคาไม่เป็นจำนวนถ้วน คือ ราคาขายมีเศษสตางค์ เป็นเงิน 19.50 บาท เครื่องคิดราคาไม่ยอมขายให้เรา ทำเอาพนักงานวิ่งถามหัวหน้ากันจ้าละหวั่น ต้องรอหัวหน้าใหญ่เขามาแก้ไขราคาให้เป็น 20.00 บาทถ้วน เครื่องคิดราคาจึงยอมขายให้เรา เออ..อย่างนี้ก็มีด้วย เดี๋ยวนี้เศษสตางค์มันไร้ค่าจนเป็นแค่สัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์เท่านั้นเอง หนังสือเล่มดังกล่าวนั้น…
สวนหนังสือ
นายยืนยง     ชื่อหนังสือ : ช่อการะเกด 45 (กรกฎาคม – กันยายน 2551) ประเภท : นิตยสารเรื่องสั้นและวรรณกรรมรายสามเดือน บรรณาธิการ : สุชาติ สวัสดิ์ศรี จัดพิมพ์โดย : พิมพ์บูรพา ใครที่เคยติดตามอ่านช่อการะเกด นิตยสารเรื่องสั้นรายไตรมาส เล่มเดียวในประเทศไทยในขณะนี้ ย่อมมีใจรักในงานเขียนเรื่องสั้นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ไม่ว่าผลงานเรื่องสั้นที่ปรากฏ “ผ่านเกิด” ภายใต้รสนิยมบรรณาธิการนาม สุชาติ สวัสดิ์ศรี นั้นจะต้องรสนิยมคนชื่นชอบเรื่องสั้นมากน้อยเพียงใด ก็ไม่ค่อยปรากฏกระแสเสียงวิพากษ์วิจารณ์แต่อย่างใดเลย ทั้งที่ตอนประชาสัมพันธ์เปิดรับต้นฉบับเรื่องสั้น…
สวนหนังสือ
นายยืนยง วันที่ 8 กรกฎาคม 2551 คณะกรรมการคัดเลือกรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน (ซีไรต์) ได้พิจารณาคัดเลือกหนังสือรวมเรื่องสั้นที่ส่งประกวด ประจำปี 2551 จำนวน 76 เล่ม มีมติเป็นเอกฉันท์ให้เสนอหนังสือรวมเรื่องสั้น 9 เล่ม ดังนี้   1.ข่าวการหายไปของอาริญาและเรื่องราวอื่น ๆ ของ ศิริวร แก้วกาญจน์ 2.เคหวัตถุ ของ อนุสรณ์ ติปยานนท์ 3.ตามหาชั่วชีวิต ของ ‘เสาวรี’ 4.บริษัทไทยไม่จำกัด ของ สนั่น ชูสกุล 5.ปรารถนาแห่งแสงจันทร์ ของ เงาจันทร์ 6.เราหลงลืมอะไรบางอย่าง ของ วัชระ สัจจะสารสิน 7.เรื่องบางเรื่องเหมาะที่จะเป็นเรื่องจริงมากกว่า ของ…