Skip to main content
 

บรรยากาศในบ้านเริ่มคึกคักมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมีเสียงเตหน่าบรรเลงในบ้านไม่เว้นแต่ละคืน  บางคืนเป็นเสียงเตหน่า ลายเดิมที่ผู้เป็นพ่อเป็นคนถ่ายทอด  แต่บางคืนมีเสียงเตหน่าลายแปลกออกมาจนผู้เป็นพ่ออดไม่ได้จนต้องเงี่ยหูฟัง 

นานแล้วที่เจ้าของเสียงเตหน่ากูห่างหายไปจากการร่ำเรียนวิชาจากพ่อ  แต่วันนี้เขากลับมาหาครูผู้สอนเตหน่ากูของเขาอีกครั้ง แน่นอนมันต้องมีอะไรบางอย่างสงสัยจึงต้องมา

"พ่อผมจะไปล้มไม้มาทำเตหน่ากู ควรจะหาไม้อย่างไรดี" ประโยคแรกที่เขามาถามพ่อ
"จริงๆ แล้วไม้อะไรก็ได้ทั้งนั้น ขอให้เป็นไม้ที่โค้งงอ แต่คนสมัยก่อนเขานิยมใช้ไม้เก่อมา หรือภาษาไทยเรียกว่าไม้ซ้อ เนื่องจากเชื่อว่าเป็นไม้ที่เหนียวแต่เบา เหมาะสำหรับการมาทำเป็นเตหน่ากูที่สุด" พ่อตอบ

"เก่อมาใช่มั้ย? พ่อ ดีล่ะ ที่ขุนห้วยโกะแชแยคีมีเก่อมาหลายต้นพรุ่งนี้ผมจะไปหาต้นดีๆ มาทำเตหน่ากูซักสี่ห้าต้น" เขาบอกกับพ่อ

"เฮ้ย!! ล้มมั่วไม่ได้นะ การทำเตหน่านั้นเขามีข้อห้ามอยู่นะ" พ่อทัดทาน
"ข้อห้ามอะไรอีกละครับ แค่ล้มไม้มาทำเครื่องดนตรี" เขาไม่เข้าใจในสิ่งที่พ่อบอกเขา

"คนปกาเกอะญอที่เล่นเตหน่ากูสมัยก่อนบอกต่อกันในการทำเตหน่ากูนั้น ห้ามล้มต้นไม้เพื่อมาทำเตหน่ากูเกินสามต้น และไม่ใช่ว่าจะไปตัดไม้เมื่อไหร่ก็ได้ วันที่ผู้เฒ่าผู้แก่ปกาเกอะญอนิยมทำมากที่สุดคือ วันที่พระจันทร์เต็มดวง ถือว่าเป็นวันดีไปล้มไม้มาทำเตหน่ากู เชื่อว่าจะทำให้เตหน่ากูตัวนั้นเสียงไพเราะและดึงดูดคนฟังได้มากกว่าไปล้มไม้ในวันอื่นๆ" พ่อบอกเขา

"แล้วล้มเกินสามต้นแล้วมันจะเป็นมันอย่างไร?" ลูกชายถามต่อ
"คนเฒ่าคนแก่เขาบอกเอาไว้ คนที่ฉลาดจะกินได้นานและยั่งยืนกว่า หากเรากินไม่เป็นใช้ไม่เป็นมันก็จะหมดเร็ว เมื่อก่อนคนที่เล่นเตหน่ามีความเชื่อว่า ภายในปีหนึ่งหากตัดต้นไม้มาทำเตหน่ากูเกินกว่าสามต้นแล้วมือจะเป็นหมัน จะทำให้ผลิตเตหน่ากูออกมาเสียงไม่ดีไม่เพราะ  และเวลาเล่นอาจทำให้เกิดการทะเลาะวิวาทกันในชุมชนได้  

โดยในการล้มไม้นั้นต้องตัดไม้อย่างน้อยสูงระดับหัวเข่า  เพื่อให้ตาไม้สามารถแตกขึ้นมาใหม่ไม่ได้  อย่างที่ผู้เฒ่าผู้แก่เคยบอกไว้ว่า หน่อซีปะต่ออะคลี  เส่ทู่ซีดอเป่อเดอท่อซอ  ปกาเกอะญอซี ปะต่ออะเจอ หมายความว่า หญ้าตายได้ฝากเม็ดพันธุ์เอาไว้  ไม้ล้มตายแล้วได้แตกหน่อขึ้นมาใหม่  คนเมื่อตายย่อมฝากชื้อไขเอาไว้

หากตัดไม้ต่ำกว่าหัวเข่าอาจทำให้ไม้ตายอย่างถาวรจนไม่สามาารถแตกหน่อใหม่ได้  หากไม้ต้นที่เราตัดใช้งานนั้นตายแสดงว่าเราได้ใช้งานมันเพียงแค่ครั้งเดียวแล้วจบ เราจึงกลายเป็นคนกลุ่มที่ไม่ฉลาดที่กินได้นานและไม่ยั่งยืน เราต้องคำนึงถึงการใช้ในระยะยาวด้วยเช่นกัน" พ่ออธิบายให้ลูกชายฟัง

"ถ้างั้นพรุ่งนี้เวลาผมไปตัดไม้ผมต้องไปขอแรงชาวบ้านไปช่วยแบกเพราะผมจะตัดต้นที่ใหญ่ที่สุด จะได้มาทำเตหน่าได้หลายตัว พ่อเห็นด้วยมั้ย?" ลูกชายถามพ่อ

"ต้นไม้ที่ใหญ่บางทีใช่ว่าจะทำเตหน่าได้ดี เพราะบางทีต้นใหญ่เกินไปทำให้การทำใช้เวลานาน เพราะฉะนั้นควรดูต้นที่ไม่ใหญ่เกินไปและไม่เล็กเกินไป ขนาดประมาณครึ่งคนโอบกำลังดี และพ่อจะบอกให้ถ้าจะให้ง่ายรอให้ไม้แห้งก่อนแล้วค่อยเอากลับมาที่บ้าน มันจะทำให้น้ำหนักของไม้เบาลง หากต้องการ เคลื่อนย้ายกลับมาที่ชุมชนจะสะดวกกว่า

วิธีการที่คนเฒ่าคนแก่สมัยก่อนนิยมทำคือ  การไปกันต้นไม้ที่หมายตาไว้ให้แห้งตายก่อน  แล้วค่อยไปล้มทีหลัง  แต่ต้องระวังในการกันต้นไม้นั้น  ต้องกันให้สูงกว่าหัวเข่ามิเช่นนั้นต้นไม้จะตายเช่นกัน  คนเฒ่าคนแก่บอกว่า  หากต้นไม้ตายหรือแห้งโดยธรรมชาตินั้นจะทำให้ทำเตหน่ากูเสียงดีกว่าปกติ" พ่อแนะนำลูกชาย

"ถ้างั้นก็ต้องใช้เวลาพอสมควรซิก่อนที่จะสามารถลงมือมาแกะเป็นเตหน่ากูได้ ผมนึกว่าล้มไม้เสร็จแล้วทำได้ทันทีเลย" ลูกชายบอกพ่อ
"ไม่ได้เพราะหากแกะหรือเจาะในขณะที่ไม้ยังไม่แห้งจะทำให้เนื้อไม้แตก เมื่อทำเตหน่ากูแล้วทำให้เตหน่ากูแตกหรือบิดเบี้ยวได้ง่าย บางทีคนเมื่อก่อนก็ใช้รากไม้ที่ตายแล้วมาทำเตหน่ากูด้วยก็มี เพราะรากไม้ที่ตายแล้วจะแข็งแรงกว่ากิ่งไม้เสียอีก แต่มันหาได้ยากกว่า"

พ่อกล่าวทิ้งท้ายก่อนบอกให้ลูกชายไปหาต้นไม้ที่ถูกใจมาทำเตหน่ากูได้แล้ว เพราะอีกนานหลายเดือนกว่าต้นไม้นั้นจะแห้งดีสำหรับมาแกะเตหน่ากู

บล็อกของ ชิ สุวิชาน

ชิ สุวิชาน
การนอนและนอนอย่างเดียวในรถตู้ไม่ใช่เรื่องง่าย  บางทีปวดฉี่ บางครั้งปวดหลัง ทุกครั้งที่รถแวะจอดเติมน้ำมันหรือแวะทำอะไร ผมก็มักจะตื่นด้วยทุกครั้ง  จนได้รับการต่อว่าจากคนที่นั่งมาด้วยกันด้วยความเป็นห่วงว่าผมจะรับช่วงการขับรถต่อได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพ
ชิ สุวิชาน
คืนนี้เป็นอีกคืนหนึ่งที่คนฟังเพลงเป็นคนไทย แต่ที่พิเศษกว่าที่อื่นเนื่องจากคนไทยเป็นคนจัดงานกันเอง เป็นการจัดงาน ”Thai Festival in Texas” ซึ่งโดยปกติแล้วจะมีการจัดปีละครั้ง ทุกๆปีจะจัดในเดือนเมษายน แต่ปีนี้มาจัดกันในเดือนกันยายนเนื่องจากต้องการให้กิจการทัวร์ ของ Himmapan 2nd world เป็นจุดเด่นของงานในปีนี้ ภายในงานมีการขายอาหาร เสื้อผ้า ของไทย มีการจัดซุ้มนวดแผนไทยมาบริการ
ชิ สุวิชาน
จาก Houston มุ่งสู่ Dallas ระหว่างทางผมได้มีโอกาสเป็นสารถีอีกครั้ง ระหว่างทางที่ขับรถอยู่ผมก็เหลียวซ้ายและขวาบ้าง ผมเห็นตัวที่อยู่ข้างทาง วัวก็ไม่ใช่ ควายก็ไม่เชิง เมื่อเดินทางมาถึงDallas ที่ หมาย ซึ่งมีพี่น้องคนไทยรอรับ จัดแจงที่อยู่ที่กินเป็นอย่างดี “ที่นี่ มีคนปกาเกอะญอไหมครับ?” เป็นคำถามแรกที่ผมถามที่ Dallas
ชิ สุวิชาน
วันนี้ผู้หญิงได้รับอนุญาตให้ไปเดินซื้อของที่ Outlet ส่วนผู้ชายหลังจากทานอาหารเช้า ต้องเดินทางไปติดตั้งเครื่องเสียงเพื่อเล่นในเย็นวันนี้
ชิ สุวิชาน
หัวค่ำ พี่แพท นายกสมาคมไทย เท็กซัส พาไปกินข้าวที่ร้านอาหารจีน  ภายในร้านมีคนเอเชียจากหลายประเทศ ทั้ง สิงคโปร์ มาเลเซีย จีน ลาว เวียดนาม รวมทั้งพี่ไทย  แต่ส่วนใหญ่จะใช้ภาษาอังกฤษคุยกันยกเว้นคนเวียดนามที่ไม่ยอมพูดภาษาอังกฤษในร้านนอกจากพูดภาษาของตนเอง 
ชิ สุวิชาน
การเริ่มต้นใหม่ หลังจากที่สังคยานาดำเนินขึ้น จุดหมายวันนี้อยู่ที่ร้าน Home plate grill เป็นร้าน sport club ของคนไทย ที่ตั้งอยู่ตรงข้ามสนามเบสบอลทีม Houston Astros ก่อนที่คอนเสิร์ตจะเริ่ม ทางคณะทีมงานได้ไปเชิญชวนแฟนๆเบสบอลมาฟังดนตรีก่อนเกมจะเริ่ม ทำให้ในร้านเริ่มมีคนทยอยเข้ามา บ้างมานั่งดื่มก่อนเข้าไปดูเกมในสนาม บ้างเข้ามาซื้อเพื่อไปดื่มในสนาม
ชิ สุวิชาน
ข้าวเย็นมื้อหนักจบลง ตัวแทนสมาคมไทย-เท็กซัส ได้พาคณะไปที่พักผู้หญิงพักที่บ้านคนไทย ผู้ชายพักที่วัดไทยที่อยู่ใกล้ๆ ชื่อ”วัดป่าศรีถาวร” ซึ่งมีที่พัก มีห้องน้ำที่อยู่ในขั้นสะดวก พระสงฆ์ที่จำวัดอยู่ที่นี่เป็นกันเองนอกจากบริการที่พักแล้ว ยังให้ข้าวปลาอาหารให้ทานอีกเล่นเอาทีมงานผู้ชายต่างซึ้งไปตามๆกัน
ชิ สุวิชาน
สายๆของวันที่ 20 กันยา เราเดินทางออกจาก Austin ต่อไปเมือง Houston มีกำหนดการเล่นบ่ายสามโมงถึงห้าโมงเย็น เมื่อเดินทางไปถึงสถานที่เล่น ตัวแทนจากสมาคมไทย-เท็กซัส ได้มาต้อนรับและพาไปดูเวทีซึ่งเป็นที่คล้ายตลาดสดหรือตลาดนัดที่เมืองไทย มีอาหาร เสื้อผ้า ของเล่น รูปร่างหน้าตาและสัดส่วนรูปร่างของคนแถวนี้ใกล้เคียงเมืองไทย เพียงแต่ไม่พูดภาษาไทย พูดภาษาสเปนมากกว่าภาษาอังกฤษ
ชิ สุวิชาน
ออกจากพิพิธภัณฑ์ Alamo เราออกเดินทางต่อไปยัง Austin ระหว่างทางแวะทานข้าวที่ร้านอาหารไทย ผมไม่ทิ้งโอกาสที่จะถามหาคนในเผ่าพันธุ์ของผม
ชิ สุวิชาน
การเดินทางยังดำเนินต่อ บทเพลงในรถยังเป็นเพื่อน มีทั้งเพลงที่ดัง มีทั้งเพลงไม่ดัง บางเพลงเคยได้ฟังมาบ้าง บางเพลงไม่เคยรู้จัก “เพลงที่ดังกว่า ไม่ได้ดีกว่าเสมอไป คนที่ดังกว่าไม่ได้เก่งกว่าเสมอไป” ทอด์ดสรุปให้ฟัง “แต่อย่างผมไม่ดัง และไม่เก่งด้วย” ผมสรุปของผมในใจ
ชิ สุวิชาน
มีเวลาพัก หลังจากเล่นที่ Thai Thani Resort  วันหนึ่งได้มีโอกาสไปพายเรือเล่นที่ทะเลสาบระยะทางประมาณชั่วโมงเศษจากสแครนตั้น  รุ่งเช้า ออกเดินทางจากสแครนตั้นมุ่งสู่ตอนใต้ของอเมริกา เป้าหมายอยู่ที่ Texas ระยะทางเกือบสองพันไมล์ ขบวนรถตู้สามคัน บรรทุกทีมงานยี่สิบกว่าชีวิตพร้อมอุปกรณ์เครื่องเสียง เครื่องดนตรี เดินทางเต็มที่วันแรกจนตีสอง ทุกคนยอมแพ้ทั้งคนขับและคนนั่ง ถ้าเครื่องดนตรีและเครื่องเสียงพูดได้ ก็คงขอพักเช่นกัน จึงค้างกันที่เมือง Bristol รัฐ Tennessee
ชิ สุวิชาน
หลังคอนเสริตจบลงที่นิวยอร์ก เราเดินทางกลับสแครนตันในคืนนั้นเลย กว่าจะได้นอนก็ปาเข้าไปตีสี่ ทำให้หลังจากถึงที่นอนไม่เกินห้านาที เสียงกรนจากรอบข้างเริ่มดังขึ้น เหมือนมีการเปิดคอนเสริตประสานเสียง มีทั้งเสียงเบส เทนเนอร์ อัลโต โซปราโน ครบครัน กว่าผมจะหลับได้เล่นเอาฟังจนอิ่ม