Skip to main content

ออกจากพิพิธภัณฑ์ Alamo เราออกเดินทางต่อไปยัง Austin ระหว่างทางแวะทานข้าวที่ร้านอาหารไทย ผมไม่ทิ้งโอกาสที่จะถามหาคนในเผ่าพันธุ์ของผม

\\/--break--\>

ยู เป็น Karen เหรอ ที่ร้านเรามีคนครัวคนหนึ่งเป็น Karen มาจากพม่า ไม่รู้ว่าเป็นพวกเดียวกับ ยู หรือเปล่า พูดภาษากันรู้เรื่องหรือเปล่า?” เจ้าของร้านบอกผม
น่าจะรู้เรื่องครับ ผมขอคุยกับเขาหน่อยได้ไหมครับ?” ผมขอเจ้าของร้านด้วยความรู้สึกที่ตื่นเต้น
ได้ น้องๆ ไปเรียก มู ในห้องครัวหน่อย” เจ้าของร้านเรียกใช้เด็กเสริฟให้ไปเรียกคนครัวปกาเกอะญอ

 

ทันที่ที่เจอหน้าเขา ผมรู้ทันทีว่าเขาเป็นปกาเกอะญอแน่นอน นัยน์ตาของเขาก็เหมือนจะรู้ว่าผมเป็นคนปกาเกอะญอเช่นกัน เขาเดินส่งยิ้มให้ผมมาแต่ไกล

 

โอะ มึ โช เปอ” เขายื่นมือมาทักทายผม เขามาอยู่ได้เพียง 4 เดือนเลยยังไม่มีเครือข่ายกับคนปกาเกอะญอที่มาก่อนหน้า ทั้งที่อยู่ในรัฐเดียวกันและเมืองอื่นๆ เขามาจากศูนย์อพยพแม่หละ นับเป็นการเจอคนปกาเกอะญอคนแรกของผมในอเมริกา ก่อนเขาจะขอตัวกลับเข้าครัวเพื่อทำงานต่อ เนื่องจากเขาสังเกตถึงสายตาของเจ้าของร้านที่มองมาทางเราถี่ขึ้น อาจเป็นเพราะเราใช้เวลาในการคุยกันนานจนเสียเวลาทำมาหากินของเจ้าของร้าน

 

บ่ายสามกว่าๆ เราเข้าไปที่ร้าน Ruta Maya ซึ่งเป็นร้านเวิลด์มิวสิคที่เน้นคนที่มีบทเพลงและแนวเพลงที่แตกต่างจากคนอื่นมาแสดงในร้าน วันนี้ได้ข่าวว่า จะมีวงจากศรีลังกามาด้วย ในร้านตกแต่งโปสเตอร์งานต่างๆ ที่มีคนมาเล่นในร้าน ซึ่งล้วนแล้วแต่มาจากหลายที่หลากสีสัน ผมมองดูรอบๆ ร้านพร้อมกับติดตั้งโกละ และเครื่องเสียงของวง

 

ทุ่มเศษๆ คอนเสิร์ตเริ่มขึ้น พี่ทอด์ดขึ้นไปแนะนำตนเองและคณะที่มาจากประเทศไทย จากนั้นชวนทุกท่านเดินทางไปทางเหนือของประเทศไทย เดินทางต่อจากเชียงใหม่ขึ้นภูเขามุ่งสู่หมู่บ้านปกาเกอะญอ เตหน่ากูทำหน้าที่ในการบอกเล่าเรื่องราวของตนเองและคนชนเผ่าในประเทศไทย 4 เพลงจากนั้นลูกสาวแม่น้ำปิง ลานนา ขึ้นมาสมทบอีก 3 บทเพลง แล้วเราจึงพากันล่องใต้กับ ซอ เดอะซิส ที่แยกหาดใหญ่ แยกแห่งวัฒนธรรมและดนตรีที่หลากหลาย ก่อนที่จะมุ่งสู่แดนอีสานจนถึงแม่น้ำโขง

 

พี่น้องจากศรีลังกามาเคาะประตู เพื่อร่วมเข้ามาในสวนแห่งสีสันดนตรี เสียงร้องที่ทรงพลังของเขาทำให้ทุกหูในร้านปิดรับฟังเสียงอื่นและเปิดพื้นที่ให้คลื่นเสียงของเขาเข้าไปแบบเต็มๆ ก่อนที่เขาจะถูกชวนไปสัมผัสบรรยากาศคลื่นเสียงหมอลำของแม่น้ำโขง และสุดท้ายเรากลับมารวมกันด้วยท่วงทำนองร้องบรรเลงของอัฟริกัน

 

ผมลงจากเวที ผมแปลกใจมากที่ โจ วิศวกรผู้ออกแบบการวางระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์เดินมาหาผม เขาบอกผมเพียงสั้นๆ

ผมมาตามเสียงเพลงและเสียงดนตรีของคุณ” เขาจับมือผมด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ก่อนเขาจะบอกว่าพรุ่งนี้เขาต้องบินกลับไปทำงานแต่เช้า ผมพูดอะไรไม่ออก

 

หลังจากนั้นมีผู้หญิงคนหนึ่งเดินมาคุยกับผม

ฉันไม่รู้จัก ปกาเกอะญอ ไม่รู้จัก คาเรน ฉันรู้จักแต่อองซาน ซู ยี” เขาบอกพร้อมกับคุยถึงความเห็นของเขาที่เห็นใจพลเมืองชาวพม่า และเขาปรารถนาที่จะเห็นประชาธิปไตยเกิดขึ้นที่ประเทศพม่า ก่อนเขาจะไปหยิบซีดีของผม แล้วชูขึ้นมาให้ผมเห็น

ฉันซื้อของคุณแล้วนะ” ผมยิ้มตอบเขา ก่อนเขาจะออกจากร้าน แล้วพวกเราก็เก็บของกันเพื่อเคลื่อนย้ายต่อ

 

คืนนี้ไปนอนกันที่บ้านคนไทย พวกเรามีกัน 20 กว่าคน แม้บ้านจะหลังใหญ่มีหลายห้อง แต่ก็ไม่สามารถมีพื้นที่นอนสำหรับรองรับเราได้ทั้งหมด เป็นหน้าที่ของผู้ชายที่ต้องจำลองพื้นที่ว่างที่มีอยู่เป็นห้องนอนชั่วคราว

 

น้องๆ นักเต้น 4 คนใช้ตู้เก็บรองเท้าเป็นที่นอน ไทด์มือเบสชาวฮอลแลนด์ใช้ตู้เสื้อผ้าเป็นที่นอน เจ้าของบ้านและพี่ทอด์ดใช้โซฟา เป็นเตียงนอน ผมและภรรยาใช้พื้นที่ใต้โต๊ะคอมพิวเตอร์เป็นที่นอน ต้องช่วยกันประหยัดที่เนื่องจากมันมีจำกัด เราเลยนอนกอดกันแน่น แม้อากาศที่อเมริกาเริ่มหนาวแล้ว แต่การนอนใต้โต๊ะคอมฯ และกอดกันแน่นจนขยับลำบากแบบนั้น ทำให้รู้สึกร้อนขึ้นมาทันที แต่ด้วยความเพลียก็ไม่มีอะไรหยุดยั้งความง่วงได้

 

รุ่งเช้า กว่าที่ทุกคนจะอาบน้ำกันครบ เกือบเที่ยงแล้ว โปรแกรมที่เราต้องเล่นคือบ่ายสองถึงห้าโมงเย็น นักดนตรีจึงมุ่งหน้าสู่เวทีเพื่อติดตั้งเครื่องเสียงและลองเสียง เวทีเป็นสวนสาธารณะมีคนเดินผ่อนคลายในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์

 

เมื่อลองเสียงเสร็จสรรพ ข้าวกล่องจากทีมงานจึงตามมา ฟัดข้าวกล่องเต็มอิ่มก่อนขึ้นเวที เช่นเคยเวทีถูกเปิดด้วยบทเพลงจากชนเผ่าแห่งขุนเขา

รอบนี้หลายเพลงหน่อยนะ เนื่องจากเราต้องเล่นตั้ง 3 ชั่วโมง” พี่ทอด์ดบอกผม


เตหน่ากูบรรเลงไปเพลงแล้วเพลงเล่า มีคนเดินไปเดินมาประปราย ฟังบ้างไม่ฟังบ้าง บางคนจะฟังแต่ถูกลูกดึงแขนไปที่อื่นจึงจากไป อีกคนจะฟังแต่ถูกแดดไล่ จึงหนีไป หลายคนเดินผ่าน จบเพลงหนึ่งก็เดินต่อ มิใช่เพียงเตหน่ากูเท่านั้นที่เป็นเช่นนี้ ช่วงของวงใหญ่ก็เป็นเช่นนี้ จนคอนเสิร์ตเล่นไปเกือบ 2 ชั่วโมง พี่ทอด์ด จึงประกาศของพักการแสดงไว้ขณะหนึ่งก่อน แล้วจะกลับมารอบสอง

 

ช่วงระหว่างพัก ทั้งนักร้องนักดนตรีต่างเรียกอารมณ์ด้วยการซดเบียร์กันเป็นว่าเล่น

เดี๋ยว ชิ ขึ้นก่อนอีกซัก 3 เพลงนะ” พี่ทอด์ดบอกผม ผมจึงเปิดหัวรอบสองด้วยเพลง แบแล เนื่องจากมีจังหวะเร็วหน่อย ก่อนตามด้วยเพลงนก และเพลง ดูดูเล แต่บรรยากาศก็ไม่ต่างจากรอบแรก คอนเสิร์ตจบลงด้วยความเหนื่อยเนื่องจากต้องเข็นพลังในการแสดงมากกว่าทุกครั้ง

 

หลังจากจบการแสดงที่สวนสาธารณะ 5 โมง เรารีบเก็บของเพื่อไปเล่นต่ออีกที่ ณ ร้านอาหารไทยในเมืองเดียวกัน คนไทยเริ่มทยอยกันเข้ามา อาหารแบบบุฟเฟ่ต์ถูกตั้งไว้สำหรับลูกค้าและนักดนตรีในที่เดียวกัน หลังจากเสริมพลังด้วยอาหารไทยแล้ว เริ่มตั้งเครื่องเสียง เนื่องจากเป็นร้านอาหารไม่ใช่ผับ ไม่ใช่บาร์ จึงไม่มีเวที ทำให้ต้องจัดเครื่องเสียงชุดเล็ก กลองมีเพียงสแนร์ที่ถูกติดตั้ง ส่วนกระเดื่องใช้กลองยาวแทน แต่สำหรับเตหน่ากูไม่มีปัญหา

 

ปัญหามีเพียงจุดเดียวคือ เสียงเพลงและเสียงดนตรีมันเบากว่าเสียงคุยกันของคนในร้าน พี่ทอด์ดแนะนำ เตหน่ากูและที่มาของเขา แต่คนไทยในอเมริกาเหมือนรู้จักคนชนเผ่าเลย

แม้วใช่ไหม” คนหนึ่งถาม บางทีผมรู้สึกว่าคนในเมืองไทยเริ่มรู้ความเป็นคนชนเผ่ามากขึ้น ที่อเมริกาน่าจะเป็นแบบนั้น แต่มันคนละเรื่องเลย เขายังมองทุกคนเป็นแม้วหมด บางคนยังมองทุกชนเผ่าเป็นกะเหรี่ยงหมด รวมทั้งดนตรีชนเผ่าเองไม่สามารถแหวกเข้าไปหาพื้นที่ในอารมณ์เขาเท่าใดนัก

 

หลังจากที่ผมร่วมล่องใต้กับไปหาดใหญ่กับวงเดอะซิสแล้ว ผมจึงหลบไปนั่งพักหลังห้องเก็บของด้วยความเพลีย จนเผลอหลับไป ตื่นมาอีกที ตอนที่ ลานนา เปิดประตูเพื่อมาใส่เสื้อตัวใหม่

 

แอะ อ้ายชิ อู้งานก๋า ลบมาอยู่นี่ น้อ บ่ยอมขึ้นไปเล่นเพลงสุดท้ายตวยกั๋นน้อ” ลานนาหันมาแซวผม
ผม ฮู้สึก เพลีย เลยงิบ ลับไปเลย” ผมตอบลานนา
นาทั้งเพลีย ทั้งเมา ดื่มแล้วมันจ้วยกระตุ้นได้หน้อยนึ่ง แต่ซะกำก็จะง่วงขนาด แต่ก่ดี จะได้หลับแบบสนิท สลบสลายไปเลย” และก็จริงอย่างที่ลานนาบอก หลังจากเก็บของขึ้นรถ กลับมาที่นอนที่เดิม แม้จะนอนใต้โต๊ะคอมฯ นอนในตู้เก็บรองเท้า นอนในตู้เสื้อผ้า นอนบนโซฟาหรือใต้โชฟา กลับมาถึงไม่มีใครอาบน้ำ ทิ้งตัวทอดกาย ไม่เกินยี่สิบนาที ผมไม่รับรู้แล้วว่าอะไรเกิดขึ้นในบ้าน เสียงกรนไม่สามารถรบกวนผมได้

 


บรรเลงที่
Ruta Maya


 


ศิลปิน จากศรีลังกา
   

 


บนเวทีสวนสาธารณะ ในเมือง
Austin, Taxas

 

 

บล็อกของ ชิ สุวิชาน

ชิ สุวิชาน
“ตั้งสายได้แล้ว วิธีการเล่นล่ะ?” ลูกชายกำลังไฟแรงอยากเรียนรู้ “ใจเย็นๆ ก่อนอื่นต้องฝึกร้องเพลงให้ได้ก่อน ถ้าร้องเพลงไม้ได้ จำทำนองเพลงไม่ได้ จะเล่นได้ไง” พ่อค่อยๆสอนลูกชาย “เอางี๊ เดี๋ยวพ่อจะสอนเพลงพื้นบ้านง่ายๆที่ผู้เฒ่าผู้แก่ชอบร้อง ชอบเล่นและชอบสอนเด็กบ่อยๆ ซักสองสามท่อนนะ” แล้วพ่อก็เริ่มเปล่งเสียงร้องและให้ลูกชายร้องตามที่ละวรรค
ชิ สุวิชาน
พ่อได้ดื่มชาในกระบอกไม้ไผ่จนหมดไปกว่าครึ่งหนึ่ง แล้วจึงวางลง“เดิมทีนั้น เตหน่ากูมีจำนวนสายเพียง 5-7สาย แต่ต่อมาได้มีการเพิ่มเติมสายในการเล่นเป็น 8-9สายหรือ 10-12หรือมากกว่านั้นก็ได้” พ่อหยิบเตหน่ากูและเล่าให้ลูกชายฟัง“ทำไมจำนวนสายไม่เท่ากันล่ะ?” ลูกชายถามผู้เป็นพ่อ“มันขึ้นอยู่กับความชอบและความถนัดของผู้เล่นแต่ละคน ชอบและถนัด 7 สายก็เล่น7 สายชอบน้อยกว่านั้นก็เล่นน้อยกว่าก็ได้ หรือชอบมากกว่านั้นก็เล่นมากกว่านั้นก็ได้” พ่อตอบสิ่งที่ลูกชายสงสัยในการตั้งสายเตหน่ากูแบบไมเนอร์สเกล (Minor scale) นั้นเริ่มจาก 5-7 สายโดยมีตัวโน๊ตหลักตามไมเนอร์สเกลอยู่ 5 โน้ต ได้แก่ โด (D) เร (R)  มี (M) โซ (S) ลา…
ชิ สุวิชาน
ความมืดกลับมาทำหน้าที่อีกครั้ง เช่นเดียวกับไม้เกี๊ยะที่มาจากแกนไม้สนสองใบต้องถูกเผาเพื่อผลิตแสงสว่างในครัวบ้านปวาเก่อญออีกครั้ง กาต้มน้ำที่ดำสนิทด้วยคราบเขม่าควันไฟถูกตั้งบนเหล่อฉอโข่อีกครั้ง กลิ่นชาป่าขั้วหอมทำให้โสตประสาทกระปรี่กระเปร่าขึ้นมาพร้อมเข้าสู่บรรยากาศการเรียนรู้ภายในบ้านไม้ไผ่หลังเดิมเตหน่ากู คืออุปกรณ์การเรียนรู้ถูกเตรียมไว้เพื่อใช้ในการเรียนรู้ ของพ่อซึ่งเป็นผู้สอนหนึ่งตัว ของลูกซึ่งเป็นผู้เรียนหนึ่งตัว รูปร่างลักษณะเตหน่ากูแม้ไม่เหมือนกันทั้งหมด แต่ก็มีรูปทรงที่คล้ายๆกัน  มีตัวท่อนไม้ใหญ่ และมีกิ่งไม้ที่โค้งงอเมื่อพ่อเห็นว่าลูกชายพร้อมที่จะเริ่มการรับความรู้แล้ว …
ชิ สุวิชาน
“พี่น้องครับ พี่ชายคนนี้ยังคงทำหน้าที่ต่อ ณ ตรงนี้ครับ ขอมอบเวทีต่อให้พี่ครับ” ผมพูดจบผมกลับไปที่นั่งของผมเพื่อเป็นคนดูต่อแม่น้ำสายนี้ยังคงไหลไปตามกาลเวลาฯ....................................................ฉันผ่านมา  ผ่านมาทางนี้ ผ่านมาดูสายน้ำ.............ได้รู้ได้ยิน..............ฯบทเพลงแรกผ่านไปต่อด้วยสาละวิน สายน้ำตาเสียงปืนดังที่กิ่วดอยลูกชายไปสงครามเด็กน้อยผวาตื่น(ทุกคืนๆ)
ชิ สุวิชาน
“ผมมีเพื่อนปกาเกอะญอมาด้วยคนหนึ่ง” ผมบอกกับคนดูผมได้ไปพบ และได้ไปฟัง เพลงที่เขาร้อง ณ ริมฝั่งสาละวิน ทำให้ผมเกิดความประทับใจในท่วงทำนองและความหมายของบทเพลงรวมทั้งตัวเขาด้วยผมทราบมาว่าตอนนี้เขาอยู่ที่เมืองเชียงใหม่  ผมจึงไม่พลาดโอกาสทีจะชักชวนเขามาร่วม บอกเล่าเรื่องราวของชนเผ่า ผ่านบทเพลงที่ผมประทับใจ ซึ่งแรก ๆ นั้น เขาแบ่งรับ แบ่งสู้  ที่จะตอบรับการชักชวนชองผม แต่ผมก็ชักแม่น้ำทั้งห้า จนเขาหมดหนทางปฏิเสธ“ผมไม่คุ้นเคยกับการร้องเพลงต่อหน้าคนมาก ๆ นะ” เขาออกตัวกับผมก่อนวันงาน แต่เมื่อถึงวันงานเขาก็ไม่ทำให้ผมผิดหวัง เขาเดินออกมาแบบเกร็งๆ และประหม่าอย่างเห็นได้ชัด เขาจะยืนตรงก็ไม่ใช่…
ชิ สุวิชาน
ณ ห้องเล็กๆ แถวสี่แยกกลางเวียง เมืองเชียงใหม่ เก้าอี้ถูกเรียงเป็นแถวหน้ากระดานประมาณร้อยกว่าตัว  ข้างหน้าถูกปล่อยว่างเล็กน้อยสำหรับเป็นพื้นที่ตั้งเครื่องเล่นดีวีดีและโปรเจคเตอร์เพื่อฉายสารคดี ใกล้เวลานัดหมายผู้คนเริ่มทยอยกันเข้ามาทีละคน ทีละคู่ ทีละกลุ่ม“เค้าไม่อยากให้เราพูดถึงเรื่องการเมือง แต่เราอาจพูดได้นิดหน่อย” เจ้าหน้าที่ FBR กระซิบมาบอกผมเกี่ยวกับความกังวลของเจ้าของสถานที่ ผมยิ้มแทนการสนทนาตอบ เพียงแต่คิดในใจว่า หากการเมืองคือความทุกข์ยากของประชาชน ของชาวบ้านคนรากหญ้าก็ต้องพูดให้สาธารณะได้รับรู้ เพื่อจะหาช่องทางในการช่วยบรรเทาทุกข์ของประชาชน…
ชิ สุวิชาน
หลังจากดูสารคดีด้วยกันจบ “ผมอยากฉายสารคดีชุดนี้สู่สาธารณะ เพื่อสร้างความเข้าใจแก่คนทั่วไปในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ผมอยากให้คุณมาร่วมเล่นดนตรีด้วย คุณ โอ เค มั้ย” เขาถามผมผมนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง เพราะผมไม่รู้จะปฏิเสธอย่างไร  ผมรู้สึกว่า มันเป็นสิ่งที่ต้องทำ  ผมบอกกับตัวเองว่า เพียงแค่เห็นใจและเข้าใจอาจไม่เพียงพอ   หากสามารถเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยสื่อสารเรื่องราวของผู้ทุกข์ยาก โดยเฉพาะคนชนเผ่าเดียวกันได้  มันก็ควรทำไม่ใช่หรือหลังจากผมตอบตกลงเขา เราทั้งสองได้พูดคุยประสานงานกันเกี่ยวกับงานอยู่เรื่อย ๆ จนเวลาลงตัวในวันที่ 21 ธันวาคม ศกนี้ ณ สมาคม AUA เชียงใหม่ ในหัวข้อ “…
ชิ สุวิชาน
ต่า หมื่อ แฮ ธ่อ เลอ โข่ โกละ         ตา ข่า แฮ ธ่อ เลอ โข่ โกละอะ เคอ กิ ดิ เค่อ มี โบ            มา ซี ปกา ซู โข่ อะ เจอผีร้ายโผล่มาทางริมฝั่งสาละวิน        แมงร้ายโผล่มาทางลำน้สาละวินเสื้อผ้าลายเหมือนดั่งต้นบุก        มาเข่นฆ่าทำลายล้างชีวิตคน(ธา บทกวีคนปกาเกอะญอ)“คุณเคยติดตามสถานการณ์ทางรัฐกะเหรี่ยงประเทศพม่าบ้างไหม” เสียงผู้ชายโทรศัพท์มาถามผมด้วยภาษาไทยสำเนียงฝรั่ง“ผมทำงานในองค์กรชื่อFree Burma Rangers ครับ”…
ชิ สุวิชาน
เขานั่งอยู่แถวหน้า และเขาโบกไม้โบกมือขณะที่ผมกำลังบรรเลงเพลงอยู่บนเวที  ในมหกรรมคอนเสิร์ตเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  ซึ่งจัดโดยสำนักประชาสัมพันธ์ร่วมกับองค์กรยูเนสโก้  ในงานได้มีการเชิญศิลปินชนเผ่าหลักทั้ง 7 เผ่า ได้แก่ ม้ง อาข่า ลีซู ลาหู่ เมี่ยน ไทยใหญ่และกะเหรี่ยง รวมทั้งยังมีศิลปินล้านนา อาทิ ครูแอ๊ด  ภานุทัต  คำหล้า ธัญาภรณ์ น้อง ปฏิญญา และไม้เมืองนอกจากนี้มีทายาทของสุนทรี  เวชชานนท์ ราชินีเพลงล้านนา คือน้องลานนา มาร่วมร้องเพลง ธีบีโกบีกับทอดด์ ทองดี ศิลปินจากรัฐเพนโซเวเนีย…
ชิ สุวิชาน
เมื่อเข็มนาฬิกาเข็มที่สั้นที่สุด เลื่อนไปยังหมายเลขเก้า ทุกคนจึงขึ้นรถตู้ เคลื่อนขบวนไปยังศูนย์ศิลปและวัฒนธรรมแสงอรุณ  เมื่อถึงมีทีมงานเตรียมข้าวกล่องไว้รอให้ทาน พอทานข้าวเสร็จพี่อ้อย ชุมชนคนรักป่า ก็มาบอกผมว่า  งานจะเริ่มบ่ายโมง  พร้อมกับยื่นใบกำหนดการให้ผมดู  ผมตื่นเต้นนิดหน่อยพอบ่ายโมง งานก็เริ่มขึ้น โดยการฉายสไลด์เกี่ยวกับป่าชุมชนที่หมู่บ้านสบลาน อำเภอสะเมิงเชียงใหม่   "ถ้าถึงคิวแล้วจะมาเรียกนะ” ทีมงานบอกกับผมในระหว่างที่ผมรออยู่หน้างานนั้น ผมก็ได้เจอกับนักเขียน นักดนตรี นักกวี ที่ทยอยมา ได้มีโอกาสคุยกับคนที่ผมรู้จัก และกำลังรู้จัก และที่ไม่รู้จักด้วย …
ชิ สุวิชาน
บุ เต่อ โดะ นะ แล บุ เออบุ ลอ บ ะ เลอ ต่า อะ เออชะตา วาสนาช่างรันทดต้องเผชิญแต่สิ่งลำเค็ญ