1. นำไปสู่การเสพสารผิดกฎหมายชนิดอื่น
มีการศึกษาข้อมูลปี 2013 เพื่อดูว่าการเริ่มต้นด้วยสารที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทชนิดใด (นับทั้ง 'ถูก' และ 'ผิด' กฎหมาย - มีทั้ง 'ยาแก้ปวด' และ 'โคเคน' อยู่ในแผนภูมิเดียวกัน) ที่นำไปสู่การเป็นผู้เสพสารเสพติดที่ 'ผิดกฎหมาย' รายใหม่ (Associated with Initiation of Illicit Drug Use) พบว่า จากผู้เสพสารผิดกฎหมายรายใหม่ในสหรัฐฯ จำนวน 2.8 ล้านคน มีผู้ที่เสพกัญชาเป็นสารเสพติดชนิดแรกในชีวิตสูงถึงร้อยละ 70.3
อ้างอิง: https://www.drugabuse.gov/publications/drugfacts/nationwide-trends?mod=article_inline
2. ทำให้อาการปวด ที่ไม่ใช่มะเร็ง แย่ลง
ส่วนเรื่องการลดอาการปวด มีงานศึกษาที่สัมภาษณ์ผู้ที่มีอาการปวดเรื้อรัง (ที่ไม่ใช่มะเร็ง) 1,514 คน ที่ใช้กัญชาโดยหวังลดอาการปวด เทียบกับคนที่ปวดเรื้อรังแต่ไม่ใช้กัญชา พบว่า คนที่ใช้กัญชา:
ปวดมากกว่า (greater pain severity),
อดทนต่ออาการปวดได้น้อยกว่า (lower pain self-efficacy),
เครียดมากกว่า (greater generalised anxiety disorder severity)
ดูที่: Findings https://www.thelancet.com/journals/lanpub/article/PIIS2468-2667(18)30110-5/fulltext
3. เพิ่มโอกาสเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน
นับแต่นิตยสารไฮไทม์ส์ (High Times) เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อปี 1974 ซึ่งเป็นนิตยสารชั้นนำของโลกที่เผยแพร่ข่าวสารด้านกัญชา ข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับกัญชา และวัฒนธรรมกัญชา ตั้งแต่ปี 1991 ไฮไทม์ส์ได้ทำให้วันที่ 20 เมษายนของทุก ๆ ปี เป็นวันที่ผู้คนจำนวนหนึ่งจะเฉลิมฉลองคุณสมบัติของกัญชาที่ทำให้มึนเมาอย่างมีความสุข กิจกรรมนี้สืบเนื่องมาถึงปัจจุบัน
นักเรียนห้าคนจากโรงเรียนมัธยมปลาย San Rafael High School ชี้ว่าพวกเขาใช้คำว่า “4/20” เพื่อเป็นการสานต่อการพบปะกันเป็นประจำเวลา 4:20 p.m. ในปี 1971 เพื่อค้นหาเหล่าต้นกัญชาในบริเวณป่าใกล้โรงเรียน
มีการศึกษาการเสียชีวิตทางถนนจากข้อมูลขององค์การบริหารความปลอดภัยทางหลวงสหรัฐอเมริกา (U.S. National Highway Traffic Safety Administration) ใช้ข้อมูลตั้งแต่ปี 1992 อันเป็นปีหลังจากปีที่เริ่มมีการเฉลิมฉลองข้างต้น จนถึงข้อมูลปี 2016
พบว่าในวันที่ 20 เม.ย. หลังจากเวลา 4:20 p.m. ของทุก ๆ ปี อันเป็นเวลาที่เริ่มมีการฉลอง อัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน ‘สูงกว่า’ โดยค่าเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 12 เมื่อเทียบกับวันเดียวกันของสัปดาห์ก่อนหน้าและสัปดาห์ถัดจาก 20 เม.ย.
การศึกษานี้ยังพบอีกว่า ผู้ที่อายุต่ำกว่า 21 ปี เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนวันที่ 20 เม.ย. ของทุก ๆ ปี หลังเวลา 4:20 p.m. ‘สูงกว่า’ วันเดียวกันของสัปดาห์ก่อนหน้าและสัปดาห์ถัดจากนั้น โดยค่าเฉลี่ยสูงถึงร้อยละ 38