ผมรู้สึกตลกที่เดียวกับการที่ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือ เสธ.อ้าย สายเหยี่ยว ได้กลายร่างเป็นทาร์ซานโหนตัวเลข 901 ออกมาสร้างกระแสสนับสนุนการรัฐประหาร
มันตลกมากพอๆกับกระแสข่าวการยึดอำนาจทีมักถูกปล่อยออกมาสร้างความตระหนกในกลุ่มคนเสื้อแดงเป็นระยะ
เหตุที่ผมไม่ซีเรียสกับเรื่องพวกนี้เลยก็เพราะว่า เมื่อพิจารณาจากยุทธศาสตร์ทางการเมืองของ รบ.พรรคเพื่อไทย ที่ไม่ยอมแตะต้องงบประมาณและโครงสร้างอำนาจของกองทัพ ประธานรัฐสภาใช้เท้าเขี่ยประเด็น แก้ รธน.50 และแก้ กม.อาญา ม.112 ที่ประชาชนนับหมื่นล่ารายชื่อกันมาทิ้งหน้าตาเฉย (อย่างเงียบๆผิดปกติ)
ขุนทหารคนไหนมันจะโง่ออกมาทำรัฐประหาร..!?!?
นอกจากการถอยอย่างนอบน้อมของรัฐบาลเด็กดี ที่น่าจะสร้างความอึดอัดใจให้กับพรรคฝ่ายค้านเนื่องจากไม่รู้ว่าจะตรวจสอบรัฐบาลด้วยประเด็นอะไรดีแล้ว นโยบายประชานิยมที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นคนชั้นกลางระดับล่างและคนยากคนจนก็เขยิบขยับตีกินมวลชนฐานเสียง ลดคุณค่าของพรรคประชาธิปัตย์ลงไปเรื่อยๆ
แน่นอนว่าถ้ามองในสายตาของนักประชาธิปไตยหรือในสายตาของเหยื่อจากเหตุการณ์การเมืองที่ผ่านมา มันคงเป็นความปวดร้าวต่อสิ่งที่เกิดขึ้น
แต่หากมองโดยภาพรวมของประเทศในสถานการณ์ความขัดแย้ง มันเป็นไม่กี่ทางเลือกที่ผู้บริหารประเทศจะสามารถหยิบมาใช้ได้
และการเลือกตั้งใหญ่สมัยหน้าจะกลายเป็นหลักไมล์ที่ชี้วัดถึงประสิทธิผลของแนวทางข้างต้น
โดยสรุปแล้ว ในช่วงนี้ฮาร์ดคอร์สายเหยี่ยวผู้นิยมเสพเลือดเนื้อเป็นภักษาหารของทั้งสองฝั่ง ถ้ายังไม่สามารถปรับตัวให้กลายเป็นพิราบหาจิกกินเมล็ดข้าวโพดข้าวฟ่างที่มีคนนำมาหว่านเลี้ยงแถวสนามหลวง ก็คงต้องสงบเสงี่ยมรอจังหวะเวลาไปก่อนนะครับ
ถ้าเคลื่อนไหวในช่วงนี้อาจทำได้แค่เป็นการสร้างความครื้นเครงให้กับประชาชนเท่านั้น :D
ที่มาภาพ: วิวาทะ
หมายเหตุ: บันทึกชิ้นนี้ต้องการทำความเข้าใจและอธิบายพฤติกรรมการเมืองของกลุ่มการเมืองพรรคเพือไทยต่อการกำหนดบทบาททางการเมืองในสถานการณ์ปัจจุบัน