Skip to main content

 


อาจพูดได้ว่า นิค เป็นช่างภาพชาวต่างประเทศคนเดียวที่น่าจะเกาะติด ติดตามสถานการณ์การเมืองไทย ทราบข่าวล่าสุดว่าเขาเดือดร้อนด้านเศรษฐกิจ อาจจะไม่สามารถอาศัยอยู่ในประเทศไทยได้ต่อไป

ไม่รู้ว่าจะช่วยอะไรได้รึเปล่า แต่อยากเขียนความทรงจำของผมที่มีต่อเขา

22 เมย. 53 กลุ่มคนในนามกลุ่มเสื้อหลากสีรวมตัวกันชุมนุมบริเวณสีลมแสดงความไม่พอใจต่อการชุมนุมของคนเสื้อแดงที่ชุมนุมอยู่บริเวณราชประสงค์และขยายมาจนถึงศาลาแดง

ผมเข้าไปสังเกตุการณ์ และถ่ายภาพ เก็บอารมณ์ความรู้สึกของกลุ่มเสื้อหลากสี

ในการชุมนุม มีการเผาเสื้อและธงที่เป็นของเสื้อแดง มีการตอบโต้กันโดยใช้หนังสติ๊ก จากทั้งสองฝ่าย สังเกตุว่าฝั่งเสื้อหลากสีนอกจากใช้อาวุธข้างต้นแล้วยังมีการใช้ขวดโซดาเขย่าให้เกิดแรงดันในขวดแล้วขว้างเข้าใส่ที่ชุมนุมของคนเสื้อแดง มีเด็กอายุประมาณสิบขวบ ขว้างระเบิดโซดาด้วย)

สุดท้ายมีระเบิดลงที่บริเวณที่ชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อหลากสีบริเวณหน้าธนาคารชือไม่ค่อยคุ้นหู มีคนเสียชีวิต คนเสื้อแดงอีกฟากฝั่งหนึ่งไม่รู้เรื่อง ยังจุดพลุ ปราศรัย เฮฮา ปกติ

ช่วงดึกของในวันนั้น มีแท็กซี่เข้าไปส่งผู้โดยสารที่สีลม กลุ่มคนเสื้อหลากสีเข้าไปกั้น ค้นรถ และดึงคนขับรถแท็กซี่ลงมาทำร้าย ช่างภาพส่วนใหญ่ที่ยังอยู่ในบริเวณเข้าไปถ่ายภาพการทำร้ายครั้งนั้น (แต่ก็แปลก เพราะไม่มีภาพเผยแพร่ออกมาเท่าไหร่ )



ผมเห็นนิคส์ เข้าไปห้ามผู้ชุมนุมไม่ให้ทำร้ายแท็กซี่ผู้โชคร้าย เขาเอาตัวบัง ยกมือห้าม จ้องตาและโต้เถียงกับนักประชาทัณฑ์ผู้รักชาติ รักสถาบัน คำพูดสั้นๆที่ผมยังจำได้อยู่ก็คือ "เขา(คนขับแท็กซี่)เป็นคนเหมือนกับคุณ" 



"ฝรั่งคนนี้มันแปลกดี" ผมคิดในใจ เพราะขณะที่นิคโต้เถียงกับผู้ชุมนุมที่กำลังคลุ้มคลั่ง ช่างภาพทั้งไทยและเทศต่างแยกตัวออกมายืนอยู่ในจุดปลอดภัยและดีที่สุดเพื่อคอยที่จะถ่ายภาพความรุนแรงช็อตต่อไป

ช่างภาพพวกนั้นคงรำคาญนิค น่าดูเหมือนกัน

สุดท้ายโชเฟอร์แท็กซี่ผู้ยับเยินถูก จนทตำรวจ นำตัวออกไป ทิ้งไว้แต่ซากรถที่ยับเยิน ผมไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร ไม่มีข่าวคราวของสารถีผู้โชคร้ายอีกเลย (ระหว่างการรุมทำร้าย ผมเห็นผู้ชุมนุมเสื้อหลากสีบางคนเข้ามาช่วยห้ามปราม มีผู้หญิงบางคนก็ตะโกนห้ามอยู่เหมือนกัน พวกเขาอาจคิดและรู้สึกเหมือนกัน แต่พวกเขาก็ไม่ได้โหดร้ายเหมือนกันทั้งหมด)

หลังจากนั้นมาอีกหลายเดือน ผมถึงรู้ว่าช่างภาพคนนั้นชื่อ นิค นอตติซท์ ช่างภาพการเมืองอิสระ ที่ไม่มีต้นสังกัด งานของเขาถูกดึงไปใช้เยอะมากทั้งในสื่อการเมืองกระแสหลัก และในสื่อออนไลน์ งานส่วนใหญ่นิคจะไม่ได้ค่าตอบแทน

และนอกจากการถ่ายภาพแล้วเมื่อมีเหตุความรุนแรง นิค ชอบที่จะโต้เถียง กับผู้ชุมนุมทั้งเหลือง-แดง ถ้าเขาไม่โต้แย้งและทำหน้าที่คอยจับภาพอย่างเดียว เขาคงจะมีภาพความรุนแรงที่มีสีสันสวยงาม สร้างความสะและสาใจผู้ดู สร้างความสนใจให้เอเจนซี่ สร้างชื่อและรายได้ให้ตัวเองมากกว่านี้

ถ้าเพื่อนๆท่านใดต้องการสนับสนุนให้นิคทำงานที่เขารักต่อไป อาจจะ ช่วยบริจาค ช่วยซื้อภาพ ตามแต่สะดวก
 

๐๐๐๐

เพิ่มเติม: ประสบการณ์ส่วนตัวอันเป็นผลกระทบโดยตรงมาจาก นิค 

ไม่อยากโหนนิค เพราะโหนยังไงก็คงไม่ดัง (ฮา) บันทึกไว้ตอนท้ายนิดนึงว่า นิคทำให้ผมหายจากความสับสนเรื่องจุดยืน สถานะบทบาท หรือหน้าที่ ว่า ในฐานะของ สื่อ ในฐานะของคนที่มีใจเอนเอียงไปทางคนเสื้อแดง และในฐานะของเสรีชน ว่าเราควรจะทำอย่างไร ในสถานการณ์ความรุนแรงที่เราเผชิญอยู่ตรงหน้า

หลังจากการประชาทัณฑ์คนขับแท็กซี่ คืนนั้นยังไม่จบ มีชายขี้เมาคนหนึ่งใส่เสื้อแดงเดินหลงเข้ามาในกลุ่มผู้ชุมนุม ผู้คนที่โกรธแค้นฮือแห่กันเข้าไปทำร้ายเขา ผมพยายามเข้าไปห้าม แล้วเอาตัวเข้าไปกันเขาไว้ สุดท้าย จนท.ตำรวจก็สามารถนำร่างกายอันสะบักสะบอมของเขาออกไปได้

คงเหลือไว้แต่รอยตีนของผู้รักชาติบนร่างกายของผมหลายรอย (ฮู๊ดครอบเลนส์หล่นหายด้วย)
.
แค้นใจ ทำไมกรูไม่เกิดมาเป็นฝรั่ง angry
 



ภาพของนิค หล่อเว่อ น่าจะเป็นช่วงที่เริ่มมีคนรู้จักนิคกันบ้างแล้วจากกรณีการที่นิคยอมเป็นพยานในคดีการเสียชีวิตของ
ชาญณรงค์ พลศรีลา  จึงเริ่มมีเพื่อนตากล้องจับตามองเขา

 



ภาพมอเตอร์ไซค์ของนิค คาวาซากิ ปกติเรามักเห็นฝรั่งขับบิ๊กไบค์ราคาหลักแสนถึงเฉียดล้าน
พาหนะที่พานิคร่อนไปตามถ่ายรูปก็คือ Kawasaki  GTO Mach4  125cc ราคาหลักพัน 

 

หากท่านต้องการสนับสนุน-ช่วยเหลือนิค สามารถบริจาคได้ที่ 

1) Nikolaus Nostitz
Siam Commercial Bank, Bangpho Branch
209 Pracharat Sai 2 Rd.
Bangsue
Bangkok 10800
Thailand
Acc. No.: 027-261598-2
SWIFT: SICOTHBK

2) Nikolaus Nostitz
Unicredit Bank AG, Muenchen
Kardinal Faulhaber Str. 
Germany
Acc.No.: 101193080
BLZ: 700 202 70
IBAN: DE26700202700101193080
SWIFT (BIC): HYVEDEMMXXX

 

เรื่องที่เกี่ยวข้อง :

เปิดใจก่อนจากลา: 22 ปีของ 'นิค นอสติชท์' ในสังคม-การเมืองไทย

2 นักข่าวเยอรมันให้การกรณีแท็กซี่ถูกยิงที่ราชปรารภ ยันกระสุนมาจากฝั่งทหาร
 

เขียนครั้งแรกใน เฟซบุ๊ก Sarayut Tangprasert

 


 

บล็อกของ gadfly

gadfly
เห็นมีเรื่อง พ่อ-ลูก ซึ้งบ้างไม่ซึ้งบ้าง ฮาบ้างไม่ฮาบ้าง คิดถึงคนที่ไม่มีพ่อ หรือคนที่พ่อไม่ค่อยมีดีอะไรให้อวดนัก แล้วเลยไพล่ไปนึกถึงพี่สุรพล จึงขออนุญาตรำลึกถึงความสัมพันธ์ของพ่อลูกคู่หนึ่งที่ผมสามารถทำได้เพียงเฝ้ามอง
gadfly
จากกรณีของ อ.สายพิณ จนถึงกรณีของ อ.ลลิตา รวมแล้วน่าจะประมาณกว่าสองทศวรรษ เวลาสองทศวรรษสำหรับบ้านเมืองอื่น ผมเชื่อว่าสถานการณ์ การรับรู้ ทัศนะคติ หรือโครงสร้างทางการเมือง-วัฒนธรรม ของพวกเขาน่าจะเปลี่ยนไปเยอะแล้ว แต่สำหรับบ้านเมืองของเรา ผมเชื่อว่ารูปแบบความขัดแย้ง ปรากฎการณ์อาจเปลี่ยนไปบ้าง แต่โดยแก่นแท้แล้วยังคงเหมือนเดิม