Skip to main content

ผมคิดว่าผู้ที่ให้บทเรียนที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่สนับสนุนการรัฐประหาร ก็คือ ทหาร รัฐบาลทหาร และ ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯที่พวกเขาสร้างขึ้นมาเอง
นโยบายและความล้มเหลวทางนโยบายหลายๆด้านได้ส่งผลกระทบถึงผู้สนับสนุนการรัฐประหารโดยตรง ทั้งราคาพืชผล (ยางพารา) นโยบายพลังงาน นโยบายการเก็บภาษีที่อยู่อาศัย การไล่รื้อย่านการค้าที่เป็นฐานมวลชนของ กปปส.ฯลฯ

ข่าวเมื่อวานนี้ก็คือคนที่ประกาศชัยชนะบนเฟซบุ๊กในวันรัฐประหาร 22 พฤษภา ต้องถูกทหารเรียกรายงานตัวเสียเอง สำหรับคนถือปืนแล้วเขาไม่สนใจว่าคุณถือมือตบหรือห้อยนกหวีดหรอก สำหรับเขา ปืนในมือก็คือกฎหมาย!

ช่างดูเหมือนจงใจเลือกปฏิบัติสาดส่ายจ่ายแจกให้กับพวกเขาคนดีโดยถ้วนหน้า นี่ไม่นับรวมถึงอากัปกิริยาของท่านผู้นำที่ดูถ่อยสถุลย์ขัดต่อวัฒนธรรมผู้ดีเก่าที่คนชั้นกลางไทยยึดเป็นค่านิยม

ล่าสุดก็คือการรื้อฟื้นหวยออนไลน์ขึ้นมาขายในร้านสะดวกซื้อ อ้างว่ามาจากปัญหาการขายหวยเกินราคา และให้เป็นความหวังของคนจน  นี่มันนโยบายต่อยอดจากระบอบทักษิณชัดๆ ให้ร้านสะดวกซื้อขายนี่เอื้อต่อกลุ่มทุนผูกขาดรึเปล่า  ยังไม่เห็นมีหมาหน้าไหนออกมาตั้งคำถาม

จนผมชักเริ่มจะสงสัยว่าทักษิณซื้อประยุทธ์ไปแล้ว หรือไม่ก็ทักษิณคงจะจ้างวานให้ประยุทธ์ทำรัฐประหารยึดอำนาจไปจากน้องสาวของเขาเอง devil

บรรพต ผู้ต้องขังคดี112 พูดผ่านช่องลูกกรงให้ผมฟังว่ากฎหมาย นโยบายการพัฒนาต่างๆ ต้องอาศัยจังหวะออกในช่วงนี้ เพราะในรัฐบาลประชาธิปไตยไม่สามารถออกกฎหมายอะไรพวกนี้ได้หรอกเพราะมันมีคนค้านเยอะ แกบอกว่าเสื้อแดงอย่าไปค้านให้อยู่นิ่งๆ

กฎหมายสารพันก็เลยไหลทะลักออกมาเหมือนอาการอาหารเป็นพิษ หน้าเขียวหน้าเหลืองเหมือนผู้ป่วยอหิวาต์ ต้องนอนให้น้ำเกลือไปตามกัน

ถ้าไม่พากันบ้าจี้ออกมาเป่านกหวีดกันก็คงจะไม่ชิบหายป่นปี้กันอย่างนี้ และช่างเป็นเรื่องน่าสมเพชไม่น้อยว่านโยบายใดที่ออกมาจากรัฐบาลเลือกตั้งพวกเขาจะค้าน หัวชนฝา แบบว่าไม่ยอมอยู่ร่วมโลก แต่ถ้าเป็นนโยบายที่ส่งผลกระทบเดียวกันที่ออกมาจากรัฐบาลทหารพวกเขากับเงียบกริบ อย่างมากก็อาจจะมีเสียงครวญครางออกมาเล็กน้อย

หรือว่าจริงๆแล้วพวกเขามีรสนิยมทางการเมืองที่พิศดารไปเล็กน้อยเท่านั้นเอง  เพียงแค่พวกเขาชอบสังวาสกับปากกระบอกปืน

หรือว่าลึกๆแล้วเสียงครวญครางอาจไม่ได้แสดงนัยถึงความเจ็บปวดเท่านั้น แต่ยังแสดงความพึงใจอยู่ในที

ทั้งหมดทั้งมวล ผมไม่ได้ต้องการเย้ยหยันพวกเขา เพียงแต่ผมคิดติดตลกว่ารากฐานประชาธิปไตยที่มั่นคงนั้น อาจไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งแบบถูกทำนองคลองธรรม แต่กลับถูกสร้างขึ้นมาโดยรัฐบาลเผด็จการทหาร

เวลานับสิบปีที่พวกเขาอยู่กับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ไม่ได้ช่วยให้พวกเขาได้เรียนรู้ถึงการให้ความสำคัญกับสิทธิเสียงของเพื่อนมนุษย์คนอื่นๆเท่ากับเวลาปีเดียวภายใต้ท็อปบู๊ททหาร

ถ้าระบอบประชาธิปไตยคืออนาคตของมนุษยชาติ รัฐบาลประยุทธ์อาจเป็นผู้ลงหลักปักฐานความคิดประชาธิปไตยในกมลสันดานของพวกเขาก็เป็นได้

 

 

บล็อกของ gadfly

gadfly
เห็นมีเรื่อง พ่อ-ลูก ซึ้งบ้างไม่ซึ้งบ้าง ฮาบ้างไม่ฮาบ้าง คิดถึงคนที่ไม่มีพ่อ หรือคนที่พ่อไม่ค่อยมีดีอะไรให้อวดนัก แล้วเลยไพล่ไปนึกถึงพี่สุรพล จึงขออนุญาตรำลึกถึงความสัมพันธ์ของพ่อลูกคู่หนึ่งที่ผมสามารถทำได้เพียงเฝ้ามอง
gadfly
จากกรณีของ อ.สายพิณ จนถึงกรณีของ อ.ลลิตา รวมแล้วน่าจะประมาณกว่าสองทศวรรษ เวลาสองทศวรรษสำหรับบ้านเมืองอื่น ผมเชื่อว่าสถานการณ์ การรับรู้ ทัศนะคติ หรือโครงสร้างทางการเมือง-วัฒนธรรม ของพวกเขาน่าจะเปลี่ยนไปเยอะแล้ว แต่สำหรับบ้านเมืองของเรา ผมเชื่อว่ารูปแบบความขัดแย้ง ปรากฎการณ์อาจเปลี่ยนไปบ้าง แต่โดยแก่นแท้แล้วยังคงเหมือนเดิม