“ปากน้ำระนองเลยพี่” เลิศ หนุ่มน้อยหุ่นทรงกระบอกแนะนำ
“เหรอ ไกลมะ” ผมถาม
“ไม่เท่าไร รับรองสวย พี่”
ปากน้ำระนอง ห่างจากตัวเมืองราวขับรถ 10 นาที บนถนนเลียบเนินจะมองเห็นตัวเมืองระนองกลางขุนเขาโอบล้อมอย่างชัดเจน
ระนองเป็นเมืองชายแดนพม่าฝั่งทะเลอันดามัน ร้อนและชื้น จนได้ชื่อว่า เมืองฝน 8 แดด 4 (อันที่จริง เมืองชายฝั่งทะเลภาคใต้ก็ฝน 8 แดด 4 กันแทบทั้งนั้น) ฝนตกชุก ทั้งหนักและพรำๆ ในช่วงที่ผมอยู่ที่นั่น ระนองติดกับประเทศพม่าบริเวณเมืองทวายโดยมีเกาะสองกั้นเป็นพรมแดนธรรมชาติและชายฝั่งที่ทอดยาวจรด จ.พังงา เดินทางไม่ยากเพราะมีบริษัททัวร์บริษัทเดียวที่ให้บริการ 2 รอบ คือ เช้าและบ่าย
สำหรับคนที่นี่ แรงงานพม่า คือ ผู้ทำเงิน เศรษฐกิจระนองอยู่ได้ด้วยแรงงานพม่าที่เข้ามาทำงานและจ่ายสินค้ากับการค้าขายแนวชายแดนพร้อมทรัพยากรทางทะเลที่มีมหาศาล
“ระนองมักจะเป็นตัวเลือกท้ายสำหรับนักท่องเที่ยว” เลิศ หนุ่มน้อยไกด์คนเก่งจากเทศบาลเริ่มโอ่และภาคภูมิในความเป็นคนระนอง
“ทำไม”
“มันไม่ทันสมัย ไกลและมีคนพม่า แต่....” เขาหยุดชั่วคราวเพื่อให้ผมได้คิด
“หากใครมาแล้วไม่อยากกลับไป”
“ใช่ดิ เพราะมันไกลนี่หว่า” ผมหยอก
“ไม่ใช่เพ่ ไม่กลับเพราะสาวพม่าผิวเนียน” เลิศหมายความตามนั้น
ท้องฟ้าบริเวณชายฝั่ง
2 ภาพนี้ถ่ายมุมสูงจากหอตรวจการณ์สินค้าของศุลกากรที่เห็นเป็นแนวข้างหน้าเกาะสองประเทศพม่า
ปากน้ำ จ.ระนองในอิริยาบถและห้วงเวลาต่างๆ