ไม่แน่ใจหรอกว่าเคยไปแม่ฮ่องสอนมากี่ครั้งกันแน่ รู้แต่เพียงว่า เพราะความที่มันไกลเสียจนมีคนร่ำลือถึงได้พยายามดั้นด้นไปให้ถึง ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง (ก็ยังอ๊วกเหมือนเดิม อิ อิ)
...
“หากผมมีโอกาสได้แต่งงานนะ ผมจะแต่งที่แม่ฮ่องสอน”
“เออ คุณไม่ต้องส่งการ์ดเชิญมาให้ผมนะ ไกลชิบ”
“เฮ้ย มันมีเครื่องฯ .. บินถึง ..”
“เออ ผม เมาเครื่อง”
...
ห่างออกจากปายเพียงไม่กี่กิโลเมตร คุณจะพบอีกโลกของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ที่เต็มไปด้วยรักและแรงศรัทธา ปนเปื้อนหยาดเหงื่อและน้ำตา ทั้ง 2 ถูก เปรียบเปรยอย่างติดตลก “สรวงสวรรค์และนรก” (เอ่อ อย่างไหนสวรรค์ อย่างไหนนรก คิดกันเอาเองนะครับ)
...
ถนนโค้งมากกว่าพันกิโลเมตร ซ่อนรอยยิ้มของชาวเขาผู้ขายของริมทาง เมื่อนักท่องเที่ยวหยุดพักดูทิวทัศน์ หลังภูเขาสลับซับซ้อน ลูกแล้วลูกเล่า ลูกและสามีของเธอรออยู่ที่นั่น
...
“โซไรด้า เขียนแคนโตให้ 5 บทจิ”
“ไงพี่”
“เอาเกี่ยวกะแม่ฮ่องสอนนะ การเดินทางบนเส้นทางคดเคี้ยวของจิตวิญญาณ”
“ได้ๆ ขอเวลา 20 นาที ขอกินมาม่าเจก่อน”
20 นาทีผ่านไป
...
1,
ปีนป่ายความฝัน …
ไกลถึงเมืองสามหมอก
หนเดียวในชีวิต
2,
หากฉันหยุดทุกอย่างไว้ที่นั่น
ตัวตนที่เหลือ …
จะยังอยู่จนถึงปัจจุบันไหม
3,
ใครต่างบอก …
เมืองสามหมอกงดงามดังภาพฝัน
สำหรับฉันมัน คือ ความจริงต่างหาก
4,
เก็บความหวังมาจนถึงตีนดอย
และทิ้งทุกอย่างไว้ตรงนั้น …
เมื่อตีนสัมผัสหินและแม่น้ำ
5,
จับมือเธอเดินไปตามทางใบไม้
สายตาเรามองไกลออกไป
เท่าที่หัวใจจะกางไปถึง …
6,
อบอุ่นเกินจะเอ่ยอะไรออกมา
เมื่อเม็ดหมอกกระเซ็น
ตามใบหน้า…
7,
เธอคงไม่อยากให้เราจบลงแบบนี้
แบบที่ลมเอื่อยๆ พัดเอาใบไม้ไปทิ้งกลางสายน้ำ ...
และเรากำลังผิวปากร้องเพลง
8,
ความรักสิ้นสุดลงแล้ว …
เมื่อฉันเดินลงจากดอย
และเธอเดินขึ้นภูสูงลูกนั้น
9,
สองข้างทางสร้างประติมากรรมมากมาย
ทั้งประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม …
ซึ่งล้วนข้องเกี่ยวกับรักและศรัทธา
10,
ฉันจะบอกอะไรให้
เมื่อมนุษย์สร้างตึกได้
เมืองแห่งนี้ก็สร้างจิตวิญญาณฉันได้เช่นกัน
…