Skip to main content
  โดย เพณิญ

 

 

 

           ในสถานการณ์แบบนี้ ตัวละคร' ที่น่าจับตามองและได้รับความนิยมอย่างมาก คงหนีไม่พ้น อาซาคุระ เคตะ' นายกรัฐมนตรีหนุ่มสุดหล่อแห่งประเทศญี่ปุ่น และ ลีซาน' พระราชาผู้เป็นที่รักของประชาชนมากที่สุดในประวัติศาสตร์เกาหลี

            ตัวละคร' ทั้งสองปรากฏตัวอย่างมีนัยยะสำคัญและเป็นที่กล่าวขวัญถึงเป็นอย่างมาก

หนึ่งคือ อาซาคุระ เคตะ' ตัวละครที่ไม่เคยสนใจการเมือง แต่ต้องก้าวเข้ามารับหน้าที่นายกรัฐมนตรีในภาวะการเมืองสูญญากาศของประเทศญี่ปุ่นจาก CHANGE ซีรี่ย์แดนปลาดิบ ซึ่งรับบทโดยพระเอกสุดเท่ห์ ทาคุยะ คิมุระ (หลังจากซีรี่ย์เรื่องนี้จบลง ทาคุยะมีชื่อติดในผลสำรวจที่ว่า อยากให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรีคนถัดไปของญี่ปุ่นมากที่สุด ในอันดับที่ 3)

อีกหนึ่งคือ ลีซาน' หรือ พระเจ้าจองโจ พระราชาเจ้าของประโยค "ข้าจะทำให้รู้ว่า ความเสมอภาคเท่าเทียม และเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น จะทำให้บ้านเมืองเจริญได้"

อันเป็นประโยคไฮไลต์จากซีรี่ย์เกาหลีเรื่อง ลีซาน จอมบัลลังก์พลิกแผ่นดิน ซึ่งประโยคนี้คงสะท้อนในใจใครหลายคนที่ได้ยินได้ฟัง เพราะนอกจากจะสะท้อนให้ย้อนกลับมาดูสถานการณ์บ้านเมืองของประเทศไทยแล้วยังสะเทือนต่อกลยุทธ์การลิดรอนเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นโดยอ้างเรื่องการรักษาความมั่นคงของชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ 

 

บทสนทนาระหว่างนายกรัฐมนตรี

            เหตุผลส่วนหนึ่งที่ทำให้กระแสตอบรับของซีรี่ย์เรื่อง CHANGE ดียิ่งกว่าราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพท์สมัยฟองสบู่ น่าจะเป็นเพราะเรื่องราวช่างเข้ากันกับสถานการณ์การเมืองของบ้านเรา ที่มีทั้งการทุจริตคอรัปชั่น มีการมุดมุ้งนี้ลอดมุ้งนั้น มีทั้งนักการเมืองอาวุโสและนักการเมืองเลือดใหม่ มีมือที่มองไม่เห็นคอยชักใยอยู่เบื้องหลัง มีการใช้วิธีการสกปรกนำเอางบประมาณลับไปใช้ มีการยุบสภา เล่ห์เหลี่ยมและกลเกมการเมืองหลากหลาย เรียกได้ว่าครบรส

            ที่สำคัญนายกรัฐมนตรีมือใหม่ หัวใจประชาชนนามว่า อาซาคุระ เคตะ' ยังได้รับฉายาว่า เจ้าชายแห่งสภา เนื่องจากความเป็นคนหนุ่มรูปหล่อ ซึ่งสอดคล้องกับความหล่อเหลาและความเป็นคนรุ่นใหม่ของนายกรัฐมนตรีไทย

            และในความเหมือนที่อาจจะแตกต่างในการสร้างความเปลี่ยนแปลงให้แก่ประเทศ ลองจินตนาการว่าหากนายกรัฐมนตรีทั้งสองมาพบกัน บทสนทนาของทั้งคู่จะเป็นอย่างไร

อาซาคุระ เคตะ : ยินดีมากที่ผมได้พบคุณ ใครๆ ต่างก็กล่าวถึงคุณ รวมทั้งมีการเปรียบเทียบกับผม

มาร์ค  :  แน่นอนเราอาจะมีลักษณะบางอย่างที่คล้ายคลึงกัน ก่อนที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรี คุณเคยเป็นครูชั้นประถม 5 ในขณะที่ก่อนหน้านี้ผมเป็นอาจารย์

อาซาคุระ เคตะ : แต่ที่ผมเห็นต่างคือ ยังไงๆ หน้าตาของคุณก็หล่อสู้ผมไม่ได้ แต่เอาเถอะผมไม่ได้อยากตอกย้ำเรื่องนี้ ผมอยากคุยเรื่องการเมืองมากกว่า

มาร์ค : ก่อนอื่น คุณช่วยเลือกประโยคประทับใจที่ทำให้คุณก้าวเข้ามารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นให้ผมฟังสักประโยคสิ เคตะ

อาซาคุระ เคตะ : ด้วยหูที่เหมือนของท่าน ผมสัญญาว่า ผมจะตั้งใจฟังเสียงที่เบาที่สุด ของผู้ที่เราเรียกเขาว่าเป็นผู้อ่อนแอ ด้วยขาสองข้างที่เหมือนท่าน ผมสัญญาว่า ผมจะวิ่งเข้าหาปัญหาต่างๆ โดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า ด้วยสองมือที่เหมือนพวกท่าน ผมสัญญาว่าจะใช้มันทำงานให้หนัก จนด้านแข็ง จนเหงื่อหยดจากมือ เพื่อจะสร้างหนทางใหม่ ที่ประเทศนี้ควรจะเป็น ทุกๆ อย่างของผม ก็จะเป็นเหมือนของท่าน

มาร์ค : เยี่ยมมาก

อาซาคุระ เคตะ : แล้วประโยคประทับใจของคุณล่ะ

มาร์ค : ผมขอยืนยันว่าผมจะทำงานให้กับคนไทยทุกคนไม่ว่าจะเลือกผมหรือไม่เลือกผม ไม่ว่าจะสนับสนุนผมหรือแม้แต่ต่อต้านผม ท่านจะเป็นใครก็ตามหากท่านไม่คิดร้ายต่อบ้านเมืองท่านไม่ใช่ศัตรูของผม และท่านเป็นอีกคนหนึ่งที่ผมจะต้องรับใช้อย่างเต็มความสามารถ (17 ธันวาคม 2551 คำแถลงการณ์เนื่องในโอกาสรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ณ พรรคประชาธิปัตย์)

อาซาคุระ เคตะ : เท่ห์ระเบิดไปเลยที่กล้าพูดอย่างนั้น เพราะคุณย่อมรู้ว่าจำนวนคนที่เลือกคุณและไม่เลือกคุณ แตกต่างกันเท่าไหร่ แล้วเรื่องของคนที่ต่อต้านคุณ ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง

มาร์ค :  บนความสูญเสียของประเทศชาติในวันนี้ ใครก็ตามที่ประกาศชัยชนะ ผมถือว่าคน ๆ นั้นหรือกลุ่มคนเหล่านั้นคือศัตรูของประเทศไทยที่แท้จริง ไม่ว่าผมจะอยู่ในสถานะใด ผมจะไม่ยินยอมให้คนที่คิดร้ายกับประเทศไทยสามารถมามีอิทธิพลหรืออำนาจเหนือ ความเป็นอยู่ของชีวิตของประชาชนคนไทย และผมจะถือเป็นความรับผิดชอบสูงสุดที่จะเอาความสงบเรียบร้อยกลับคืนมาบนความถูกต้องเท่านั้น (11 เม.ย. 52 ณ โรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท จังหวัดชลบุรี)

อาซาคุระ เคตะ : การปิดสถานีโทรทัศน์และเวปไซต์ต่างๆ เป็นหนึ่งในวิธีการสร้างความสงบเรียบร้อยที่คุณหมายถึงด้วยหรือ

มาร์ค :  ผมไม่คิดว่าคุณจะอนุญาตให้คนในประเทศของคุณไปออกวิทยุหรือทีวี แล้วพูดว่าไปเผาที่นั่นที่นี่กันเถอะ ไปฆ่าใครสักคนกันเถอะ (เดือนเมษายน 2552 คำให้สัมภาษณ์นิตยสารไฟแนนเชียล ไทมส์)

อาซาคุระ เคตะ : เอาเถอะ สำหรับผมนะ ผมรู้ว่าการที่ผมรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเพราะผมต้องการทำงานโดยใช้หัวใจของประชาชนคนหนึ่ง และผมไม่มีทางเป็นหุ่นเชิดให้ใคร การเมืองทุกวันนี้ไม่ว่าจะเป็นประเทศไหนก็คงประสบปัญหาคล้าย ๆ กัน คำว่าประชาชนนั้นหายไป หรือไม่ก็ไม่มีความหมายเลย นักการเมืองไม่ว่าจะอยู่ฝั่งไหนต่างเล่นการเมืองมากกว่าจะสนใจ และใส่ใจเจตจำนงของประชาชน

หมายเหตุ : บทสนทนาของมาร์ค เป็นบทสัมภาษณ์ที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ตอบคำถามต่อสื่อมวลชนหรือพูดต่อสาธารณะ หากแต่นำมาเรียบเรียงใหม่

 

ประโยคดีๆ จากพระราชา

กลับมาที่ ลีซาน จอมบัลลังก์พลิกแผ่นดิน ซี่รี่ส์จากแดนกิมจิที่ดำเนินเนื้อเรื่องอย่างเข้มข้น โดยอิงประวัติศาสตร์เกาหลีในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 ซึ่งเป็นรัชสมัยของ พระเจ้าจองโจ (ลีซาน) พระราชาลำดับที่ 22 ของราชวงศ์โชซอน ซึ่งในประวัติศาสตร์ห้าร้อยปีของราชวงศ์โชซอน  พระเจ้าจองโจนับว่าทรงเป็นพระราชาที่ทรงประสบมรสุมและปัญหาต่าง ๆ มากที่สุดพระองค์หนึ่ง  แต่ด้วยความที่ทรงมีปณิธานอันมุ่งมั่นที่จะทำให้ประชาชนของพระองค์มี ชีวิตที่ดีขึ้น พระองค์จึงทรงพยายามที่จะการปฏิรูปและปรับปรุงประเทศชาติในด้านต่างๆ ทั้งในด้านการปกครอง พระองค์ทรงสลายความบาดหมางของกลุ่มอิทธิพลต่าง ๆ ที่สั่งสมมานานนับร้อยปีลงได้ ทางด้านเศรษฐกิจ พระเจ้าจองโจก็ทรงบุกเบิกเศรษฐกิจแนวใหม่ ซึ่งนับว่าแปลกใหม่ในศตวรรษที่ 18

            พระเจ้าจองโจทรงสร้างความแข็งแกร่งเกรียงไกรให้กับกองทัพ สร้างความเป็นปึกแผ่นให้ชาติบ้านเมืองและด้วยความที่พระองค์ทรงเป็นพระ ราชาที่มีความคิดก้าวหน้า อีกทั้งทรงเป็นพระราชาผู้ปกครองอาณาจักรด้วยความโอบอ้อมอารีโดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ทรงใช้หลักประชาธิปไตยในการปกครองประชาชนของพระองค์ จึงทำให้พระองค์กลายมาเป็นพระราชาที่ได้รับการสรรเสริญว่าเป็นพระราชาที่ เป็นที่รักของราษฎร์มากที่สุดพระองค์หนึ่งในประวัติศาสตร์เกาหลี

           นอกเหนือจากเรื่องราวการเมืองการปกครองที่เข้มข้นแล้ว ลีซาน จอมบัลลังก์พลิกแผ่นดิน ยังมีบทสนทนาเกี่ยวกับการปกครองบ้านเมืองที่โดดเด่น ซึ่งจะขอยกมาเป็นตัวอย่างดังนี้

 

"ข้าจะไม่ให้เลือดและหยาดเหงื่อของพวกเขาไร้ค่า"

"ข้าจะมอบโลกที่ปราศจากการทุจริตและการโป้ปดแก่พวกเขา"

"ข้าจะสร้างโลกที่ไม่มีคนหิวโหย การแบ่งแยก หรือ ความกังวล"

 

"เจ้ารู้หรือไม่ว่า เหตุใดคนเราถึงได้เปลี่ยนไปเมื่อมีอำนาจ เพราะมันสามารถใช้เป็นทางลัด ทำให้สะดวกรวดเร็วกว่าตอนที่ยังไม่มียังไงล่ะ อำนาจให้สิ่งนั้น เพราะเช่นนี้ยังไง ถึงไม่มีใครสามารถต่อต้านอำนาจได้ และคนเหล่านี้ถึงได้เปลี่ยนไป"

 

และใครยังติดใจในประโยคโดนๆ แบบนี้ก็ติดตามได้ใน ลีซาน จอมบัลลังก์พลิกแผ่นดิน

 

..............................................................................................................................................

 

 


CHANGE นายกมือใหม่ หัวใจประชาชน

 

เรื่องราวของ อาซาคุระ  เคตะ  คุณครูชั้นประถมศึกษา ลูกชายคนที่ 2 ของเลขาธิการพรรครัฐบาล ที่ไม่สนใจการเมือง แต่อยู่ๆ ก็มีเหตุที่ทำให้ต้องก้าวเข้ามาสู้เส้นทางการเมืองที่เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยม กลโกง การคอรัปชั่น ทั้งที่ตนไม่ต้องการ แต่เขาก็ได้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในเวลาอันรวดเร็วจนแทบตั้งตัวไม่ทัน เมื่อถึงจุดนี้แล้ว เขาจะต้องทำอย่างไร เพื่อที่จะไม่ให้เป็นหุ่นเชิดของนักการเมืองที่หวังกอบโกย และเพื่อเปลี่ยนแปลงให้เป็นสิ่งที่ดีกว่า

ซีรีส์แนวการเมืองสายเลือดญี่ปุ่น บทโดย ฟุคุดะ ยาสึชิ (Hero และ Gallileo) กำกับโดย ซาวาดะ เคนซาขุ และ ฮิราโนะ ชิน (ทีมจาก HERO และ Galileo) รวมถึงได้ดาราดังอย่าง คิมุระ ทาคุยะ มานำแสดงด้วย

 

ลีซาน จอมบัลลังก์พลิกแผ่นดิน

สร้างจากเรื่องจริงอิงประวัติศาสตร์ของกษัตริย์องค์ที่ 22 พระเจ้าจองโจ หรือลีซาน แห่งอาณาจักรโชซอน ลีซานเป็นลูกชายคนเดียวของขององค์รัชทายาทแห่งโชซอน และเมื่อบิดาของเขาถูกใส่ร้าย เข้าใจผิดทำให้ถูกขังจนตาย องค์ชายน้อยจึงต้องก้าวสู่ราชบัลก์อย่างเลี่ยงไม่ได้ เขาต้องฝึกฝนเพื่อเตรียมให้เขาเป็นพระราชาที่ดี รวมถึงยังถูกปองร้ายโดยคนที่ต้องการกำจัดเขาให้พ้นจากตำแหน่ง โชคดีที่เขามีทั้งเพื่อนคู่กายและสหายคู่ชีวิตต่อมาพระองค์ก็ได้เป็นกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโชซอน ผู้ทำให้เกิดความเฟื่องฟูความรู้ทางศิลปวัฒนธรรม ได้มีการปฏิรูปหน่วยงานต่างๆ และวางรากฐานการปกครองให้กับอาณาจักร พระองค์ย้ายศาลของเมืองซูวอนโทมาไว้ใกล้กับสุสานของพระบิดา อีกทั้งพระองค์ยังสร้างป้อมปราการ ฮวาซอง ไว้พิทักษ์สุสาน ในปัจจุบันสถานที่นี้องค์การ ยูเนสโก ประกาศให้เป็นมรดกโลกอีกด้วย

พระเจ้าจองโจ (ลีซาน) รับบทโดย ลีโซจิน (DAMO) พระมเหสีโยอึย รับบทโดย ปัก อึนฮเย (แดจังกึม) ทั้งยังมี ลีซุนเจ (คนดีที่โลกรอหมอโฮจุน) รับบทเป็น พระเจ้ายองโจ (ปู่ของพระเอก) ผู้เปิดเรื่องเลยทีเดียว รวมถึง คยอนมีรี (แดจังกึม, จูมง) ในบทพระนางเฮคยอง

             

 

บล็อกของ Hit & Run

Hit & Run
 นายหอกหัก (จูเนียร์)     เห็นเด็กๆ สมัยนี้ออกมารณรงค์เรื่องการเมือง แล้วมันช่างน่าอิจฉาซะกระไร!เพราะมีสื่อทั้งผู้จัดการ ASTV เนชั่น TPBS และอื่นๆ อีกมากมายคอยประคบประหงมให้เขาเป็นดาราเพียงชั่วข้ามคืนไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเยาวชนขวาใหม่จัดคลั่งชาติคลั่งสถาบันอย่าง ยังแพด (Young pad) และอีกสารพัดของกลุ่มพลังนิสิต นักศึกษาชนชั้นกลาง ที่ละจากการโฉบเฉี่ยวสร้างความเท่ เก๋ไก๋ จากการฟังเพลงอินดี้ ดูหนังนอกกระแส แต่งตัวอย่างมีเทรนด์ มีสไตล์ มาช่วยกันขับเคลื่อนการเมืองใหม่ รัฐบาลประชาภิวัฒน์ ระบอบ 70: 30 ให้กับพวกพ้องพ่อแม่ญาติพี่น้องพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย…
Hit & Run
< จิรนันท์ หาญธำรงวิทย์>แบนเกมมาริโอ้ เหตุเด็กประถมกระโดดเอาศีรษะกระแทกอิฐ ไล่เตะเต่าและตะพาบ ซ้ำยังเอาแต่กินเห็ด เพราะอยากตัวสูง เลียนแบบเกมมาริโอ้ แบนอิคคิวซัง เหตุเด็กอนุบาล หวังฉลาดแบบอิคคิว เอานิ้วแตะน้ำลายถูรอบศีรษะจนเป็นขี้กลาก แบน นสพ.หัวสีรุ้ง หลังพบเด็กมัธยม อ่านข่าวข่มขืนแล้ว อยากทำตาม เพราะบรรยายอย่างละเอียด (เหตุการณ์สมมติ) ถ้าสังคมนี้ แก้ไขทุกอย่างด้วยการชี้นิ้วหาคนผิด และแบนสิ่งนั้นๆ เสีย ก็คงง่ายดีพิลึก ต่อไปสังคมก็คงใสสะอาด เต็มไปด้วยคุณธรรมสูงส่ง จริงหรือ?
Hit & Run
 มุทิตา เชื้อชั่ง   รู้ว่าหลายคนเห็นความไม่ถูกต้อง รู้สึกได้ถึงหายนะ แต่ไม่มีใครจัดการอะไรกับพวกเขาซักคน.......ถ้าไม่เพราะกลัวเครือข่ายอันกว้างขวางของพวกเขา ก็อาจเพราะไม่อยากเป็นเป้า ถูกโจมตีเสียเอง มันไม่ใช่เรื่องสนุกที่ต้องคัดง้างกับพวกนักบุญที่แสนอาฆาตมาดร้าย ป่าเถื่อน ราวกับหลุดมาจากยุคกลางแต่มันก็น่าสำรอกไม่หยอก ที่เขาทำตัวเป็นผู้จงรักภักดีกับอะไรต่อมิอะไรมากมาย มากกว่าคนอื่นๆ และเล่นงานศัตรูของเขาด้วยการตระเวรพูด พูด พูด พูด พูดทุกคืน ทุกวัน ทุกชั่วโมง ไม่หยุดหย่อนถึงความชั่วร้ายเลวทรามของศัตรู ง่ายๆ แบบสีขาว-สีดำ ใครก็ตามที่เขาเห็นว่าไม่ถูกต้องตามนิยามที่พวกเขาตั้งขึ้น…
Hit & Run
ภาพันธ์ รักษ์ศรีทอง   แล้ววันสำคัญทางพุทธศาสนาก็วนเวียนมาบรรจบอีกครั้งหนึ่งในรอบสองพันห้าร้อยห้าสิบเอ็ดปีหลังพระพุทธเจ้าเสด็จสู่นิพพาน เป็นความน่ายินดีที่รัฐไทยซึ่งประกาศตัวเป็นพุทธมามกะประกาศให้เป็นวันหยุดเพื่อแสดงความเคารพอย่างสำคัญและจะได้เปิดโอกาสให้ไปทำบุญทำทานกันตามธรรมเนียมประเพณี แต่สิ่งหนึ่งที่น่าเบื่อหน่ายพ่วงตามมากับบรรยากาศแบบนี้คือไม่สามารถไปหาซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาดื่มกินตามวิสัยได้ เนื่องจากเมื่อปีก่อนรัฐบาลคุณธรรมผลักดันจนมีกฎหมายมาบังคับ ทั้งที่เรื่องของศาสนาและแนวทางการปฏิบัติควรเป็นเรื่องของส่วนบุคคลเสียมากกว่า…
Hit & Run
  คิม  ไชยสุขประเสริฐ   5 ก.ค. 51  เยือนโขงเจียม แดนตะวันออกสุดเขตประเทศไทย ที่ว่ากันว่าเห็นตะวันก่อนใครในสยาม (อีกครั้ง) แล้วเวลาแห่งการรอคอยของชาวบ้านปากมูนก็มาถึง เมื่อประตูบานเขื่องทั้ง 8 บานของ "เขื่อนปากมูล" ถูกยกขึ้นเพื่อปลดปล่อยฝูงปลาให้เวียนว่ายท้าทายกระแสน้ำขึ้นสู่ต้นน้ำตามวัฎจักร ได้เริ่มต้นมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตามมติของคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำเขื่อนปากมูล หลังจากที่ "เขื่อนปากมูล" ต้องถูกปิดมากว่า 1 ปีเต็ม  ที่ผ่านมา "เขื่อนปากมูล" กับการต่อสู้ของ "ไทบ้านปากมูน" เป็นที่รับรู้มานานปี และดูเหมือนว่าวันนี้…
Hit & Run
  เมื่อหนุ่มน้อย "สี TOA" เขียนจดหมายถึง "ศรีบูรพา" ว่าด้วยความสับสนและอคติต่ออุดมการณ์สื่อ
Hit & Run
< แสงธรรม > 20 มิถุนายน 2551ฉันได้รับการแจ้งข่าว ชาวบ้านในหมู่บ้านชายแดนไทย – พม่า ด้านที่ติดกับรัฐฉาน พบกลุ่มเด็กชายและหญิงจำนวน 5 คน วิ่งมาจากอีกฝั่งแล้วข้ามเข้ามาในเขตไทยดูเหมือนพวกเขาวิ่งหนีบางสิ่งบางอย่างชาวบ้านมาพบเด็กกลุ่มนี้เข้า พบว่าเป็นเด็กชาวว้า0 0 0
Hit & Run
จิรนันท์ หาญธำรงวิทย์    แถลงการณ์ ฉบับที่ 0.17 จากประชาชนผู้รักชาติ รักประชาธิปไตย รักหมา รักแมว รักสิ่งแวดล้อม จนอาจลืมรักเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน (ไปบ้าง)   เนื่องด้วยประเทศไทยอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่ต่างคนต่างก็ออกแถลงการณ์แสดงความเห็นต่อปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเป็นอุบัติการณ์ ประชาชนผู้รักชาติ รักประชาธิปไตย รักหมา รักแมว รักสิ่งแวดล้อม จนอาจลืมรักเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน (ไปบ้าง) (ป.ป.ช.ผ.ร.ช.ร.ป.ช.ต.ร.ม.ร.ม.ร.ส.ว.ล.) จึงเห็นว่า ควรออกแถลงการณ์กับเขาบ้าง โดย ป.ป.ช.ผ.ร.ช.ร.ป.ช.ต.ร.ม.ร.ม.ร.ส.ว.ล. มีข้อสังเกตต่อการออกแถลงการณ์ ดังนี้
Hit & Run
< กรกช  เพียงใจ>ขณะใครเปล่งเสียงสู้เพื่อกู้ชาติขณะใครร่วมพิฆาตมาดมารร้ายขณะนั้นเขายืนอยู่อย่างเดียวดายกลางผืนทราย ฝูงยุง ทุ่งพระสุเมรุไม่มีศิลปินใดร่ายบทกวีไม่มีวงดนตรีระเริงเล่นมีเพียงเหล่าคนยากที่ชัดเจนจากหลืบเร้นเหม็นสาบวิบากกรรมหรือเขาเป็นคนทุกข์ผู้โฉดเขลาหลงมัวเมาประชานิยมจนถลำหรือเขาคือผู้ยึดถือในถ้อยคำจึงชอกช้ำ ‘ประชาธิปไตย’ ช่างเปล่ากลวงหรือเขาคือฝูงคนผู้หลงผิดผู้ยึดติดเงินตราดังค่าหลวงพวกป่าเถื่อนเกลื่อนกลาดอนาจทรวงคอยทะลวงสู้ตายกับลายพรางรู้เพียง...คนว่า…
Hit & Run
ภาพันธ์ รักษ์ศรีทอง >ความมืดเริ่มแผ่ปกคลุมรอบๆบริเวณ หญิงเฒ่ากำเศษเหรียญจำนวนสามบาทห้าสิบสตางค์เอาไว้ในมือ สายตามองตามรถปรับอากาศติดแอร์สีส้มสาย 60 ที่เพิ่งผ่านไปอย่างเลื่อนลอย แต่ด้วยจำนวนเงินที่มีในมือคงทำได้เพียงอดทนรอเหมือนที่ริ้วรอยย่นบนหน้าผากและผิวพรรณที่แห้งกร้านแสดงออกมาทั้งชีวิต การรอคอยยังมีความหวัง เพราะอีกไม่นานรถเมล์คันสีแดงคงจะขับผ่านมาอีกรอบ เมื่อไม่นานมานี้เองเศษเงินราคาไม่ถึงห้าบาทยังเต็มเปี่ยมไปด้วยความหวังของเส้นทางกลับบ้าน� �เพียงกระพริบตากาลเวลาก็ล่วงผ่าน ถึงพุทธศักราช 2551 ภายในรอบครึ่งปีแรก ราคาน้ำมันในตลาดโลกทุนนิยมเสรีถีบตัวขึ้นสูงลิ่วจ่อทะลุ 40…
Hit & Run
ชูวัส ฤกษ์ศิริสุขบางคนบอกว่าโลกใบนี้คือโรงละคร และก็มีบางคนที่เห็นว่ามันคือ ‘คุก’ และคุณว่ามันคืออะไร 0 0 0
Hit & Run
ภาพันธ์ รักษ์ศรีทองเพื่อนนักโบราณคดีส่งภาพความเสียหายที่ ‘ปราสาทหินพนมรุ้ง’ จังหวัดบุรีรัมย์มาให้ดูอย่างเศร้าๆ สะพานนาคราชชั้นที่ 1, 2 และ 3 เศียรนาคถูกตีใบหน้าตรงส่วนปากกึ่งจมูก เสียหายไป 13 เศียร โคนนทิ พาหนะแห่งองค์ศิวะถูกตีทำลายบริเวณใบหน้า ส่วน ‘แท่งศิวลึงค์’ ศูนย์กลางแห่งจักรวาลในไศวะนิกาย สัญลักษณ์แห่งองค์ศิวะถูกเคลื่อนย้ายจากตำแหน่งเดิมบนฐานโยนีแล้วเอาลงไปวางไว้ในร่องน้ำมนต์ ข้างนอกปราสาทแม้แต่ทวารบาลผู้รักษาประตูประจำทิศใต้ก็ไม่อาจรักษาดูแลตัวเองได้ แขนและมือถูกทำลายมือข้างหนึ่งถูกวางไว้ที่สะพานนาคราชชั้นที่ 1 มืออีกข้างถูกเอาไปวางที่สะพานนาคราชชั้นที่ 2 ด้านทิศเหนือ…