Skip to main content
 
บทความ “A Sea of Dissent: nonviolent waves in China” ของ Michael Caster นักวิจัยและเคลื่อนไหวอิสระผู้เน้นศึกษาเรื่องความขัดแย้งและสิทธิมนุษยชนโดยเฉพาะในเอเชีย ได้ประมวลข้อมูลและวิเคราะห์การเคลื่อนไหวมวลชนระยะใกล้ในจีนไว้อย่างน่าสนใจ ผมขอนำมาเล่าต่อบางส่วนดังนี้ 
 
-ซุนหลินปิง นักสังคมวิทยาชาวจีน ประเมินว่าจำนวน “กรณีมวลชน” ทั่วประเทศจีนได้ทะลุเลย ๑๘๐,๐๐๐ ครั้งไปแล้วเฉพาะในปี ค.ศ. ๒๐๑๐ มากกว่าสองเท่าของเมื่อปี ค.ศ. ๒๐๐๖ เสียอีก
 
-ขณะเดียวกัน งบประมาณแผ่นดินจีนที่จัดสรรให้งานรักษาความมั่นคงภายในในปี ๒๐๑๓ ก็ขึ้นถึง ๑๒๔,๐๐๐ ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ สูงกว่างบประมาณทหารเพื่อป้องกันประเทศจากภัยภายนอกด้วยซ้ำไป
 
-เหตุแห่งความทุกข์ยากเดือดร้อนขัดแย้งจนนำไปสู่การเคลื่อนไหวลุกฮือของมวลชนจีนมีหลายประการ เรียงตามลำดับจากหนักไปเบาได้ดังนี้: 
 
๑) การรื้อไล่บ้านช่องที่อยู่อาศัยของชาวบ้านอย่างผิดกฎหมายเนื่องจากการพัฒนาและสร้างเมืองอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นทุจริตฉ้อฉลหากำไรจากโครงการพัฒนาผิดกฎหมายและปราบปรามชาวบ้านที่ต่อต้านอย่างโหดร้าย คุมขังชาวบ้านโดยพลการ ล่วงล้ำความเป็นส่วนตัวของประชาชน 
 
๒) การรุกล้ำยึดครองที่ดินและเอาเปรียบแรงงาน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่ต้องรับผิด, แรงจูงใจให้ได้พัฒนาอย่างรวดเร็ว, สหภาพแรงงานถูกพรรคคุม ไม่เป็นอิสระ, คนงานอพยพจากชนบทกว่า ๒๕๐ ล้านคนมีสิทธิจำกัดเนื่องจากระบบหูโข่ว (ระบบจดทะเบียนภูมิลำเนาท้องถิ่น), ศาลตุลาการไม่เป็นอิสระ
 
เกี่ยวกับเหตุ ๒ ข้อแรกนี้ ขอขยายข้อมูลการวิเคราะห์ว่ารัฐบาลท้องถิ่นทั่วประเทศจีนริบยึดที่ดินจากชาวบ้านชนบทโดยมิชอบราว ๓ – ๔ ล้านคนทุกปี, ทั่วประเทศมีชาวนาพลัดถิ่นด้วยเหตุนี้ราว ๕๐ ล้านคน, ๖๕% ของการประท้วงแต่ละปีก็เกิดจากเหตุนี้ สาเหตุเบื้องลึกเกิดจากรัฐบาลกลางยกเลิกภาษีเกษตรกรรมในปี ๒๐๐๖ รัฐบาลท้องถิ่นจึงหันไปหารายได้จากการขายที่ดินในท้องที่ให้นักพัฒนาอสังหาฯแทน จนรายได้จากการขายที่ดินอยู่ระหว่าง ๔๐ – ๗๔% ของรายได้รัฐบาลท้องถิ่นจีนทั้งหมด เมื่อประจวบกับรัฐบาลกลางเดินนโยบายลดความร้อนแรงของตลาดอสังหาฯลงด้วยมาตรการการเงิน/ดอกเบี้ย ส่งผลกระทบให้รายได้รัฐบาลท้องถิ่นลดลง แต่ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นกลับถูกประเมินผลงานจากการที่ตนกระตุ้น GDP ให้โตขึ้นได้เท่าไหร่ พวกเขาจึงหาทางออกโดยริบยึดที่ดินชาวบ้านไปขายให้นักพัฒนาฯโดยไม่จ่ายชดเชยชาวบ้านอย่างคุ้มค่าเป็นธรรมแทน
 
๓) การบอยคอตสินค้าแบบชาตินิยม มักพุ่งเป้าใส่ญี่ปุ่นเป็นหลัก
 
๔) ขาดเสรีภาพในการแสดงออก โดยเฉพาะทางสื่อมวลชนและการเซ็นเซ่อร์ชุมชนพลเมืองเน็ตออนไลน์ ทำให้คนชั้นกลางจำนวนมากที่ไม่สนใจการเมืองมาก่อนได้รับผลกระทบแรงกระแทกจากรัฐอำนาจนิยมลิดรอนสิทธิเสรีภาพจนกลับตื่นตัวเป็นนักเคลื่อนไหวไป เช่น เฉพาะเดือนส.ค. – ก.ย. ศกนี้ ทางการก็ได้ระดมจับกุมและกักบริเวณพลเมืองเน็ตจีนไปแล้วกว่า ๔๐๐ คน
 
๕) ปัญหาสิ่งแวดล้อมและสาธารณสุขซึ่งกระทบคนวงกว้างและเป็นช่องให้เกิดการเคลื่อนไหวรณรงค์ได้ยั่งยืน
 
ยุทธวิธีเคลื่อนไหวรณรงค์ของมวลชน มีอาทิ:
 
-ทำหนังสือร้องทุกข์ต่อทางการ
-แขวนป้ายผ้าในที่สาธารณะ
-ออกคำแถลงและจดหมายเปิดผนึกลงชื่อเป็นบัญชีหางว่าว
-ปฏิบัติการรวมหมู่นานารูปแบบเช่น นัดหยุดงาน, นั่งประท้วง, ปิดถนน, เดินขบวน, เปิดโรงเรียนการเมือง ฯลฯ
-ไว้อาลัยหรือไปคำนับหลุมศพบุคคลมีชื่อเพื่อแสดงออกทางการเมือง, อดข้าวประท้วง, แต่งชุดแฟนซีการเมือง, แสดงละครการเมือง
-นักกฎหมาย/นักกิจกรรมปกป้องสิทธิ์ ซึ่งคอยปกป้องสิทธิของนักเคลื่อนไหวที่ถูกรัฐข่มเหงคุกคามรังแกควบคุมตัว โดยวางบทบาทการเคลื่อนไหวของตัวเองอยู่ในระบบสถาบันของทางการ ด้วยภาษาวาทกรรมของรัฐ/พรรคผู้ละเมิดสิทธินั้นเอง
 
ตัวอย่างการเคลื่อนไหวครั้งเด่น ๆ:
 
-๒๐๐๔ คนงานหญิง ๖,๐๐๐ คนประท้วงการแปรรูปโรงงานสิ่งทอที่มณฑลกวางตุ้งเป็นของเอกชน
-๒๐๐๔ ชาวบ้านหลายร้อยที่เป็นตัวแทนชาวบ้านทั้งหมดถึง ๑๕๐,๐๐๐ คนในพื้นที่รอบอ่างเก็บน้ำฮันหยวน มณฑลเสฉวน รวมตัวกันประท้วงการบังคับขับไล่อพยพชาวบ้านและปิดถนนเข้าหลายหมู่บ้าน ตำรวจเข้าสลายการประท้วงยิงชาวบ้านตายไป ๑๗ คน บาดเจ็บ ๔๐ คน
-๖ มี.ค. ๒๐๐๖ คนงานโรงงานสิ่งทอที่ยูนนานหลายพันนัดหยุดงานเรียกร้องขอมีส่วนร่วมในการปรับโครงสร้างบริษัท
-๒๐๐๖ นักเคลื่อนไหวประสานนัดอดข้าวประท้วงใน ๑๐ มณฑลทั่วจีนเพื่อท้าทายการปราบปรามของรัฐบาลและหนุนช่วยเพื่อนผู้เห็นต่าง
-๒๐๑๑ ชาวบ้านหมู่บ้านหวู่กัน มณฑลกวางตุ้ง ๕,๐๐๐ คนเดินขบวนไปเมืองหลูเฟิงเพื่อนั่งประท้วงการยึดที่ดินเอาไปขายนายทุนนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โดยมิชอบและโดยไม่จ่ายค่าชดเชยให้ชาวบ้านของเจ้าหน้าที่รัฐท้องถิ่น นำไปสู่การประท้วง ลักพาตัวผู้แทนชาวบ้าน จนคนหนึ่งถูกซ้อมเสียชีวิตในที่คุมขัง ตำรวจปิดล้อมหมู่บ้าน ในที่สุดชาวบ้านเหลืออดลุกฮือปะทะกับตำรวจและอันธพาล ปลดปล่อยหมู่บ้านดำเนินการปกครองกันเองแรมเดือน ในที่สุดก่อนจะบานปลายไปกว่านี้ ฝ่ายนำพรรคระดับมณฑลเข้ามาแทรกแซงเจรจาเองจนต่อรองไกล่เกลี่ยตกลงกับตัวแทนประชาชนในหมู่บ้านได้ มีการปลดเจ้าหน้าที่พรรคท้องถิ่น เปิดเลือกตั้งอิสระแบบลับจริง ๆ ขึ้นในหมู่บ้านเป็นครั้งแรก เรื่องจึงคลี่คลายไป
-๒๐๑๒ ตำรวจจีนกระจายจับผู้คนกว่า ๒,๐๐๐ ที่นัดกันเดินทางไปชุมนุมไว้อาลัยทีหลุมศพจ้าวจื่อหยาง อดีตเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนที่เห็นต่างจากการปราบปรามเทียนอันเหมินปี ๑๙๘๙ จนถูกปลดและคุมตัว
-มี.ค. ๒๐๑๓ นักเคลื่อนไหวพากันอดข้าวประท้วงโรงเรียนแห่งหนึ่งที่เมืองเหอเฝ่ยที่ไม่ยอมรับลูกสาววัย ๑๐ ขวบของนักโทษการเมืองเข้าเรียน
-ก.ค. ๒๐๑๓ ผู้ประท้วงกว่า ๒๐๐ คนนั่งประท้วงที่กระทรวงต่างประเทศในปักกิ่งนาน ๒ สัปดาห์เพื่อเรียกร้องขอมีส่วนร่วมและจัดทำการรายงานสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในจีนต่อสหประชาชาติให้โปร่งใสขึ้น
 
รัฐ/พรรคจีนตอบโต้โดยมุ่งสกัดขัดขวางการก่อตัวของการเคลื่อนไหวมวลชนด้วยระบบเฝ้าระวังติดตามไฮเทคและกลไกเซ็นเซ่อร์ พยายามจำกัดวงการประท้วงต่อต้านให้อยู่ในท้องที่หนึ่ง ๆ หรือประเด็นเฉพาะหนึ่ง ๆ ไม่ขยายตัวกว้างและไม่ผูกปมเป็นประเด็นระดับชาติ

บล็อกของ เกษียร เตชะพีระ

เกษียร เตชะพีระ
เราอยู่ในสังคมการเมืองที่มากไปด้วยมรดกของการใช้อำนาจรัฐปิดปากฝ่ายค้านและผู้มีความเห็นต่างไม่ให้ออกสื่ออิเล็กทรอนิกส์เป็นปกติธรรมดามานานปี ดังนั้นเมื่อมีการระงับออกรายการ ไม่ว่าด้วยเหตุผลกลใด (เหนือเมฆ, คนค้นคนตอนศศิน, ฯลฯ) เราจึงคิดแบบแทบจะอัตโนมัติ/เป็นสัญชาตญาณเลยว่า "รัฐบาล", "หน่วยราชการ", "นักการเมือง" แทรกแซงให้แบนอีกแล้ว...
เกษียร เตชะพีระ
แย้งคุณสมเกียรติ อ่อนวิมล: เส้นแบ่งพรรคการเมืองทางรัฐศาสตร์ที่สำคัญคือเป็นพรรคมวลชน (mass party) หรือพรรคชนชั้นนำ (elite party) ไม่ใช่เกณฑ์หละหลวมว่าเป็นพรรคที่ "เกิดและเติบโตจากประชาชน" หรือไม่
เกษียร เตชะพีระ
รวม 15 เรื่องราวการเหยียดเชื้อชาติของคนต่างชาติในเยอรมนี
เกษียร เตชะพีระ
ท่ามกลางข่าวกลุ่มผู้เคร่งศาสนาอิสลามชาวอินโดนีเซียประท้วงการจัดประกวดมิสเวิลด์ประจำปีนี้ที่ประเทศของตน จนทางผู้จัดต้องปรับลดรายการ งดให้ผู้เข้าประกวดนานาชาติใส่ชุดบิกินีแต่ให้ใส่โสร่งบาหลีแทนและยังถูกรัฐบาลอินโดนีเซียสั่งย้ายสถานที่จัดงานจากกรุงจาการ์ตาไปเกาะบาหลีซึ่งคนส่วนใหญ่เป็นชาวฮินดู  ก็มีการประกวดนางงามเวอร์ชั่นอิสลามอย่างถูกต้องตามหลักศาสนาที่จาการ์ตาด้วยเหมือนกัน!
เกษียร เตชะพีระ
โลกาภิวัตน์สะดุดลัทธิคุ้มครองการค้า (Protectionism): รัฐบาลนานาชาติทั่วโลกวางมาตรการคุ้มครองการค้าใหม่ถึง ๑๕๔ มาตรการในชั่วปีเดียว!
เกษียร เตชะพีระ
ทำความรู้จัก 'เทเรซ่า ฟอร์คาดส์' แม่ชีคาทอลิกชาวสเปน  ปัญญาชนสาธารณะฝ่ายซ้ายที่ทรงอิทธิพลที่สุดคนหนึ่งของยุโรป คนหลายพันพากันเข้าร่วมขบวนการต่อต้านทุนนิยมของเธอซึ่งรณรงค์ให้แคว้นคาตาโลเนียเป็นอิสระ กับนโยบาย ๑๐ ข้อซึ่งเธอกับนักเศรษฐศาสตร์ อาร์คาดี โอลีเวเรส ช่วยกันร่างขึ้น
เกษียร เตชะพีระ
"ในโลกซังกะบ๊วยแบบที่เราอยู่ปัจจุบัน มีการรณรงค์ที่สำคัญกว่าที่เราทำในเงื่อนไขสถานที่ที่เราอยู่เสมอ ประเด็นจึงไม่ใช่หยุดหรือสละการต่อสู้เฉพาะที่เพื่อเห็นแก่เรื่องสำคัญ/ใหญ่กว่า แต่คือฟังกัน เห็นอกเห็นใจกัน เคารพกัน ขยายสร้างความเข้าใจเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ให้แก่กัน หาทางหนุนช่วยเชื่อมโยงกันบนฐานความเข้าใจจุดร่วมและความเชื่อมโยงที่มีอยู่จริงของปัญหาซึ่งกันและกัน" 
เกษียร เตชะพีระ
ว่าด้วยความสัมพันธ์ทางอำนาจระหว่างฝ่ายต่าง ๆ ในมหาวิทยาลัย และระหว่างพื้นที่สิทธิกับอำนาจบริหาร กับกรณี "อั้ม เนโกะ" กับ "4 ภาพ sex" ต้าน "บังคับแต่งชุด นศ.มธ."
เกษียร เตชะพีระ
สมาคมผู้พิพากษาแห่งชาติได้ขออภัยที่ไม่ได้ปกป้องคุ้มครองพลเมืองชิลีในโอกาสระลึก ๔๐ ปีนับแต่รัฐประหารที่นำปิโนเช่ต์ขึ้นสู่อำนาจ
เกษียร เตชะพีระ
วิวัฒนาการความสัมพันธ์ระหว่างสถาบันกษัตริย์กับชาตินิยม ตั้งแต่ ขั้นการปฏิวัติชาตินิยมในคริสตศตวรรษที่ ๑๘, ขั้นการปรับตัวทางการเมืองของสถาบันกษัตริย์เป็นอยู่ใต้รัฐธรรมนูญและราชาชาตินิยมในคริสตศตวรรษที่ ๑๙ และ ๒๐, ขั้นการปรับตัวทางวัฒนธรรมของสถาบันกษัตริย์เป็นแบบกระฎุมพีในคริสตศตวรรษที่ ๒๐ และขั้นสถาบันกษัตริย์ในยุควัฒนธรรมสื่อทีวีมหาชนปัจจุบัน
เกษียร เตชะพีระ
.. Honi Soit ลงพิมพ์ปกรูปอวัยวะเพศของหญิง ๑๘ คนเพื่อแสดงให้เห็นว่ามันมีความหลากหลายแตกต่างเป็นปกติธรรมดา ไม่ได้เป็นและไม่จำต้องเป็น "วงขา" อุดมคติอย่างในหนังโป๊เปลือยทั้งหลาย จึงเป็นย่างก้าวสำคัญในการเตะสกัดกระบวนการทำอวัยวะผู้หญิงให้เป็นสินค้าในตลาดทุนนิยม ก่อนมันจะรุกคืบหน้าจากวงแขนลงไปข้างล่าง..