Skip to main content

งานวิจัยมากมายทยอยออกมานำเสนอผ่านสื่อมวลชน ในช่วงก่อนวาเลนไทน์ ชนิดที่ว่า นอกจากจะเป็นช่วงเทศกาลวันแห่งความรักแล้ว ยังเป็นเทศกาลนำเสนอผลวิจัยวัยรุ่นอีกก็ว่าได้

งานวิจัยที่ออกมาส่วนใหญ่แล้ว มีลักษณะ “ถ้ำมอง” และ นำเสนอด้าน “ลบ” ของวัยรุ่นเพียงอย่างเดียว ทำนองว่า วัยรุ่นจะมีเพศสัมพันธ์กันมากที่สุดในวันดังกล่าว – ผมเองได้พยายามค้นหาดูว่ามีผลวิจัยหรืองานสำรวจอะไรบ้างที่ให้ข้อเสนอแนะทางออกในเชิงสร้างสรรค์เกี่ยวกับเรื่องเพศของวัยรุ่น

นอกจากผลการสำรวจของ เครือข่ายเยาวชนด้านเอดส์ ประเทศไทย (Youth Net) ที่เสนอว่า วัยรุ่นกว่า 70% เห็นว่าควรมีวิชาเพศศึกษาในหลักสูตรของทุกโรงเรียน นักเรียนทุกคนควรได้เรียนเพศศึกษาอย่างต่อเนื่องทุกระดับชั้น และครูควรตอบข้อสงสัยในเรื่องเพศศึกษาของนักเรียนได้อย่างกระจ่างชัด กว่าครึ่งของวัยรุ่นที่ทำการสำรวจ (2,000 คน) ไม่เห็นด้วยต่อประเด็นที่ว่าเพศศึกษาควรสอนเรื่องการรักนวลสงวนตัวเท่านั้น สะท้อนให้เห็นว่าการจัดเพศศึกษาที่เข้าถึงและตอบโจทย์วัยรุ่นได้ทุกคนนั้น จะต้องเริ่มจากการให้ทางเลือกที่หลากหลายสำหรับแต่ละคนที่มีวิถีชีวิตที่แตกต่างกัน ในการจัดการสัมพันธภาพและวิถีเพศของตนเอง

ส่วนด้านการเข้าถึงอุปกรณ์ป้องกันที่ทำให้วัยรุ่นปลอดภัย กว่าครึ่งอยากให้นักเรียนขอรับถุงยางอนามัยที่โรงเรียนได้ และเห็นว่าผู้หญิงควรเป็นผู้พกพา รวมทั้งเห็นว่าสถาบันการศึกษาควรมีนโยบายที่ปฏิบัติต่อเพศทางเลือก เกย์ กะเทย ทอม ดี้ อย่างเท่าเทียม  และในกรณีที่ตั้งครรภ์ ควรได้รับสิทธิให้เรียนต่อได้ทั้งขณะตั้งครรภ์หรือหลังคลอดตามความสมัครใจ เพศศึกษาสำหรับเยาวชนในสถานศึกษา จึงไม่ได้หมายความเพียงการจัดให้มีการเรียนการสอน แต่ยังต้องสะท้อนให้เห็นในการปฏิบัติต่อเยาวชนอย่างเห็นคุณค่าที่เท่าเทียมในมิติอื่นๆ ด้วย

และวัยรุ่นกว่า 70% ยังต้องการให้ผู้ใหญ่ โดยเฉพาะพ่อแม่ผู้ปกครองพูดคุยและรับฟังความในใจเรื่องความรักและเรื่องเพศ จึงถึงเวลาที่เด็กและผู้ใหญ่ต้องหันหน้ามาเจอกัน เพราะว่าการสอนเรื่องเพศศึกษาเป็นยิ่งกว่านโยบาย เพราะเป็นจิตสำนึกที่จะช่วยดูแลให้เยาวชนอยู่รอดปลอดภัยจากปัญหาเพศสัมพันธ์ ซึ่งอาจทำลายนักเรียนได้ทุกกลุ่ม

นอกจากผลสำรวจในเชิงสร้างสรรค์ ที่เป็นข้อเสนอแนะและทางออกสำหรับวัยรุ่นต่อเรื่องเพศ ของ Youth Net แล้ว ก็ไม่ค่อยเห็นผลอะไรไปมากกว่านั้น

นอกจากนี้ ความคิดเห็น คนอื่นๆ ต่อผลสำรวจเท่าที่หาได้คือ ที่ “เพ็ญพิลาส เหล็มปาน” จาก คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้เสนอว่า

จากปีที่ผ่านๆ มาในเดือนกุมภาพันธ์ก่อนหน้าวันวาเลนไทน์ไม่กี่วัน เรามักจะได้เห็นผลการวิจัยที่พยายามชี้ว่า วัยรุ่นเห็นเรื่องพฤติกรรมชิงสุกก่อนห่ามเป็นเรื่องปกติ เช่น พบว่าวันวาเลนไทน์เป็นวันที่วัยรุ่นตั้งใจจะมีเพศสัมพันธ์กับแฟน และมีการแสดงความรักโดยการสัมผัสอย่างเปิดเผยในที่สาธารณะ และบางครั้งมีเพศสัมพันธ์กันทั้งๆ ที่รู้จักกันไม่ทันข้ามวันตามสถานบันเทิงต่างๆ ผลการวิจัยนี้ก็นำมาซึ่งมาตรการหลากหลายที่ออกมาควบคุมพฤติกรรมวัยรุ่นในวันวาเลนไทน์ ไม่ให้มีเพศสัมพันธ์กันทุกทาง โดยเฉพาะมาตรการสอดส่องโรงแรม เพื่อไม่ให้วัยรุ่นเข้าไปใช้บริการ ตลอดจนตรวจตราสวนสาธารณะและหอพักต่างๆ เพื่อไม่ให้วัยรุ่นเข้าไป “มั่วสุม”



คนทำการสำรวจการวิจัยกับคนคิดมาตรการคงหวังควบคุมพฤติกรรมทางเพศที่เขาคิดว่าไม่เหมาะสมของวัยรุ่นในวันแห่งความรักนี้ แต่ที่น่าแปลกใจอยู่ทุกครั้งคือ ผลการวิจัยมีแนวโน้มจะทวีความรุนแรงของปัญหาขึ้นเรื่อยๆ และไม่มีทีท่าว่าจะลดลง หากเป็นเช่นนี้แล้ว ควรจะตั้งคำถามได้หรือไม่ว่าการวิจัยเช่นนี้มีจุดประสงค์เพื่ออะไร แค่จะประณามวัยรุ่นในรอบปีแค่นั้นหรือ มาตรการที่ใช้ควบคุมพฤติกรรมทางเพศของวัยรุ่นนั้นมีประสิทธิภาพจริงๆ แล้วหรือ การมีผลการวิจัยเช่นนี้จึงไม่น่าจะก่อให้เกิดผลประโยชน์อันใดมากนัก ซ้ำร้ายอาจจะทำให้เกิดช่องว่างของความไม่เข้าใจระหว่างผู้ใหญ่กับวัยรุ่นให้ถ่างจากกันมากขึ้น คงจะดีกว่าหากเราทบทวนวิธีการควบคุมพฤติกรรมทางเพศของวัยรุ่นเสียใหม่



สิ่งแรกที่ต้องทบทวน คือ การทำการวิจัยให้มีความสมดุล เพราะผลที่ออกมามักจะเป็นการกล่าวร้ายวัยรุ่นว่าประพฤติตัวเหลวแหลก ผิดวัฒนธรรมอันดีงามของสังคม โดยที่เราไม่ค่อยได้เห็นผลการวิจัยที่แสดงถึงมุมมองความรักและเรื่องเพศจากตัววัยรุ่นเอง ไม่ค่อยสำรวจว่าเขาต้องการความรู้ความเข้าใจในเรื่องเพศแค่ไหน อย่างไร มนุษย์เรามีความคิดที่สลับซับซ้อน การสำรวจวิจัยแค่เพียงผิวเผินคงจะไม่ได้ให้คำตอบที่ถูกต้องที่สุด ของการตัดสินพฤติกรรมทั้งหมดในชีวิตได้ การเปิดโอกาสให้วัยรุ่นได้แสดงความคิดเห็น น่าจะเป็นสิ่งที่ดี เพราะเราจะได้ทราบถึงมุมมองจากคนที่เป็นผลผลิตของยุคโลกาภิวัตน์ นำไปสู่การคิดหาวิธีแก้ปัญหาที่เหมาะสม ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของเหตุผลซึ่งกันและกันทั้งผู้ใหญ่และวัยรุ่น



ส่วนอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องทบทวน คือ การสอนเรื่องเพศให้กับวัยรุ่น สังคมไทยยังไม่มีการสอนเรื่องการมีเพศอย่างตรงไปตรงมา แทบทุกครอบครัวไม่เคยสอนให้ลูกรู้ว่าการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยและรับผิดชอบคืออะไร ต้องอาศัยองค์ประกอบใดบ้าง ทั้งๆ ที่มันเป็นเรื่องที่มนุษย์แทบทุกคนต้องเผชิญ แม้แต่สถาบันการศึกษาก็ยังปฏิเสธการสอนเรื่องเหล่านี้ อาจจะสอนเพียงแค่ให้รู้ว่าอะไรคือถุงยางอนามัย แต่ไม่ได้ฝึกฝนให้รู้ถึงการเข้าถึง การเจรจา การสื่อสารกับคู่ในการใช้ ฯลฯ คงจะด้วยวัฒนธรรมดั้งเดิมที่ถูกขัดเกลากันมานานว่า เรื่องเพศเป็นเรื่องในที่ลับ ไม่ใช่เรื่องปกติที่จะนำมาพูดกัน เมื่อวัยรุ่นเรียนรู้จากผู้ใหญ่ที่ใกล้ชิดไม่ได้ เขาก็ไปเรียนรู้จากสื่อต่างๆ และก็ขาดความเข้าใจที่ถูกต้อง การปิดกั้นวัยรุ่นในวัยที่มีความอยากรู้อยากลอง จึงเหมือนยิ่งห้ามยิ่งยุ



จากนี้ไปจึงหวังว่าวัยรุ่นจะไม่ถูกข่มด้วยผลการวิจัยที่มีน้ำหนักเอียงไปทางกล่าวร้ายวัยรุ่นเพียงฝ่ายเดียว คงจะได้เห็นการวิจัยที่แสดงถึงความคิดเห็นและความต้องการของวัยรุ่น และมุมมองที่เขาอยากให้ผู้ใหญ่เข้าใจ และหวังอีกเช่นกันว่าวัยรุ่นจะไม่ถูกขืนให้ขัดกับธรรมชาติของการมีความรัก และความสนใจในเรื่องเพศ จึงอยากสนับสนุนให้มีการสอนเรื่องเพศอย่างเปิดเผยมากขึ้น อยากให้วัยรุ่นมีความรักอย่างเข้าใจ และมีพฤติกรรมทางเพศที่มีความรับผิดชอบและปลอดภัย โดยเฉพาะพ่อแม่ผู้ปกครองผู้ใหญ่ทุกคนควรจะก้าวข้ามความอายที่จะพูดเรื่องเพศกับลูกหลาน เพื่อเข้าสู่ยุคปรับเปลี่ยนทางวัฒนธรรม ทั้งหมดนี้น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่นำไปสู่วิธีแก้ปัญหาที่ถูกต้อง เพราะเชื่อว่าทุกๆ คนต่างห่วงและรักลูกหลานของครอบครัวและประเทศชาติกันทั้งนั้น

ผมค่อนข้างเห็นด้วยกับข้อเสนอและมุมมองของ เพ็ญพิลาส เหล็มปาน ในเรื่องมาตรฐานการวิจัย และการนำเสนอข้อมูลที่ไม่ทำร้ายเด็กหรือข้อมูลที่ทำให้มองวัยรุ่นด้วยสายตาลำเอียง

การนำเสนอผลวิจัยด้วยเชิงบวก หรือ เชิงสร้างสรรค์ นั้นยังคงหา “ได้ยาก” จากนักวิจัยหรือสังคมไทย รวมทั้งข่าวที่นำเสนอผ่านสื่อต่างๆ ด้วย แต่นั้นไม่ได้หมายความว่าไม่มีเลย เพราะเร็วๆ นี้ จะมีการนำเสนอผลการสำรวจที่เรียกว่า “ตัวชี้วัดการสร้างเสริมศักยภาพเยาวชนไทย Developmental Asset” ที่ดำเนินการศึกษาโดย นายแพทย์สุริยเดว  ทรีปาตี  ผู้จัดการแผนงานสุขภาวะเด็กและเยาวชน (สสส.)  คือ มีหัวใจคือ มองว่าวัยรุ่นเป็นวัยที่มีพลังความคิดสร้างสรรค์และมีศักยภาพมาก และเป็นการค้นหาปัจจัยเสริมหรือจุดบวกของวัยรุ่น ครอบครัวและแหล่งชุมชน และการแก้ปัญหาได้โดยการสร้างทางออกที่หลากหลายแก่วัยรุ่นมากกว่าการมองว่า วัยรุ่นเป็นวัยที่มีความเสี่ยงและเป็นปัญหา

กลยุทธ์ในการสร้างคุณลักษณะที่ดีของเยาวชนไทย มีหลายประเทศให้ความสำคัญโดยเฉพาะประเทศสหรัฐสหรัฐอเมริกา ซึ่งกำหนด 40 ดัชนีชี้วัดคุณลักษณะที่ดีของเยาวชนไทย พร้อมๆ กับสร้างเทคนิคให้กับผู้ที่ดูแลเยาวชนให้มีทักษะในการสร้างประสิทธิผล ให้เยาวชนผ่านเกณฑ์ให้มากที่สุด เครื่องมือนี้ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในสหรัฐสหรัฐอเมริกา เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1989 โดยสถาบันวิจัยในสหรัฐอเมริกาสำรวจในเยาวชนราว 3-4 แสนคน และพัฒนาขึ้นมาเป็น40 ดัชนีตัวชี้วัดคุณลักษณะที่ดีของเยาวชน

ในหลายรายงานการศึกษาของสหรัฐอเมริกาพบว่าเยาวชนหรือครอบครัวที่ผ่านเกณฑ์เกิน 20 ตัวชี้วัด โอกาสที่เยาวชนจะล่อแหลมต่อพฤติกรรมเสี่ยงก็จะยิ่งน้อยลง และหากผ่านเกณฑ์เกิน 30 ตัวชี้วัด แทบจะสรุปได้เลยว่า ครอบครัวเข้มแข็ง เยาวชนแข็งแรง ลดปัญหาสังคมได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ

น่าสนใจที่เร็วๆ นี้ คุณหมอสุริยเดว  ทรีปาตี จะนำเสนอผลที่ได้ดำเนินการ ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตวัยรุ่นไทย และหวังว่าข่าวดีๆ เช่นนี้คงจะเกิด ปรากฏขึ้น และได้รับการนำเสนอเพื่อให้เกิดความสมดุลของงานศึกษา สำรวจ วิจัย เกี่ยวกับวัยรุ่นบ้างนะครับ...

-----------------------------------
* รวมข่าว
1. แฉคลิปนร. อมนกเขา โชว์มั่วเซ็กซ์บนรถปอ.
 http://www.thairath.co.th/offline.php?section=hotnews&content=78825
 
2. เข้มวาเลนไทน์ กันเด็ก-มั่วเพศ   http://www.thairath.co.th/offline.php?section=hotnews&content=78827
 
3. เตรียมเสนอศาล เคอร์ฟิวเด็กแว้น กลุ่มที่เพิ่งโดนจับ
http://www.thairath.co.th/offline.php?section=hotnews&content=78829
 
4. "ระเบียบรัตน์" ค้านแจกถุงยางวันวาเลนไทน์
http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=154661&NewsType=1&Template=1
 
5. "ว.วชิรเมธี"เตือนสติหนุ่มสาวต้องรักด้วยสมอง
 http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=154660&NewsType=1&Template=1
 
6. 'กามเทพไฮเทค' บูม ! 'หาคู่ออนไลน์' สาวไทยติดโผ 'ใจถึง'
http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?ColumnId=52880&NewsType=2&Template=1
 
7. ซัดผู้ใหญ่ทำร้ายเด็ก
 http://www.thaipost.net/index.asp?bk=xcite&post_date=14/Feb/2551&news_id=154505&cat_id=200100
 
8. บริษัทจัดหารัก... เอาใจคนไร้คู่รับวันวาเลนไทน์
http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01lad01140251&day=2008-02-14&sectionid=0115
 
9. เด็กหญิงลับแลทำสถิติ"ท้อง"
http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01pro03140251&day=2008-02-14&sectionid=0112
 
10. 14 วิธีสุขสันต์วันวาเลนไทน์ สำหรับวัยรุ่น
http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01act02140251&day=2008-02-14&sectionid=0130
 
11. ฟุ่มเฟือยพิสูจน์รัก จีนรุ่นใหม่วิวาห์โชว์ออฟ
http://www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROc1lXUXdNVEUwTURJMU1RPT0=&sectionid=TURNeE5BPT0=&day=TWpBd09DMHdNaTB4TkE9PQ==
 
12. สวนดุสิตถกปัญหาเพศ-"วาเลนไทน์" สื่อมีส่วนหรือไม่-นิมนต์พระมาเทศน์แก้ไขปัญหาวัยรุ่น
http://www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROeVlXb3dNVEUwTURJMU1RPT0=&sectionid=TURNek1RPT0=&day=TWpBd09DMHdNaTB4TkE9PQ==
 
13. เตือนผู้ปกครองดูแลเด็กช่วงวาเลนไทน์
http://www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TURObFpIVXdNVEUwTURJMU1RPT0=&sectionid=TURNeE5RPT0=&day=TWpBd09DMHdNaTB4TkE9PQ==
 
14. เสมา1ขอคิดก่อนแยกประถม-มัธยม
http://www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TURObFpIVXdNakUwTURJMU1RPT0=&sectionid=TURNeE5RPT0=&day=TWpBd09DMHdNaTB4TkE9PQ==
 
15. สพฐ.ล้อมคอกคัดตัวแทนเขต ตั้งสภา นร.แก้ปัญหาเด็กแว้น-เด็กสก๊อย http://www.banmuang.co.th/education.asp?id=133704
 
16. เปิดคลินิกวัยรุ่นบางรัก บริการดูแลสุขภาพทางเพศ
http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9510000018638
 
17. รองอธ.มสด.ฟันธง! เอกชนเน้นวาเลนไทน์ลืม มาฆบูชา เหตุเด็กตามก้นฝรั่ง http://www.manager.co.th/Campus/ViewNews.aspx?NewsID=9510000018591
 
18. ตะลึงวาเลนไทน์/วัยรุ่นหญิงคะนอง/ซื้อยาคุม-ถุงยาง
  http://www.siamrath.co.th/UIFont/NewsDetail.aspx?cid=56&nid=7306

บล็อกของ กิตติพันธ์ กันจินะ

กิตติพันธ์ กันจินะ
จากที่ข้อเขียนเรื่องเพศวิถีมีชีวิตทั้งหมดที่ได้กล่าวมานั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง การวางความคิด เรื่องการเปิดใจคุยเรื่องเพศของตนเอง เรื่องความหลากหลายในรักและความสัมพันธ์ ความรักต่างเพศนิยม เรื่องกระแสสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป สิ่งต่างๆ เหล่านี้เป็นความพยายามที่จะมาสรุปในตอนท้ายของบทความนี้ว่า หากเราจะคุยเรื่องเพศวิถีจากมุมมองภายในจากชีวิตของเรานั้น เพื่อสร้างให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจากภายในตัวเอง อะไรที่เป็นความท้าทายที่จะนำไปสู่การจุดประกายให้แต่ละคนได้กลับมาสำรวจ ตั้งคำถาม และสร้างการเรียนรู้เรื่องต่างๆ เหล่านี้ได้โดยอาศัยทั้งปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอกของแต่ละคน
กิตติพันธ์ กันจินะ
โลกเปลี่ยนแปลงไปทุกขณะ ความสัมพันธ์ทางเพศของมนุษย์มีหลากหลายรูปแบบมากขึ้น ในสังคมสมัยก่อน เช่น ในภาคเหนือ การจีบสาวของคนล้านนาจะมีการค่าว (คล้ายลำตัดของภาคกลาง) ตอบโต้กันไปมา การจีบกันต้องให้เกียรติผู้หญิงเป็นคนเลือกคู่ หรือหากจะแต่งงานก็ต้องมีการใส่ผี คือการวางเงินสินสอดจากฝ่ายชายเพื่อบอกกับผีปู่ผีย่าของฝ่ายหญิงให้ทราบว่าจะคบกันแบบสามีภรรยา
กิตติพันธ์ กันจินะ
ความคิด ความเชื่อเรื่องเพศที่หล่อหลอมเรามาว่า ควรมีชายกับหญิงเท่านั้นที่คู่กัน สิ่งนี้เป็นความคิด ความเชื่อที่ฝังหัวเรามาตลอดจนเราไม่ได้ตั้งคำถามกับตัวเองเลยว่าทำไมเราจึงต้องรักเพศตรงข้าม และการที่เรารักเพศเดียวกันนั้นจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งไม่ได้เชียวหรือ
กิตติพันธ์ กันจินะ
สำหรับชีวิตส่วนตัวแล้ว ผมเป็นวัยรุ่นคนหนึ่งที่เติบโตมาท่ามกลางการเลี้ยงดูของแม่และพี่ๆ ที่ส่วนใหญ่แล้วเป็นผู้หญิง เห็นการทำงานของผู้หญิงที่ “ศูนย์เพื่อน้องหญิง” จ.เชียงราย เห็นความเข้มแข็งในการทำงานของแม่ของพี่ๆ แต่ละคนแล้ว ทำให้ผมเห็นว่าความเป็นหญิง ความเป็นชาย แท้จริงแล้ว ทุกคนก็สามารถทำอะไรได้เหมือนกัน แต่ทว่าการเลี้ยงดูหล่อหลอมของสังคมกลับบอกว่าแบบนี้ผู้หญิงควรทำ แบบนี้ผู้ชายควรทำ
กิตติพันธ์ กันจินะ
เปิดใจเรียนรู้ประสบการณ์ภายในตน ผมเริ่มต้นทำงานในประเด็นเรื่องเพศ ตอนอายุน้อยๆ จากวันนั้นมาวันนี้ ระยะเวลาหลายปี ที่อยู่บนเส้นทางนี้ได้เจออะไรหลายอย่าง ได้เรียนรู้ ประสบการณ์ทำงานมากมาย ไม่ว่าจะเป็นบทบาทหน้าที่ใด ความรับผิดชอบแบบไหน องค์กรระดับชุมชนหรือเครือข่ายก็ตาม งานต่างๆ เหล่านี้ทำให้ได้ทำประโยชน์ต่อตนเองและคนอื่นไปพร้อมๆ กัน ผมไม่อาจเรียกตัวเองได้อย่างเต็มปากว่าเป็นคนทำงานเพศวิถี เพราะเข้าใจว่าเรื่องเพศวิถีนี้มีอะไรหลายอย่างที่ต้องทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง และไม่อาจจะบอกได้ว่าตัวเองเป็นนักพัฒนาสังคม เพราะบ่อยครั้งก็ยังมีคำถามเกิดขึ้นมากมายกับตัวเองว่าที่ว่าเป็นนักพัฒนาสังคมนั้น…
กิตติพันธ์ กันจินะ
หายไปเสียนานกับบ้าน “หนุ่มสาวสมัยนี้” เพราะต้องทำงานโครงการป้องกันเอดส์ และเพศศึกษากับเพื่อนๆ เยาวชนในหลายๆ ภาค ทำให้เวลาในการเขียนขีดมีน้อยกว่าเมื่อก่อน ทว่าตอนนี้ก็สามารถจัดการเวลากับตัวเองได้ลงตัวมากขึ้นทำให้ชีวิตมีความสมดุลมากขึ้นทีเดียว
กิตติพันธ์ กันจินะ
อุ่นใจ บัว เขาเสยผมที่ยาวประ่บ่าแล้วรวบไว้ด้านหลังเบาๆ พลางเอื้อมมือดันเพื่อปิดประตูห้องหมายเลข 415 วันนี้เป็นวันที่เขาต้องขนย้ายข้าวของและสัมภาระต่างๆ กลับบ้านที่ต่างจังหวัด หลังจากเมื่อสี่ปีที่แล้ว เขาเดินทางออกจากบ้านเพื่อย้ายมาอยู่ที่กรุงเทพฯ อย่างเต็มตัว สี่ปีที่ผ่านมามีเรื่องราวต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย เขากำลังนึกถึงภาพของความหลังครั้งอดีต โดยเฉพาะความหลังที่เกิดขึ้นภายในห้องพักที่อยู่เบื้องหน้า หนึ่งในเรื่องราวที่ผุดขึ้นมาในม่านความคิดของเขาก็คือเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหญิงสาวห้าคน
กิตติพันธ์ กันจินะ
  กิตติพันธ์ กันจินะ -1-วันอาทิตย์สัปดาห์นี้ผมน้อมนำกายไว้ที่กรุงเทพฯ เพราะไม่มีเรี่ยวแรงจะกลับเชียงรายเลย และอยากให้วันอาทิตย์นี้เป็นของขวัญแก่ตัวเองในการพักผ่อน หยุดขยับเรื่องงาน และเอาใจมาคิดถึงเรื่องด้านในของตัวเองด้วย เช้าตรู่ของวันอาทิตย์นี้ ผมตื่นนอนตามปกติ ไม่สายและไม่เช้าจนเกินไป และอยู่ๆ ก็คิดขึ้นได้ว่ามีโทรศัพท์ที่ยังไม่ได้โทร.กลับหนึ่งสาย นั้นคือ พี่จ๋อน แห่งมะขามป้อมนี้เอง สำหรับพี่จ๋อนและพี่ๆ มะขามป้อมแล้ว ผมถือว่ารู้จักมักคุ้นกับพี่ๆ มานานหลายปี โดยผมเริ่มรู้จักกับมะขามป้อม เมื่อตอนยังเด็กเลยแหละ จนถึงทุกวันนี้ก็นานพอควร พี่บางคนพอจำกันได้…
กิตติพันธ์ กันจินะ
  มาริยา มหาประลัย1เมื่อเดือนก่อน คุณพี่เอก บก. (อันย่อมาจากบรรณาธิการ ไม่ใช่บ้ากาม) นิตยสารผู้ชายฉบับหนึ่งที่ฉันเคยอาศัยเงินเดือนเขายาไส้ แถมยังเป็นเจ้านายที่น่ารักที่สุดตั้งแต่ฉันเคยร่วมงานด้วย โทรศัพท์ตรงดิ่งวิ่งปรี่มาหาฉัน บอกว่ามีงานเขียนให้ฉันทำ คุณพี่เอกยังหยอดคำหวานปานพระเอกลิเก(ย์)อ้อนแม่ยกอีกว่า พอได้รับโจทย์ปุ๊บ หน้าฉันก็โผล่พรวดเด้งดึ๋งขึ้นมาปั๊บ เห็นทีจะเป็นลิขิตจากนรก เอ้ย! สวรรค์ชั้นเจ็ดที่ส่งให้ฉันมาเขียนเรื่องนี้ อู้ย! อยากรู้จริงเชียวว่าเรื่องอะไรหนอ..."คุณพี่อยากให้คุณน้องเขียนเรื่อง Safe Sex ของเกย์ให้เกย์อ่าน"อ๊ายส์! อ๊ายยยส์!!อ๊ายยยยยยส์!!!…
กิตติพันธ์ กันจินะ
มาริยา มหาประลัย (หมายเหตุ – อะแฮ่ม! ขอออกตัวว่าฉันเป็นคนรู้เรื่องศาสนาเพียงน้อยนิด ข้อเขียนต่อไปนี้เป็นการตั้งข้อสังเกตตามภูมิความรู้ที่มี ไม่ได้มีเจตนาลบหลู่ เพียงอยากใช้พื้นที่ตรงนี้แลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน ใครจะกรุณาแลกเปลี่ยนทัศนะเพื่อช่วยให้แตกกิ่งก้านสาขาเซลส์สมองของฉัน ก็ขอกราบแทบแนบตักขอบพระคุณงามๆ มา ณ ที่นี้ด้วย...ชะเอิงเอย) วันที่ 9 เดือน 9 ปีนี้ ฉันและผองเพื่อนมีวาระแห่งชาติในการปฏิบัติภารกิจสำคัญอันยิ่งใหญ่ แต่จุดหมายปลายทางของเราไม่ได้อยู่ที่ทำเนียบรัฐบาลหรือสะพานมัฆวานฯ ใครจะกู้ชาติ กู้โลก หรือกู้เจ้าโลกก็ขอเว้นวรรคความใส่ใจสักวันเถอะ…
กิตติพันธ์ กันจินะ
มาริยา มหาประลัย สาบานได้ว่า พิธีเปิดโอลิมปิกที่ปักกิ่งซึ่งเพิ่งผ่านพ้นไปสร้างความตะลึงพรึงเพริศ และสามารถตรึงขนทุกเส้นของฉันให้ลุกชันได้ยิ่งกว่าตอนนั่งดูกระโดดน้ำชายเสียอีก (เพราะกระโดดน้ำชายทำให้อย่างอื่นลุกและคันมากกว่า นั่นแน่! คิดอะไร! นั่งดูทีวีนานๆ ยุงมันกัดเลยต้องลุกขึ้นมาเกาเฟ้ย! อ๊ายส์!)  “แม่เจ้าโว้ย! อะไรมันจะ %$#@*&+ ขนาดนั้นฟะเนี่ย!!!” ฉันไม่รู้จะหาคำวิเศษณ์คำไหนมาบรรยายความวิเศษของภาพตรงหน้าได้ ตลอด 3 ชั่วโมงนั้นฉันเผลออ้าปากค้าง ทำตาโต ตบอกผางไปไม่รู้กี่ครั้ง และหลายครั้งเล่นเอาความตื้นตันมาชื้นอยู่ตรงขอบตาเชียวล่ะคุณ อะไรจะขนาดนั้น!
กิตติพันธ์ กันจินะ
มาริยา มหาประลัย    เวลาได้ยินคำว่า “สวยเลือกได้” (แน่นอนว่าเขาไม่ได้พูดถึงฉัน) ฉันอดคิดไม่ได้ว่า “สวย” ในที่นี้เรา “เลือก” กันได้จริงเหรอ เพราะเอาเข้าจริง ความขาว สวย หมวย อึ๋ม ตี๋ ล่ำ หำใหญ่ จมูกโด่ง ฯลฯ ที่เราเรียกคุณลักษณะเหล่านี้ว่า “ความสวย-หล่อ” นั้น ชาติมหาอำนาจเป็นคนกำหนดรูปแบบขึ้นมาและใช้มันเป็นอาวุธในการล่าอาณานิคมทางวัฒนธรรม ความสวยจึงไม่ใช่เรื่อง “สวยๆ” อย่างเดียว แต่มันยังแฝงเรื่องอำนาจและชนชั้นทางสังคมมาอย่างแยบคายภายใต้เปลือกอันน่ามอง