พ่อหลับอยู่อย่างนั้นทั้งคืน มีเพียงเสียงหายใจและเสียงพลิกตัวเท่านั้นบอกเราว่า พ่อยังหลับอยู่ พ่อไม่ได้พูดอะไรที่ฉันฟังไม่เข้าใจอีกแล้ว พ่อหลับเงียบแน่นิ่ง ถึงกระนั้นฉันก็นั่งเฝ้าพ่อแบบตาไม่กระพริบ พ่อหลับโดยที่มีฉันนั่งจ้องพ่ออยู่อย่างนั้น นอกเหนือจากการเช็ดตัวให้พ่อ ดูยาที่หยดลงในสายน้ำเกลือ วัดความดันเลือดแล้ว ฉันไม่ได้ทำอย่างอื่นอีก นอกจากจ้องมองพ่อ
บางเวลาที่ดึกมากๆ ฉันง่วงมาก เผลอหลับฟุบลงบนเตียงพ่อ ข้างๆ มือที่มีสายน้ำเกลือระโยงระยาง ฉันหลับอยู่ในท่านั้นจนสะดุ้งตื่น ทันที่ที่รู้สึกตัว ฉันลนลานจ้องมองพ่อ ดูที่หน้าอกพ่อว่าขยับเคลื่อนไหวหายใจอยู่หรือเปล่า หัวใจของฉันเต้นแรงจนแทบออกมานอกอก เห็นว่าพ่อยังหลับอยู่เหมือนเดิม ฉันจึงค่อยๆนั่งลง ถอนใจ บอกตัวเองว่าอย่าหลับอีกเลยนะ แล้วฉันก็นั่งอยู่อย่างนั้นจนแดดมาเยือน ทั้งที่ง่วงแสนง่วงจนปวดหัวไปหมด แต่ตาของฉันยังจับอยู่ที่หน้าพ่อตลอดเวลา
หลังเช็ดตัวให้พ่อในตอนเช้า เปลี่ยนผ้าปูและเสื้อผ้าชุดใหม่ พ่อดูหน้าตาสดชื่นแม้อยู่ในอาการหลับ แม่เป็นคนรูดม่านเก็บเมื่อมาถึงในเช้ามืด แม่ถามฉันว่าเป็นอย่างไรบ้างลูก ไม่ได้นอนเลยหรือ ตาลูกเขียวลึกเลยหล่ะ พ่อเป็นอย่างไรบ้าง ฉันตอบแม่ว่าพ่อหลับตลอดเวลา ความดันเลือดดีขึ้นมาก หมอคงหยุดยาเพิ่มความดันได้ ที่สำคัญพ่อไม่ได้เพ้อเหมือนที่ผ่านมา พ่อหลับเงียบแน่นิ่ง วันนี้พ่อคงจะตื่นเสียที ลูกเลยไม่กล้าหลับเลยใช่ไหมเมื่อคืน แม่ถามฉัน ลูกกลัวที่เห็นพ่อหลับอย่างนั้นหรือเปล่า ฉันยิ้มและเงียบ รู้สึกปวดหัวและกระบอกตาจนบอกไม่ถูก
ฉันเดินสะโหลสะเหลไปที่โรงอาหาร ร้านอาหารเจเจ้าเดียวในโรงอาหารของโรงพยาบาลเป็นร้านเดียวที่ฉันนั่งตลอดมานับตั้งแต่พ่อป่วย เจ้าของร้านเป็นมุสลิมที่ทำอาหารเจแบบปักษ์ใต้ขาย ฉันนั่งลงก้มหน้าก้มตากิน เจ้าของร้านเอากับข้าวมาวางให้ พร้อมเอ่ยถามว่าใครไม่สบายหรือ พี่เห็นน้องเฝ้าอยู่นานเป็นเดือนแล้ว ฉันยิ้มให้พลางบอกว่า พ่อถูกรถชน ที่จริงดีขึ้นและกลับบ้านแล้ว กลับมานอนใหม่ ดีขึ้นแล้วเหมือนกัน จริงๆ แล้วฉันกลับไปแล้วหนึ่งรอบคราวนี้มาใหม่สงสัยหลายวันอีกเหมือนกัน เธอบอกนับว่ายังเป็นโชคดีของพ่อยังมีลูกสาวอย่างฉันมาเฝ้า ขอให้พ่อหายเร็วๆ นะ ฉันยิ้มให้เธอพร้อมคำขอบคุณ
กลับจากโรงอาหาร ฉันเดินไปดูพ่อ พ่อยังหลับอยู่อย่างนั้น หมอยังเดินมาไม่ถึงเตียงพ่อ ฉันจึงเลือกที่จะมานอนอยู่ตรงระเบียงตึกที่พ่อนอนอยู่ เพราะไม่อยากกลับไปนอนที่บ้านพักน้องชายอีกแล้ว ฉันรู้สึกว่ามันทำให้ฉันกับพ่อห่างไกลกัน หลังปูเสื่อลงไปบนระเบียง เอาผ้าคลุมหัวไว้แล้วฉันก็หลับลงไปในทันทีที่ล้มตัวลงนอน
ฉันตื่นขึ้นมาในตอนบ่ายมากแล้ว แดดบ่ายร้อนแรงส่องมากระทบบนเสื่อที่ฉันนอนอยู่ทำให้ฉันลุกมานั่งอย่างงงๆ หลังรู้ตัวว่านอนอยู่ไหน ฉันลุกเดินอย่างรวดเร็วไปยังเตียงของพ่อ พ่อส่งยิ้มให้ฉันมาแต่ไกล หน้าตาพ่อสดชื่น สายน้ำเกลือและสายออกซิเจนหายไปแล้ว เหลือเพียงจุดฉีดยาเล็กๆที่ข้อมือ เข่าขวาของพ่อปิดผ้าก็อสใหม่
หมอว่าพ่อดีขึ้นมากแล้วลูก หมอมาทำแผลแล้วบอกพ่ออย่างนั้น วันนี้พ่อหายเพลีย หายเหนื่อยสบายขึ้นมากๆเลย พ่อให้แม่เดินไปดูลูกเห็นหลับสนิทเลยไม่ได้กวนใจ พ่อรู้ว่าลูกไม่ได้หลับเลยในเวลากลางคืน พ่อเห็นลูกนั่งจ้องพ่ออยู่อย่างนั้นตลอดเวลา ฉันยิ้มให้พ่อ
แสดงว่ามีบางเวลาที่พ่อตื่นมาดูฉัน อย่างน้อยพ่อก็ไม่ได้หลับตลอดเวลาอย่างที่ฉันคิด ลูกคงเพลียน่าดู พ่อพูดต่อ พ่อกลัวลูกจะไม่สบายไป พ่อดีขึ้นมากแล้วคืนนี้กลับไปนอนกับน้องชายเถอะ พ่ออยู่คนเดียวได้แล้วแข็งแรงขึ้นมากแล้วลูก
ฉันยิ้มให้พ่อแล้วบอกว่า พรุ่งนี้ก็แล้วกันพ่อจ๋า วันนี้ขอนอนอยู่ใกล้ๆพ่ออีกคืน ไม่เป็นไรหรอก ลูกเคยชินแล้วกับการนั่งหลับ คงเหมือนพ่อ ลูกไม่เคยเห็นพ่อนอนเลยตลอดมา พ่อทำงานหนักตลอดเวลา ตอนนี้มีเวลานอนแล้วนะพ่อ เวลาที่เป็นของเราแล้ว ดีแล้วที่พ่อได้หลับยาวนานอย่างนี้ สามวันสามคืนของการนอนหลับของคนที่ไม่เคยได้หลับอย่างแท้จริง พ่อคงสบายขึ้นมากแล้ว
แล้วฉันก็พยุงพ่อออกเดินในตอนเย็น เราหัดเดินกันตรงริมระเบียงของตึกใกล้ที่ๆฉันปูเสื่อนอนตอนเช้า แดดอ่อนตอนเย็นโรยลงบนทางเดิน ลมเย็นโชยมาพร้อมใบไม้ที่ปลิวผ่านหน้า พ่อหายใจแรงขณะยกที่ช่วยพยุงเดินไปทีละก้าว พ่อดูเหนื่อยอ่อน หายใจหอบจนต้องหยุดเมื่อเดินได้เพียงสองสามก้าว ฉันจับแขนของพ่อไว้ กล้ามเนื้อของพ่อเริ่มเหี่ยวแห้งลง ฉันมองหน้าพ่อแล้วมองอีก ในใจของฉันนึกย้อนไปแสนไกล
ภาพพ่อหาบข้าวผ่านหน้าฉันไป แสกหาบเป็นหวายสูงกว่าหัวฉันอีกเมื่อจับแสกยืนขึ้น ทั้งที่ข้าวเต็มหาบ แต่พ่อแบกเหมือนมันไร้น้ำหนัก พ่อเดินผ่านหน้าฉันไปเหมือนมีวิชาตัวเบา แต่เสียงเอี๊ยดอ๊าดของหาบ ผ่านหูเมื่อพ่อมาอยู่ใกล้ทำให้ฉันรู้ว่ามันหนักเหลือเกิน เมื่อพ่อกองข้าวที่หาบมาฉันรู้ว่ามันเกือบสูงท่วมหัวฉัน เลียงข้าวที่พ่อเรียงบนแสกบานเหมือนกลีบดอกไม้สี่กลีบ มันสวยจับใจ พ่อหาบข้าวแสกแล้วแสกเล่า วันแล้ววันเล่าจนกองข้าวที่นาทั้งหมดมาอยู่ที่ลอมข้าวตรงหน้าฉันในโรงที่พ่อทำมันขึ้นเพื่อเก็บข้าวที่เรากินทั้งปี
ฉันเป็นคนโยนเลียงข้าวให้พ่อจากกองที่หาบมาเป็นลอมข้าวที่พ่อวางเรียง ลอมข้าวจะสูงใหญ่ขึ้นไปเรื่อยๆในขณะที่กองข้าวที่หาบมาจะเล็กลงไปเรื่อยเช่นกัน เมื่อลอมข้าวสูงขึ้นจนท่วมหัวฉัน ฉันต้องออกแรงจนสุดเพื่อโยนเลียงข้าวให้ถึงมือพ่อบนลอมข้าวนั้น ในตอนนั้นฉันหอบหายใจจนตัวโยน ภาวนาให้เลียงข้าวหมดก่อนที่ฉันจะหมดแรง แล้วมันก็เสร็จลงจนได้เมื่อเรี่ยวแรงของเราไม่มีเหลือ แล้วฉันนอนลงมองลอมข้าวที่สูงลิบเหนือหัวของฉันสองสามช่วงตัว ในใจฉันนึกแปลกใจที่สุด พ่อทำมันเพียงลำพังได้อย่างไร พ่อก่อลอมข้าวที่สูงใหญ่ขึ้นด้วยสองมือ
ก่อนพลบค่ำของวันนี้ เมื่อเราต่างหยุดเดินฉันพยุงพ่อนอนบนเตียง แล้วจับมือพ่อไว้ วันนี้ของเราดีหนักหนาพ่อจ๋า เราได้เดินอยู่ด้วยกันและพ่อกำลังแข็งแรงขึ้นแล้ว เป็นสิ่งที่ฉันดีใจที่สุดแล้ว ไม่ว่าพรุ่งนี้ของเราจะหนักหนาอย่างไร เราจะมีกำลังใจนะพ่อ แล้วฉันกอดพ่อไว้ด้วยหัวใจที่เข็มแข็ง บอกตัวเองว่าแม้จะเหนื่อยหนักอย่างไรฉันจะไม่หวั่น เหมือนพ่อก่อกองข้าวไว้ให้พวกเราทุกคน กองไว้ในใจฉันเสมอมา