Skip to main content
หอพักมีทั้งหมดสิบชั้น ห้องสมุดอยู่ชั้นล่างสุด เปิดจนถึงสี่ทุ่ม ที่นั่นเป็นที่หมกตัวของฉันเช่นเคย ฉันอ่านหนังสือจนหมดทุกเล่มที่มีในห้องสมุด วนเวียนอ่านซ้ำไปซ้ำมาในบางเล่ม อาจารย์ที่ดูแลหอพักใจดีจะเปิดหอให้พาใครมาก็ได้มาร่วมปาร์ตี้ในคืนไฟรไนท์ หรือคืนวันศุกร์ของก่อนปิดเทอม จำได้ว่า มีวงดนตรีมาเล่นชื่อวงดิอินโนเซนท์ เล่นเพลงสนุกและเพราะพริ้งให้พวกเราเต้นกันทั้งคืนจนเกือบสว่าง

\\/--break--\>
บางเวลาที่ฉันนั่งเรือข้ามฟากมาท่าพระจันทร์เพื่อมาหาหนังสือที่ร้านดอกหญ้า เข้าไปมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ไปเข้าห้องสมุดดูบรรยากาศ ห้องสมุดที่คณะที่ฉันเรียนก็มีหนังสือมากมาย บางคราวฉันอยากแปลงตัวเป็นแมลงเพื่อแอบอ่านหนังสือตอนที่ทุกคนหลับ


ฉันมีโอกาสได้ที่ดีที่สุดสำหรับการเป็นพยาบาล วิชาพื้นฐานอย่างอนาโตมีหรือกายวิภาคศาสตร์ และสรีรวิทยา ได้เรียนจากอาจารย์ใหญ่ในตึกกายวิภาค อาจารย์ของฉันได้เขียนชื่อกายวิภาคแต่ละส่วนไว้ติดตามร่างกายของอาจารย์ใหญ่ ฉันจำได้ขึ้นใจ


วันมหิดล ฉันได้ร่วมกิจกรรมขายธงระดมทุนสำหรับโรงพยาบาลศิริราช เรานั่งรถบัสของมหาวิทยาลัยมหิดลไปขายธงกันถึงนครปฐม ได้ไหว้พระปฐมเจดีย์ ได้นั่งรถเที่ยว ได้รู้จักพี่ๆทั้งแพทย์และพยาบาลศิริราช เหนืออื่นใดมันมีความอิ่มเอิบใจมากๆที่ได้ทำบุญในวันนั้น


สองปีของการเรียนให้คุณค่ามากมาย ฉันรู้จักตัวเองดีขึ้นจากการเรียนที่นี่ ได้ความรักความเมตตาจากอาจารย์ทุกคน หล่อหลอมดวงใจของพวกเราให้มุ่งมั่นและเป็นพยาบาลที่ดีมีเมตตาตามแนวทางที่อาจารย์ปฎิบัติมา ฉันจึงรู้แล้วว่าเส้นทางบุญที่ฉันเดินมานั้นถูกต้องที่สุดแล้ว


ฉันจบมาได้ทำงานที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เงินเดือนเดือนแรกที่ได้มีจำนวนสองพันสองร้อยห้าสิบบาทถ้วน แม่หัวเราะบอกว่าได้น้อยกว่าเงินเดือนที่แม่ให้ ถึงกระนั้นฉันก็ยังเอาเงินเดือนเดือนแรกให้แม่ ฉันอยากให้แม่ดีใจที่ส่งฉันเรียนแล้วได้เงินเดือนเป็นคนแรกของบ้านเรา ฉันเอาน้องสาวตัวเล็กมาอยู่ด้วยที่แฟลตพยาบาล มาเรียนหนังสือชั้นมอหนึ่งที่โรงเรียนวรนารีเฉลิม สงขลา


ส่วนเธอเรียนจบจากมหาวชิราวุธแล้วเอนทรานซ์ได้ที่คณะมนุษย์ศาสตร์ สาขารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ปัตตานี จนจบ เธอได้ใช้พื้นที่ของมหาวิทยาลัยเหมือนฉัน อย่างน้อยเธอได้นั่งในหอสมุดที่สวยที่สุดในใจฉันแน่นอน


แล้วเธอก็สอบเรียนต่อปริญญาโทได้ ทั้งที่ในตอนแรก เธอจบมาแล้วเธอหวังจะเป็นปลัดอำเภอให้ได้ หากเมื่อเรียนจนจบ เธอรู้แล้วว่า หนทางที่เธอเลือกมันช่างตีบตัน เธอจึงไปสอบเรียนต่อแบบคนไม่มีทางไป เธอสอบได้และไปรายงานตัวเพื่อเรียนต่อแล้ว


วันหนึ่งน้องสาวตัวเล็ก เอาบัตรสี่ใบมายื่นให้บอกว่า เธอมาหาและให้บัตรนัดพบเพื่อนไว้ที่บ้านของเธอเอง ฉันรับบัตรแล้ว ถามน้องว่าฉันสมควรไปไหม น้องตอบว่า ไปสิเธอไม่อยากเจอเพื่อนเก่าหรือ ฉันจึงนั่งรถแท็กซี่มาจากหาดใหญ่พร้อมเพื่อนที่เป็นพยาบาลด้วยกันที่รพ.หาดใหญ่ทั้งสี่คน


ฉันลงจากรถแท็กซี่เดินเข้าบ้านเธอ เธอออกมาต้อนรับ แล้วแสดงสีหน้าดีใจ เธอยังพูดเพราะเหมือนเดิม หลังจากกินข้าวเย็นกันเสร็จแล้ว เธอได้ออกมาพูดหน้าเวทีเล็กๆในบ้านว่า ดีใจที่พวกเรามากันทุกคน ใครอยากร้องเพลง ใครอยากทำอะไรให้เพื่อนเชิญเลยตามสบาย


เพื่อนของเราที่เป็นผู้หญิง เป็นนักร้องประจำห้องและประจำโรงเรียน เธอมีลูกแล้วสองคน หน้าตายังไม่เปลี่ยน สวยอย่างไร ก็ยังสวยอย่างนั้น เธอร้องเพลงนกน้อยในกรงทองให้ฟัง เมื่อเธอเริ่มต้นร้องพวกเราทุกคนต่างเงียบกริบ มันเพราะและเศร้ามากๆ เสียงเธอยิ่งเศร้าเมื่อร้องมาถึงท่อนที่ว่า


ฉันไม่ได้รักผู้ชายคนนี้สักหน่อย แม้แต่เพียงน้อยไม่เคยเหลียวมอง
เขากลับได้ฉันเคียงครอง ทั้งที่ไม่รักไม่มอง เหมือนอยู่กรงทองแต่นองน้ำตา

โอ้รักที่เลือกไม่ได้ เจ็บปวดดวงใจแสนทรมา เมื่อรักที่ได้ไม่ปรารถนารักที่ศรัทธา มิได้ดังใจ

หวังแต่เธอนั้นที่ฉันใฝ่ฝันเคียงคู่ ได้โปรดจงรู้ฉันตรมหัวใจ เขาอาจได้ฉันเคียงกาย

มิอาจร่วมใจกันได้ แม้ชีพสลายยังรักแต่เธอ


แล้วเพื่อนก็ยืนร้องไห้ที่หน้าเวที หลังร้องเพลงจบลง เพื่อนเล่าให้ฟังว่า ถูกแม่บังคับให้แต่งงานหลังจบมอศอสาม ผู้ชายที่แต่งด้วยเป็นครูมีฐานะดี ทั้งที่มีแฟนที่รักกันมากอยู่แล้ว แต่ไม่สามารถขัดคำสั่งแม่ได้ จึงยอมแต่งงานด้วย มีลูกกันสองคนแล้ว แต่หัวใจยังเรียกหาแฟนเก่าที่ยังรักอยู่และจะรักตลอดไป


เพื่อนเดินเช็ดน้ำตาลงจากเวที หัวใจฉันแฟบลงทันใด หันไปมองหน้าเพื่อนทุกคน ต่างก้มหน้า ฉันเดินเข้าไปปลอบเพื่อนที่ยังร้องไห้อยู่ โถเพื่อนเอย หัวใจฉันเศร้าหมองจนแทบจะร้องไห้ตามเพื่อน


เธอขึ้นร้องเพลงต่อจากเพื่อนคนนี้ เธอเล่นกีต้าร์ ร้องเพลงคืนรัง ของวงหงาคาราวาน เมื่อเพลงจบลง เธอบอกว่าเพลงนี้ ปลอบใจเพื่อนทุกคน เราต่างพบเจอเรื่องราวที่ไม่คาดคิดเสมอ ให้มีกำลังใจนะ แล้วเธอร้องเพลงกำลังใจของวงโฮป ก่อนลงเวทีมา


มีเพื่อนอีกคนขึ้นเวทีเล่าให้ฟังว่า เธอเกือบเรียนไม่จบมีวิกฤติเกิดขึ้นในมหาวิทยาลัย สุดท้ายเธอผ่านมันไปได้ดี เพื่อนรักและเป็นห่วงเธอมาก ฉันหันไปมองเธอ เห็นเธอนั่งก้มหน้า เรื่องราวของเธอไม่ได้ถูกเล่าจากปากเธอ เธอยินดีกล้ำกลืนทุกข์ของตัวเอง


ที่บ้านของเธอมีหนังสือเต็มไปหมด เป็นหนังสือที่เธอขนมามหาวิทยาลัยหลังเรียนจบ ชั้นหนังสือแบบง่ายๆ ถูกวางเรียงที่ชั้นล่าง ฉันเป็นเพื่อนคนเดียวที่รื้อหนังสือของเธอออกมาอ่าน บางเล่มเป็นเล่มที่ฉันมีและอ่านหลายครั้งแล้ว ฉันก็ยังคงอ่านมัน


แล้วฉันก็เห็นรูปถ่ายที่เธอถ่ายเก็บไว้ เธอผมยาวฟู เดินอยู่บนถนน ฉันจำได้ว่า ถือรูปไปให้เธอเขียนลายเซ็นหลังรูป ฉันบอกเธอว่าขอรูปนี้นะ เธอดูจริงใจและเถื่อนดี เธอหัวเราะแล้วบอกว่า เธอเดินทางทั่วประเทศด้วยการโบกรถ เธอดูโทรมมากแต่แววตามุ่งมั่น ดูสงบและมีพลัง


เรานั่งคุยกันต่ออีกหลายเรื่อง เธอบอกว่าจะทำข่าวสารรุ่นส่งข่าวกันต่อ เรานอนที่บ้านเธอกันทุกคน ฉันจองที่นอนที่ชั้นหนังสือเช่นเคย


วันรุ่งขึ้นเธอขับรถพาพวกเราทุกคน ไปเที่ยวน้ำตกราดเตยที่แม่ขรี เป็นน้ำตกที่สวย สงบ อากาศเย็นสดชื่นมาก ฉันลงเล่นน้ำแล้วขึ้นมาฟังเธอร้องเพลงกำลังใจ ของหงาคาราวาน ก่อนที่พวกเราจะแยกย้ายกันกลับบ้าน


หลังจากวันนั้น เพียงเจ็ดวัน ฉันได้รับจดหมายจากเธอ เธอส่งข่าวมาหลังจากไปเรียนต่อปริญญาโทด้านปรัชญา ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เธอส่งข่าวมาเล่าเรื่องรอบตัวให้ฟัง ฉันดีใจที่เธอส่งข่าวมา จำได้ว่า ฉันตอบจดหมายเธอกลับไปและเราต่างเขียนจดหมายถึงกันตลอดมา


เธอลงจากเชียงใหม่ แวะหาฉันที่หาดใหญ่ เราขับรถมอเตอร์ไซค์ไปที่ชายทะเลสมิหรา

เธอหาหนังสือมาฝากฉัน เป็นงานของเฮอร์มาน เฮสเส ฉันจำได้ว่าเคยอ่านที่หอพักบางขุนนนท์มาก่อน แม้ไม่ค่อยเข้าใจนัก เราต่างแลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจเรื่องหนังสือเล่มที่เคยอ่านและเรื่องราวที่เราประทับใจ


เธอกลับบ้านไปแล้ว ก่อนกลับเชียงใหม่ เธอแวะมาหาฉันอีกครั้ง ฉันส่งเธอขึ้นรถไฟ โบกมือให้เธอแล้วกลับแฟลตที่ฉันอยู่


ฉันทำงานที่รพ.หาดใหญ่ได้ครบสี่ปี สอบเรียนต่ออีกสองปีได้ที่คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ ใจจริงฉันอยากกลับไปเรียนต่อที่เดิมเพราะฉันรักที่นั่นมาก แต่ฉันไม่ได้ไปสอบเข้า ฉันเลือกสอบเข้าที่มอ.และวิทยาลัยพยาบาลแทน ฉันสอบได้ทั้งสองที่ ฉันเลือกเรียนที่มอ.หาดใหญ่


ที่นี่มีความก้าวหน้าทางวิชาการสูงมาก อาจารย์มุ่งมั่นถ่ายทอดวิชาให้ลูกศิษย์ เพื่อนๆในห้องเลือกฉันเป็นประธานรุ่นอยู่ทั้งสองปี ในฐานะเจ้าถิ่น ฉันได้ร่วมกิจกรรมของคณะร่วมกับเพื่อนซี้ปึ๊กจากชลบุรี โรงพยาบาลบ่อทอง เพื่อนร่วมรุ่นคราวนี้มาจากทั่วประเทศ พังงา ตรัง นครศรีธรรมราช ราชบุรี เพชรบุรี พิษณุโลก ชลบุรี ขอนแก่น เชียงใหม่


เราร่วมแสดงละครตลกในงานของคณะ ร่วมเชียร์กีฬาโดยเราสองคนเป็นเชียร์ลีดเดอร์ เพื่อนฉันเริ่มฝึกพูด เพราะครูขอร้องให้ไปพูดต้อนรับน้องใหม่ของคณะ เพื่อนซ้อมพูดกับฉันอยู่ทุกวัน ทุกคืนก่อนนอน เพราะฉันมักจะย้ายที่นอนจากแฟลตพยาบาลมาเป็นที่หอพักของเพื่อนคนนี้ เพราะสะดวกในการทำรายงาน เข้าห้องสมุดและเข้าห้องเรียน


เพื่อนพูดได้ดีมากๆ ครูชมกันทุกคนครอบคลุมทุกประเด็นที่สำคัญ สำหรับคนเป็นพยาบาลที่เข้ามาเรียนต่อ เพื่อแสวงหาและเติบโตทางความรู้ เพื่อนยิ้มหน้าบาน อยู่หลายวัน หาหนังสือเกี่ยวกับการฝึกพูด ความรู้รอบตัวที่สำคัญ เพื่อนบอกว่าจะเป็นนักพูดดีเด่น

 

 

บล็อกของ มาลำ

มาลำ
โป้ง น้องรัก พี่คิดถึงเธอเหลือเกิน หนุ่มน้อยของพี่ ครบหนึ่งปีของการจากไปอยู่ที่แห่งใหม่ของเธอแล้ว โลกใหม่ของเธอเป็นอย่างไรบ้าง หลังการดับลงของลมหายใจ พี่รู้ว่าเธอออกเดินทางต่อ เธอผู้ไม่เคยเบื่อที่จะออกเดินทาง เป็นหนึ่งปีที่ผ่านมาอย่างน่าแปลกใจ เพราะเราคุยกันผ่านความเงียบ จากที่เราเคยได้ยินเสียงของกัน กลับกลายเป็นพี่คุยกับเธอผ่านสมุดบันทึก บางเรื่องที่พี่คิด สิ่งที่พี่อยากให้เธอรู้ ถ้าเธอยังอยู่ บางคำถามของพี่ เธอจะตอบพี่ว่าอย่างไรหนอ
มาลำ
แม่ชงยาสมุนไพรทองพันชั่งมาให้ฉัน กินในตอนเช้าและตอนเย็น แม่บอกว่ามันช่วยฆ่าฤทธิ์ยาที่ฉันแพ้ แม่ยังเอาใบย่านางผงที่ฉันซื้อติดบ้านไว้ตลอดมา ชงให้ฉันกินด้วย ส่วนเธอก็ต้มใบรางจืดที่งอกงามอยู่ในรั้วบ้านของเราตรงกอไม้ไผ่ให้ฉันกินแทนน้ำ เธอบอกมันคงช่วยเรื่องดับพิษ ทำให้อาการเจ็บที่หัวใจตลอดเวลาของฉันลดลง
มาลำ
เช้าแล้ว วันนี้ ฉันนอนอยู่บนเตียงที่บ้าน สิบกว่าวันแล้วที่ฉันนอนไม่หลับ ทั้งที่พยายามข่มตานอน ไม่น่าเชื่อว่าคนเราจะนอนไม่หลับได้เป็นเวลานาน ฉันนึกถึงคนไข้โรคจิตที่ฉันเคยพบ บางคนต้องกินยานอนหลับตลอดเวลาเพราะอาการที่ไม่นอน ฉันรู้สึกเหมือนออกเดินไปกลางทะเลทรายที่แห้งผากและร้อนระอุ เนื้อตัวหน้าตาฉันเต็มไปด้วยรอยแผลสีคล้ำ อาการเจ็บที่หัวใจแปลบปลาบตลอดเวลา ฉันได้แต่สมเพชสังขารอันน่าเวทนาของฉัน
มาลำ
ฉันนอนอยู่บนเตียงของโรงพยาบาลครบสิบวันแล้ว แม่ยังเป็นคนทำอาหารเจให้ฉันกินทุกวัน กลางวันแม่จะเป็นคนที่อยู่เป็นเพื่อนฉันที่โรงพยาบาล เธอจะกลับบ้านไปทำงานหลังส่งเทวดาน้อยไปโรงเรียนแล้ว ตกเย็นหลังไปรับเทวดาน้อยจากโรงเรียนแล้ว เธอจะไปส่งแม่ที่บ้านเพื่อให้แม่นอนเป็นเพื่อนหลานสาวของฉัน กิจกรรมของเธอวนเวียนอย่างนี้ตลอดทั้งสิบวันที่ผ่านมา
มาลำ
ฉันนอนอยู่บนเตียงคนไข้ มองหน้าเธอที่นั่งก้มหน้าอยู่ข้างเตียง แม่กลับไปบ้านเพื่อทำกับข้าวมาให้ฉันที่โรงพยาบาล แผลพุพองที่หัวและ หน้าของฉันเริ่มแห้งลง อาการเจ็บหน้าอกยังแปลบปลาบอยู่ตลอดเวลา ฉันบอกหมอว่า ฉันไม่อยากได้น้ำเกลือ ฉันจะพยายามกินน้ำ กินข้าวเอง ปากที่พองเจ่อของฉันยังเต็มไปด้วยเลือด ฉันจึงกลืนอะไรได้ลำบาก
มาลำ
เป็นครั้งแรกของเธอที่ได้มีโอกาสมานอนที่บ้านของฉัน ตอนค่ำมีพิธีส่งตัวเข้าหอ แม่และพ่อนั่งอยู่ข้างๆฉัน ลุงผู้ใหญ่ที่แม่เคารพมาเป็นคนส่งตัวเราทั้งสอง ลุงเริ่มต้นการส่งตัวด้วยคำกลอนที่บอกถึงการอยู่ร่วมกันของคนสองคน ลุงคุยกับเราทุกเรื่อง ถ้อยคำที่ลุงใช้เป็นคำที่กินใจ สนุก บางคำทำให้น้ำตารื้น
มาลำ
หลังฉันกลับจากเกาะ แม่มาหาฉันที่แฟลต แม่บอกว่ามีเรื่องมาปรึกษาฉัน ฉันนอนมองหน้าแม่อยู่บนเตียงหลังลงเวรดึกมา ฉันนอนฟัง แม่เล่าเรื่องโน้น เรื่องนี้ให้ฟังแล้วบอกฉันว่า มีผู้ชายส่งแม่ของเขามาสู่ขอฉัน เป็นคนที่ฉันเคยรู้จัก ถ้าฉันตอบตกลง เขาจะจัดงานแต่งงานเลย ฉันลุกขึ้นมานั่งอย่างอัตโนมัติด้วยความตกใจ มีคนอย่างนี้ในโลกหรือแม่ คนที่ไม่ได้รักกัน ไม่ได้เรียนรู้กันต้องมาอยู่ด้วยกัน แม่หัวเราะ ก็แม่ไงลูก ตอนที่ย่ามาขอแม่ให้พ่อนั้น แม่และพ่อเคยเห็นกันเพียงครั้งเดียว แม่รู้แต่ว่าพ่อหน้าตาเหมือนเด็กดื้อๆ แล้วแม่ก็แต่งงานกับพ่อ
มาลำ
เธอหายไปนาน จนวันหนึ่งเสียงเธอดังผ่านสายโทรศัพท์มา ไปเที่ยวเกาะกันไหม เธอถามฉัน ฉันหัวเราะ ถามเธอกลับไป จะหลอกฉันไปปล่อยเกาะหรือเปล่า เธอหัวเราะแล้วบอกว่า ไม่หลอกนะ เธอพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่าไม่เคยคิดที่จะหลอกฉัน เธอจะไปเขียนหนังสือที่เกาะ ไปส่งเธอหน่อยนะ รุ่นพี่จากปัตตานีเป็นหัวหน้าอุทยานอยู่ที่นั่น มีบ้านพักว่างอยู่หนึ่งหลัง เป็นเกาะในจังหวัดระยอง ชื่อเกาะมันใน อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล ไปดูกันไหม
มาลำ
เธอกลายเป็นนักเขียนเต็มตัว เธอลาออกจากงานหนังสือเสียงภูเขาเพื่อเป็นนักเขียนเพียงอย่างเดียว ยอมรับความลำบากทุกอย่างที่ประเดประดังเข้ามาเป็นความทุกข์ของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นความยากไร้ ความอดอยาก ความปวดร้าวจากแรงบีบคั้นจากครอบครัวด้วยเธอเป็นลูกชายคนโตที่เลือกทางทุกข์ หนทางก้าวเดินมืดมน ว้าเหว่โดดเดี่ยว เดียวดาย
มาลำ
เธอออกเดินทางเร่ร่อนในกรุงเทพ ไปนอนที่บ้านของน้องชายคนที่เธอรักและสนิทด้วยมากๆ เป็นน้องชายที่เคยเรียนมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี เคยได้ใช้ชีวิตร่วมกัน ร่วมทำหนังสือเลโคลนจุลสาร ทำให้รักและผูกพันกันมาก  ไปนอนตามผับของเพื่อนนักดนตรี  ห้องแคบและร้อนอบอ้าว ใช้เวลาแต่ละวันอย่างอดทน  เหมือนรอคอยอะไรบางอย่าง เหมือนชีวิตต้องขับเคี่ยวให้ผ่านไปในแต่ละวัน  เธอปวดร้าวกับสิ่งแสวงหาและความฝัน แต่เธอไม่ท้อถอย เธอสู้ต่อ แล้วเธอก็แต่งเพลงชื่อเพลง หมาจร   เธอร้องให้ฉันฟังทางโทรศัพท์
มาลำ
ฉันเรียนจบจากที่นี่อย่างมีความสุข เพื่อนฉันกลายเป็นนักพูดดีเด่นไปจริงๆ เพื่อนบอกว่า ค้นเจอแล้วว่าสิ่งที่ดีที่สุดของชีวิตคืออะไร เพื่อนไปพูดตามที่ต่างๆอย่างเชื่อมั่นและมีความสุข
มาลำ
หอพักมีทั้งหมดสิบชั้น ห้องสมุดอยู่ชั้นล่างสุด เปิดจนถึงสี่ทุ่ม ที่นั่นเป็นที่หมกตัวของฉันเช่นเคย ฉันอ่านหนังสือจนหมดทุกเล่มที่มีในห้องสมุด วนเวียนอ่านซ้ำไปซ้ำมาในบางเล่ม อาจารย์ที่ดูแลหอพักใจดีจะเปิดหอให้พาใครมาก็ได้มาร่วมปาร์ตี้ในคืนไฟรไนท์ หรือคืนวันศุกร์ของก่อนปิดเทอม จำได้ว่า มีวงดนตรีมาเล่นชื่อวงดิอินโนเซนท์ เล่นเพลงสนุกและเพราะพริ้งให้พวกเราเต้นกันทั้งคืนจนเกือบสว่าง