Skip to main content

จากหนังเรื่อง ชมรมกวีไร้ชีพ (Dead poet society) ช่วงแรกที่ครูคิตติงสอนวิชาที่ว่าด้วยกวีนิพนธ์ เขาร่ายบทกวีของ วอล วิทแมน ว่า

*“ถามตัวเองใยชีวิตมากปริศนา

ใยศรัทธายาวไกลไม่สิ้นสุด

ลางคนโง่งมเขื่องเมืองมนุษย์

ไหนความดีบริสุทธิ์แห่งชีวี


ตอบตัวเองความดีนี่ไงเล่า

เมื่อชีพเรายืนยงคงศักดิ์ศรี

ด้วยสร้างสรรค์คุณธรรมความงามดี

บทกวีชี้พลังเพื่อสังคม”


เกิดคำถามต่อท้ายจากบทกวีนั้นว่า “บทกวีของเธอจะเป็นเช่นไร” วาระนั้นดวงตาของเด็กหลายคนเปล่งประกายออกมา จะว่าไปแล้วพวกเขาก็ไม่ได้ค้นพบคำตอบนั้น แต่มันคงเหมือนพวกเขาเริ่มเห็นภาพบางอย่างเลือนรางปรากฏขึ้นในจิตไร้สำนึก มันเหมือนการมองเห็นสิ่งที่วิทยาศาสตร์กระบวนทัศน์ใหม่บอกว่า มันคือ ความทรงจำแห่งอนาคต และนั่นเองที่กลายเป็นแรงบันดาลใจให้ นิล เพอรี่ย์ ก้าวไปค้นพบว่า ที่แท้แล้วสิ่งที่เขาปรารถนาก็คือการเป็นนักแสดง


ทฤษฎีห้าขั้นของการเรียนรู้ แบบของชุมชนขวัญเมือง เชียงรายบอกว่า ขั้นที่หนึ่ง คือ ปลอดภัย เมื่อคนรู้สึกปลอดภัยแล้ว ก็ก้าวมาสู่ขั้นที่สอง คือความวางใจ เมื่อวางใจแล้ว มนุษย์ก็เกิดความผูกพัน และนั่นเองเป็นฐานสำคัญที่ทำให้เกิดขั้นที่สี่ คือ แรงบันดาลใจ และทั้งหมดส่งผลถึงขั้นที่ห้า คือ เป้าหมายของชีวิต


เมื่อกลับมาสืบค้นกระบวนการของครูคิตติง ก็พอจะเห็นได้ว่า เบื้องแรก ครูทำให้เด็กรู้สึกปลอดภัยต่อการแสดงความคิดความเห็น และการค้นหา ต่อมาก็วางใจ มั่นคงมากขึ้น เกิดความสัมพันธ์ ความผูกพัน และที่สุดหลายคนก็ได้แรงบันดาลใจ ไม่ว่าจะเป็นเด็กที่ค่อนข้างมั่นคง และกล้าหาญต่อการแสดงออกอย่าง ชาลี ดาล์ตัน หรือเด็กหนุ่มที่ไปหลงรักหญิงสาวต่างโรงเรียนอย่าง น๊อค โอเวอร์สตรีท หรือกระทั้งเด็กที่เคยขาดความมั่นใจอย่าง ทอด แอนเดอร์สัน


หลายครั้งในค่ายเยาวชน ที่เราเอาเรื่องบทกวีเข้ามาเชื่อมร้อยไว้ในกระบวนการเรียนรู้ เรามักพบว่า เด็ก ๆ มักมีความสุขกับมัน ด้วยการศึกษา ครอบครัว เพื่อน หรือสังคมในห้วงเวลานี้นั้น มีคำให้พวกเขาใช้น้อยเหลือเกิน ยิ่งในกลุ่มเพื่อนที่มักมีคำที่ขาดทั้งความไพเราะ ขาดความสัมพันธ์ ขาดมิตรภาพ และขาดทั้งจิตวิญญาณ เช่น คำผรุสวาสทั้งหลาย ทั้งเหี้ย ห่า สัตว์ อันเป็นคำที่คนเอามาใช้บ่งบอกความสัมพันธ์ว่า สนิทสนมกลมเกลียว แต่มันก็ยิ่งระคายหูเหลือเกิน


การสอน บทกวี คงไม่ได้มีจุดมุ่งหมายที่จะทำให้เด็กกลายเป็นกวี หรือเป็นศิลปิน ความจริงเขาก็ยังจะไปเป็นอะไรก็ได้ ตามวิถี ตามความปรารถนาของตัวเอง แต่บทกวีหรือศิลปะดีๆ มันทำให้เกิดแรงบันดาลใจ เมื่อนั้นเอง คำถามที่จะทรงพลัง และมีความหมายอย่างยิ่ง ก็จะปรากฏเด่นชัดในการรับรู้ของพวกเขาทั้งหลาย

บทกวีของเธอจะเป็นเช่นไร?”


*สำนวนแปลของ ซีวีดี วีดีโอ

 

 

บล็อกของ นาโก๊ะลี

นาโก๊ะลี
จะเขียนทุ่งเขียนทางเขียนช้างม้า                  เขียนความคิดขานค่าจังหวะวิถี
นาโก๊ะลี
ทนายจำเลย ชูรถเมล์จำลอง แล้วถามพยานโจทย์ ซึ่งก็คือ Jacky ตำรวจที่จับกุมจำเลยนั้นได้นั่นเอง  ทนายจำเลยถามว่า รู้ได้ไงว่า จำเลยคือคนกระทำผิด Jacky บอกว่า ก็เขาเป็นคนไล่จับจำเลยมา แล้วจำเลยก็หนีขึ้นรถเมล์  ทนายชูรถจำลองนั้นแล้วถามว่า เมื่อคุณมองดูรถเมล์ คุณเห็นมันทั้งคันหรือเปล่า เขาก็บอกว่า เปล่า อีกข้างหนึ่งก็มองไม่เห็น  ทลายจำเลยก็บอกว่า ถ้าอย่างนั้น คุณก็ไม่อาจบอกได้ว่า อีกฝั่งหนึ่งของรถเมล์เกิดอะไรขึ้น  การโต้เถียงประเด็นนี้ ทำให้ศาลพิพากษา ยกฟ้อง  แต่นี่เป็นเพียงเรื่องราวในหนังครับ วิ่งสู้ฟัดภาคแรก ของเฉินหลง  แต่เรื่องนี้ มันมีเรื่องน่าสนใจ....
นาโก๊ะลี
หากว่า ผืนแผ่นดินที่งดงาม สร้างคนให้งดงาม  แล้วผืนแผ่นดินที่ยากแค้นลำเค็ญเล่า จะสร้างคนมาแบบใด...ความจริงนี่ก็อาจเป็นคำถามที่ตอบได้ไม่ยากนัก  แต่ ความจริงจะเป็นเช่นนั้นหรือไม่...นี่ก็อาจต้องมองเข้าไปในรายละเอียดมากขึ้น...กระมัง  การเดินทางครั้งหนึ่งของชีวิต  ในซากปรักหักพัง ของภัยธรรมชาติอันได้คร่าชีวิตคนไปมากมาย  ในกลิ่นของความตายและความเศร้าโศก เราได้เห็นหน่ออ่อนของต้นหญ้าที่ผุดขึ้นมา ในความชื้น ภายใต้ซากปรักหักพังนั้น
นาโก๊ะลี
การสูญเสีย ดูจะเป็นเงื่อนไขใหญ่ที่ทำให้คนเราตกไปสู่สภาวะที่เรียกว่า “เสียศูนย์”  มีคนเคยเล่าให้ฟังว่า เมื่อสามีตาย ภรรยาตกอยู่ในสภาวะเสียศูนย์ถึงยี่สิบปี ก่อนจะฆ่าตัวตายตาม  นี่เป็นเรื่องจริงหรือเรื่องโม้ก็ไม่อาจรู้ได้  แต่ความจริงที่เห็นโดยส่วนใหญ่ ความสูญเสียก็มักเป็นเรื่องที่กระทบกับหัวใจคนอย่างรุนแรง  เช่น อกหัก  หรือ คนที่เรารักตายไป  หรือความพ่ายแพ้  ซึ่งความพ่ายแพ้นี่ก็คือการเสียฟอร์ม มันก็คือการเสียศูนย์ความเป็นตัวตนนั่นเอง
นาโก๊ะลี
ชีวิตหลุดลอยไปในบางวาระ           ซึ่งในสถานะแห่งมนุษย์ กับการเดินทางอันไม่สิ้นสุด            บางคราวนั้นจึงสะดุด จึงทรุดโทรม พลาดหวังพังพ่ายสลายสิ้น             ทั่วผืนแผ่นดินทุกข์ท่วมถั่งโถม เสพย์สิ่งใดได้บ้างพอปลอบประโลม เมามายโง่โงมระทมร้าว ภาวะเช่นไรเหนี่ยวนำพา                เมื่อความปรารถนาที่บอกกล่าว ล้มเหลวไปในทางที่ทอดยาว     …
นาโก๊ะลี
คนสวนนักสะสมเมล็ดพันธุ์
นาโก๊ะลี
บ่อยไป หรือหลายครั้งหลายหนในการงานของชีวิต  ที่เราต้องทำงานบางอย่าง  บางอย่างที่ไม่ใช่หน้าที่  ไม่ใช่งานของเรา  เพียงแต่ว่า  นั่นคืองานที่มันเกี่ยวข้องกับเรา งานที่ต้องเกื้อหนุนงานของเรา  และเราก็มักจะไม่พอใจที่คนที่เขามีหน้าที่นั้น เขาทำไม่ได้อย่างที่เราต้องการ 
นาโก๊ะลี
ยามที่บางคนกล่าวคำว่า “มันเป็นสิ่งสำคัญในชีวิต” มันฟังดูคล้ายเขาจะบอกว่า สิ่งที่เขากำลังกล่าวถึงอยู่นั้นมันเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขา ไม่มีสิ่งใดจะสำคัญกว่านี้ไปอีกแล้ว.... และหลายครั้งที่เราจะพบว่า คนๆ เดียวกันนี้ก็กล่าวถึงสิ่งอื่นๆ ในเรื่องอื่นๆ ในวาระอื่นๆ ว่า “มันเป็นสิ่งสำคัญในชีวิต” และด้วยท่าทีที่คล้ายว่า สิ่งนั้นเป็นที่สุดแห่งความสำคัญดั่งเดียวกับทุกๆ ครั้ง ทุกๆ เรื่องที่ผ่านมา
นาโก๊ะลี
ถ้อยคำที่ประทับใจ แม่ทับเหวินไท่ บอกกับแม่ทัพ ฮัวมู่หลานว่า “เมื่อเจ้าสวมเกราะแม่ทัพ ชีวิตก็ไม่ใช่ของเจ้าคนเดียว” ในสมรภูมิหนึ่ง เมื่อกองทัพของฮัวมู่หลานถูกหักหลัง น้องชายลูกพี่ลูกน้องของฮัวมู่หลาน และทหารจำนวนหนึ่งถูกจับเป็นเชลย และถูกเอามาล่อให้ทหารออกไปช่วย ในสภาวะที่ไม่อาจทำอย่างไรได้ มีทหารคนหนึ่งบอกกับแม่ทัพว่า เราต้องออกไปช่วยพวกเขา “นั่นเสี่ยวหู่นะ เขาเป็นน้องชายท่านนะ” แม่ทัพบอกว่า “พวกเจ้าก็เป็นพี่น้องของข้าเช่นเดียวกัน”
นาโก๊ะลี
วัดเซนแห่งหนึ่ง พระเซนต่างก็ปฏิบัติภาวนาในวิถีแห่งเซน คราวหนึ่งในวัดเกิดเรื่องขึ้น มีของหายในวัด หลายครั้งหลายหน เกิดความเดือดร้อนไปทั้งวัด เมื่อทำการสืบสวน สอบสวนในที่สุดก็พบขโมย ซึ่งก็เป็นสมาชิกคนหนึ่งของวัด มีการเรียกประชุมสมาชิกทั้งวัด เหล่าพระเซนทั้งหลายต่างก็เรียกร้องให้ขับขโมยออกจากวัด ทั้งมีเสียงสนับสนุนมากมายต่อการลงโทษขั้นเด็ดขาดด้วยการขับออกจากวัดนั้น ในที่สุดเจ้าอาวาสก็กล่าวต่อคณะสงฆ์ และสมาชิกวัดทั้งหมดว่า “พวกเธอทั้งหลายผู้ได้เรียนรู้แล้วถึงความถูกต้องดีงาม พวกเธอสามารถใช้ชีวิตอย่างรู้ผิดชอบชั่วดี พวกเธอทั้งหลายจึงสมควรเป็นผู้ออกจากวัด แต่ผู้ที่เป็นขโมยนั้น…
นาโก๊ะลี
คนสวน ปลูกพืชผักธัญญาหาร เฝ้าดูกี่เติบโต จนถึงการเก็บเกี่ยวผลผลิต คนสวนบอกว่า เมื่อต้นไม้เริ่มงอกออกมา มันต้องการอาหาร ต้องการการบำรุงรักษา จนกว่ามันจะโตเต็มที่ เริ่มให้ดอกผล บางอย่างเก็บดอก บางอย่างเก็บใบ บางอย่างเก็บผล ก็ว่ากันไป แต่เมื่อมันให้ผลนั่นแล้ว มันก็จะค่อยๆ แห้งเหี่ยว ตายไป ระหว่างนี้มันไม่ต้องการอาหารมาก มันไม่ต้องการการบำรุงรักษามาก.......
นาโก๊ะลี
ในชีวิตของเรา มีความพยายามมากมายนัก พยายามที่จะทำบางสิ่ง พยายามที่จะไม่ทำบางสิ่ง พยายามที่จะรัก พยายามที่จะไม่รัก ดูเหมือนโลกไม่ได้จัดวางชีวิตเราให้เป็นไปตามความปรารถนา และหลายครั้งเราก็เชื่อได้ว่า ความสมบูรณ์พร้อมนั้น ไม่มีอยู่จริงบนโลกใบนี้ แม้แต่คนที่เขาแสดงออกว่า ชีวิตเขาช่างพรั่งพร้อม ได้ทุกอย่างตามที่ตนปรารถนา นั่นก็เป็นเพียงการโม้โป้ปดเท่านั้นเองกระมัง เพราะที่สุดแล้วเขาอาจซ่อนบางสิ่งเอาไว้ บางสิ่งที่เขามิได้ประสบผลสำเร็จแต่อย่างใด