Skip to main content
ผมผลักประตูออกจากบ้านตั้งแต่เช้า  จ้อยนัดพวกเราไว้ที่ศาลากลางหมู่บ้านเหมือนทุกวัน  วันนี้บอยจัดแจงเตรียมเม็ดหัวครกมาด้วย แปลกจริงขณะที่บอยบอกชื่อของมัน บ่าวหัวเราะกับชื่อ แปลกๆ แล้วบอกบอยว่าที่บ้านเราเขาเรียกเม็ดมะม่วงหิมพานต์ วันนี้เราจะเล่นขว้างหัวงู

ระหว่างทางสู่ศาลากลางหมู่บ้านกระจัดกระจายไปด้วยผีตากผ้าอ้อมขาวไปทั้งทุ่ง  บ่าว นั่งลงจ้องมองอย่างพินิจและยิ้มก่อนที่แดดเช้าจะรีบเก็บผีตากผ้าอ้อมเสียหมดทีละน้อย

ตั้งแต่เมื่อวานที่เราพากันไปเก็บเม็ดหัวครกหลังบ้านจ้อย เราเลือกเอาผลสุกที่เม็ดจะเป็น สีน้ำตาลเข้มแล้ว  ผมกับบ่าวเก็บไม่เป็นกลับมาเสื้อผ้าเลอะเทอะไปด้วยยางจนเสื้อผ้าดูด่างๆ ดำๆ น่าขัน เสียจริง
“บอย…ทางนี้ๆ  เร็วเข้าๆ” แดงตะโกนเรียกเร่งเราให้รีบเดินมาแต่ไกล
“บ่าว…น้อง…” บอยตะโกนเรียกบ้างขณะที่เรายังเดินชมนกชมไม้กันอยู่

เรารีบจ้ำเดินเร็วขึ้นตามคำเร่งของแดงรี่ตรงไปที่ศาลา  เด็กๆ หลายคนรอเราอยู่แล้ว ทุกคนต่างหิ้วถุงเม็ดหัวครกของตัวเองมาจากบ้านรวมทั้งเรา ผมรู้สึกแปลกตากับความรู้สึกนี้ ปกติที่เห็นกันอยู่แถวบ้านในเมืองของเราเจอะเจอแต่เด็กๆ ที่หิ้วพวกการ์ดสะสมรูปการ์ตูนหรือ พวกเกมกดต่างๆ มาโอดกันมากกว่า  

ผมโปรยยิ้มให้กับทุกคนแทนคำขอโทษที่เรามาสาย ไม่ทันไรแดงก็ลงมือวาดเส้นเป็น วงกลมเล็กแล้ววาดวงรีอันยาวอีกวงต่อกัน
“แดงทำอะไร? ” บ่าวถาม
“วาดงู” แดงตอบ
“วาดงูเหรอ ทำไมล่ะ?”
“วันนี้เราจะเล่นขว้างหัวงู เราต้องวาดงูอย่างนี้แหละ เอาไว้วางเม็ดหัวครกต่อกันเป็นแถว ยาวดูแล้วเหมือนงูน่ะสิ”
บ่าวยิ้มตอบเพื่อนอย่างบริสุทธิ์

“ไม่เคยเล่นเหรอ?” แดงถามกลับ
“ไม่เลย  ที่บ้านเราไม่มีต้นหัวครกให้เก็บหรอก มีแต่เม็ดที่เคยสั่งกินตามร้านอาหาร หรือซื้อเอาตามตลาด” บ่าวอธิบาย  แดงยิ้ม

บอยชิงว่าดังขึ้น บอกกติกาและเรียกเก็บเม็ดหัวครกจากเพื่อนๆ มาคนละ 2 เม็ด ทุกคนทำตามคำบอกของบอยเหมือนเคย แดงรับหน้าที่วางเม็ดหัวครกเม็ดหนึ่งไว้ในวงกลมเล็ก แล้ววางที่เหลือเรียงยาวต่อกันเป็นแถวคล้ายกระดูกงูไว้ในวงรีอีกวงูที่วาดไว้ก่อนแล้ว  การละเล่นนี้นับเป็นการละเล่นแปลกใหม่ในชีวิตของเราทั้งสองพี่น้อง  บ่าวยืนพินิจอยู่นานก่อนหันไปถามบอยเบาๆ

“เล่นอย่างไรล่ะ?”
“หาแม่เกยไว้สักเม็ด”
บ่าวฟังบอยแล้วหัวเราะเรื่องแม่เกย
“บอย…อะไรคือแม่เกย?”
“แม่เกยก็คือเม็ดที่เราเลือกไว้สำหรับเป็นเม็ดที่จะขว้างออกไปให้โดนเม็ดอื่น ต้องเลือกเม็ดโตๆ น้ำหนักดีหน่อยนะ เวลาขว้างจะได้กระชับมือ น้ำหนักดีก็เมื่อไปโดนเม็ดไหน แล้วกระเด็นออกจากตัวงูที่วาดไว้แล้ว เราก็จะได้เม็ดหัวครกตั้งแต่เม็ดนั้นไปจนสุดปลายหาก เลยนะ”
บอยบอกเรื่องแม่เกยพร้อมอธิบายกติกา

“โอ้โห! …น่าสนุกนะ” บ่าวยิ้ม บอยยิ้มตอบ
บ่าวและผมตื่นเต้นกับการหาแม่เกยของตัวเองอยู่ครู่หนึ่งจนได้มา 2-3 เม็ด แบมือถ่วงน้ำหนักคะเนก่อนได้แม่เกยลำดับ 1-3 เตรียมไว้

ขว้างหัวงูเป็นการละเล่นประลองความแม่นยำของเด็กๆ ที่นิยมเล่นกันแถวชนบทปักษ์ใต้ เมื่อหน้าแล้งมาถึงและวันปิดเทอม  เพราะเป็นช่วงที่ต้นหัวครกจะออกผลสุกสีเหลืองบ้างสีส้มและ บ้างก็สีแดงเต็มต้นให้เด็กๆ เก็บมากินกันส่วนที่เป็นเม็ดดูจะมีคุณค่าที่สุดในบรรดาส่วนต่างๆ ของหัวครก ใบอ่อนใช้เป็นผักจิ้มเครื่องเคียง ผลก็กินได้ ส่วนเม็ดที่โผล่ออกมาดูแปลกตานั่นผ่าออก ก็เจอเม็ดในสีขาวอีกทีหนึ่งนำมาประกอบอาหารได้หลายอย่าง เด็กๆ ชอบให้แม่ผัดน้ำผึ้ง(น้ำตาลทรายแดง) บ้างเอาหมกไฟทุบกินกันอย่างสนุกสนาน

บ่าวทำท่าเล็งเป้าไปที่หัวงูตามที่บอยบอกแล้วขว้างมันออกไป  เพื่อนๆ ที่นำโดยจ้อย หัวเราะลั่นเมื่อแม่เกยของบ่าวพลาดเป้าไปอย่างไม่เฉียดเลยแม้แต่น้อย  คราวต่อไปเป็นจอมแม่น มือฉมัง  จ้อยเล็งตรงหัวแล้วขว้างไปด้วยความแรงพอประมาณ  แม่เกยของจ้อยพุ่งตรงไปที่หัวงู โดนแล้วกระเด็นออกจากวงกลมเล็กๆ ทั้งคู่ จ้อยกระโดดเหยงๆ ดีใจชูกำปั้นเมื่อเห็นผีมือการขว้าง ของตัวเอง  เม็ดหัวครกกระเด็นออกไปคนละทาง เพื่อนๆ โห่ร้องกันสนุกสนาน
“เห็นมั๊ยๆๆ” จ้อยทำท่าเย้ยเพื่อนๆ อยู่นัยๆ

จ้อยเก็บเม็ดหัวครกทั้งหมดเป็นรางวัลจากความแม่น บอยรวมรวมเม็ดหัวครกสำหรับการ เล่นครั้งต่อไปแล้วเรียงไว้อย่างเดิม คราวนี้ผมเริ่มก่อน ผมพยายามเลียนแบบทำท่าทางตาหยีๆ เหมือนที่จ้อยทำเผื่อจะแม่นอย่างจ้อยบ้าง

ผมเงื้อมือขว้างแม่เกยพุ่งตรงออกไปยังส่วนปลายหาง เพื่อนๆ โห่ร้องดีใจแล้วหันมายิ้ม จับมือแสดงความยินดี รางวัลของผมเป็นเม็ดหัวครก 5 เม็ดต่อมาเป็นบอยที่พลาดเป้า แดง บ่าว และคนอื่นๆ ตามลำลับผลัดเปลี่ยนกันไปอย่างสนุกสนาน การแข่งขันดำเนินไปเรื่อยๆ จนตะวัน ล่วงบ่ายพวกเรารวบรวมเม็ดหัวครกของทุกคนมารวมไว้ด้วยกันเป็นส่วนกลาง แดงวิ่งไปหาหม้อ เก่าๆ ที่บ้านแล้ววิ่งกลับมา จ้อยจุดไปแล้วเราก็เอาเม็ดหัวครกทั้งหมดเทลงหม้อนั้นหมกไฟรวมกัน ไฟลุกท่วมหม้อเพราะยางของมันเป็นเชื้อไฟอย่างดี

ครู่หนึ่งเม็ดหัวครกในหม้อกลายเป็นสีดำอย่างตอตะโก จ้อยคว้ำหม้อให้เม็ดหัวครกเกลื่อน พื้น บอยหยิบเม็ดหัวครกที่หมกจนสุกเป็นสีดำมาเคาะให้แตกแล้วยื่นเม็ดในสีขาวหอมให้บ่าวและ ผมกินก่อน
“อร่อยนะ  หัวครกหมกนี่อร่อยจริงๆ” ทั้งมือและแก้มของผมเปื้นสีดำจากเม็ดหัวครกจนดู มอมแมม เพื่อนๆ พากันหัวเราะและเราก็สนุกด้วยกัน

“ขว้างหัวงูแล้วหมกหัวครก”
“พรุ่งนี้เอาอีกนะ ผมชักชอบแล้วสิ”
บ่าวโปรยยิ้มให้เพื่อนๆ แล้วมองมาทางผม
“พี่กินแม่เกยเสียแล้ว” บ่าวพูดแล้วเพื่อนๆ ก็หัวเราะ
“แต่ก็อร่อยดี”
คราวนี้เพื่อนๆ เฮกันลั่นกว่าเก่า ควันไฟยังโขมงอยู่ข้างศาลา กลิ่นเม็ดหัวครกหมกลอยไป ในสายลม ผมนึกอยู่ว่าเปิดเทอมคราวนี้จะกลับบ้านไปปลูกต้นหัวครกไว้เก็บเม็ดมาหมกกิน เล่นสักสองสามต้น

 

บล็อกของ ปรเมศวร์ กาแก้ว

ปรเมศวร์ กาแก้ว
ผมอยากกล่าวถึงพรรคการเมืองผมอยากกล่าวถึงพรรคการเมือง……พ ร ร ค ก า ร เ มื อ ง
ปรเมศวร์ กาแก้ว
ปรเมศวร์ กาแก้ว
ครอบครัวเราก็เคยมีสวนยาง
ปรเมศวร์ กาแก้ว
 โอกาสดีที่ผมได้กลับมาราไวย์ และภูเก็ตอีกครั้งหนึ่งหลังจากห่างหายภูเก็ตมาหลายปี
ปรเมศวร์ กาแก้ว
  เมื่อพบปีกบาง ๆ ที่ฉันทำหล่นหายไป แววตาฉันยิ้ม และเหมือนฉันได้ชุบหัวใจ ให้พบกับท้องฟ้าสดใสอีกครั้ง เป็นวันพิเศษ ที่จะได้พบเจ้าดอกไม้  ได้ตามหาทุกเวลาที่หล่นหายไป เป็นปีกบาง ๆ อันแสนวิเศษ มีเธอเคียงข้าง อันตรายใดเล่าจะยั่งยืน ต่อจากนี้ไป ฉันจะดูแลเธอด้วยรัก จะปกป้องและเป็นที่ยึดเหนี่ยวให้เธอเอง เธอเป็นปีกบาง ๆ อันแสนวิเศษ เป็นหนึ่งเดียวมาตราบทุกคืนวัน มิอาจผันแปรเป็นอื่น ฉันจะไม่ทำให้เธอหล่นหายอีก ฉันสัญญา แมลงปอตัวน้อยอย่างฉัน จะดูแลเธออย่างดี เพราะเธอเป็นปีกบาง ๆ อันแสนวิเศษ     ดาลใจจากบทกวีของน้องสาว "ann5111113010" ใน "yos jazz"
ปรเมศวร์ กาแก้ว
ฉันจะยอมรับทุกอย่างไว้คนเดียว จะไม่ยอมให้เธอทนทุกข์  หวังเพียงให้เธอต่อสู้กับโชคชะตาที่เล่นตลกกับเรา และปลดปล่อยความเศร้าทิ้งไป คิดหรือว่าฉันปรารถนาความปวดร้าว คนอื่นต่างตั้งความหวังกับฉันและเธอ ใครบ้างอยากผิดหวังซ้ำ ไม่เลย.... ยามเธอโอบกอดฉัน...ฟ้าก็สดใส เมฆขาวชุ่มเย็นในสายลม ฉันไม่เคยเจออย่างนี้ แม้พรุ่งนี้มีอะไรให้ต้องคิด เธอก็จะพาฉันกางปีกบินไป ให้ฉันรู้จักชีวิต ให้ฉันลืมความโศกเศร้าปวดร้าว ในนาทีอันยาวนาน...ไม่มีวันหวนคืน เพราะนั่นคือเรา อะไรก็ไร้ความหมายเมื่อเราต้องเดินคนละทาง เธอบอกเองว่าฉันเป็นใคร แม้ฉันจะไม่ยอมแพ้....เธอก็เหมือนกัน สุขใจที่เคยพเนจรไปด้วยเธอ ฉันรู้,…
ปรเมศวร์ กาแก้ว
                                                                ดอกหญ้าแห่งเกาะโคบ วันแดดโอบลมรื่นรวยแต่งริ้วบานกรีบสวยชูดอกชื่นระรื่นลม ดอกหญ้ากลางทะเลอวยเสน่ห์ดูน่าชมชวนแมลงมาดอมดมต่อความงามสะพรั่งงาม …
ปรเมศวร์ กาแก้ว
ไก่แจ้สีขาวขันคำ               เหนือยุ้งเก่าคร่ำบอกกาลนานสมัยรุ่งแล้วเจื้อยแจ้วแว่วไกล      ปลุกชีวิตให้ตื่นพบวิถีครรลองชาวนาทำนาช่ำชอง             เรียบง่ายเรืองรองหาผักหาปลาปรุงกินหว่านกล้าเป็นข้าวแต่งดิน      หล่อเลี้ยงชีวินช่วยเก็บช่วยเกี่ยวผลพันธุ์สืบทอดวิถีแบ่งปัน               แต่โบราณอันเกื้อกูลน้ำมิตรน้ำใจจึงมีข้าวเหลืองอำไพ  …
ปรเมศวร์ กาแก้ว
ในวันที่ฝนเดือนห้ากำลังโหมแรงไปทั่ว ละอองฝนชุ่มหลงฤดูอาจทำให้ผู้เฒ่าแห่งหมู่บ้านรู้สึกได้ว่า องค์ความรู้เรื่องฤดูกาลและช่วงเวลา "ฝนแปดแดดสี่" ตามลักษณะภูมิประเทศคาบสมุทรของภาคใต้ได้คลาดเคลื่อนไปบ้างแล้ว ด้วยเพราะทางเดินของลมฝนทั้ง 2 ฝั่งทะเล (โดยภาวะปกติแล้ว ภาคใต้และลุ่มทะเลสาบจะมีฤดูฝนยาว 8 เดือน ต่อด้วยฤดูร้อน 4 เดือนในรอบ 1 ปี) ที่ถ่ายทอดกันมาจากคนรุ่นก่อนแปลกหูแปลกตาไปจากอดีตบ้างแล้ว