Skip to main content

  


 

แผ่นดินที่คุณยืนอยู่ กลืนกินวันเดือนปีไปหมดแล้ว
คายเมล็ดงอกตามก้อนกรวดดิน
ดอกหญ้ามีที่ว่างไหวไกลในแดดกลางวัน
หลับใหลไปท่ามกลางเสียงแมลงกลางคืน
วันสายฝนโปรย ใบไม้ตั้งวงสนทนา
คุณขุดดินอีกหลุม โลกเผยความลับใต้ผืนดินอีกครั้ง
ความเงียบในหลุมใต้ดิน คุณเดินทางไปพบเอง
ความเงียบในโลกใต้ดิน คุณค้นพบรหัสลับ
นำทางคุณไปสู่ความหวังเบิกบานสงบเย็น
เพียงเห็นรากงอกอยู่นอกสายตา หินก็กลายเป็นสีเสื้อผ้านักบวช
แมงดินตาย ไม้ดอกใหม่กำลังบานตามมา
ใฝ่ฝันถึงโลกใด โลกอื่น
คุณยืนอยู่ในเช้ายันค่ำด้วยพลังของแสงแดด
อานุภาพฟ้าฝนในฤดูฝน
ยอดเขาผาแดงมีดวงตามองคุณอยู่
หลับตาก็มองเห็นความพยายาม
เคลื่อนไหวก็เห็นร่องรอยรำลึกถึงความงามโพ้นอดีตกาล
ใบกล้วยฉีกเป็นริ้วพร้อมกันในวันคืนพายุพัดแรง
ใบกล้วยใบใหม่โต้ลมเป็นพัดโบก บอกหนทางเริ่มต้นใหม่
ปลายรากมีเนื้อเยื่อเติบโต
ปลายยอดมีกิ่งใบให้พร้อมเผชิญ
แผ่นดินที่คุณยืนอยู่ คุณมั่นใจในพลังโอบอุ้ม
หันหน้าไปทางใด ทางนั้นเรียกให้คุณรับพลังความหวัง
มายืนอยู่หน้าหุบผาแดง หลงลืมคืนวันเดือนปี
มุ่งมาสู่ดินแดนแห่งนี้ อย่าพกเวลาเดินทางกลับมาด้วย
แผ่นดินจะยอกย้อนให้คุณหัวหมุน หลงใหลง่ายดาย
ยอมเป็นมิตรให้กับอากาศรอบตัวคุณ
เก็บความใฝ่ฝันไว้เดินทาง ก้าวต่อไป


คำ พอวา
วันมาเยือนไร่หุบเขาผาแดง

 

 

บล็อกของ กวีประชาไท

กวีประชาไท
บทกวีจาก กวีราษฎร และกวีรากหญ้า ถึง สมัคร สุนทรเวช
กวีประชาไท
14 พย 52 ถึงพี่สาวผู้จากไปไกลลับหล้า มีนามว่าเจ้ขกชกหมัดตรง พี่ยืนหยัดซัดเจ๊กลิ้มยิ้มอย่างทะนง พี่ช่างองอาจหาญกล้าสง่างาม
กวีประชาไท
    เจ้านกขวัญแก้ว ดึกดื่นแล้วยังหลงไพร เจ้าเกิดเติบโตอย่างไร หัวใจจึงถูกขังกรง  
กวีประชาไท
เคยย้อนถามตัวเองบ้างหรือเปล่า                 ที่ผ่านมาใครเล่าทำฉิบหาย ผืนแผ่นดินร้าวร้อนลุกเป็นไฟ                     ฝีมือใครวายวอดทุกวี่วัน
กวีประชาไท
    ในนามของความจน                    กูคือ ผู้ทุกข์ทนแห่งยุคสมัย เลือดและเนื้อหลั่งรินไป               กองกระดูกน้ำตาใครมหึมา
กวีประชาไท
ในบรรดาทุกข์ทั้งมวลที่ฉันมีอยู่ ให้ประตูทุกบานได้ขานแย้ม ในห้วงอับอารมณ์อันขื่นแซม ให้เติมแต้มตื่นหวังครั้งชีวิต ฯ
กวีประชาไท
สักวันจะลองเป็นบ้าละความปรารถนาฝันใฝ่เดิน เดิน ฉันจะเดินไปถึงไหนก็ให้รู้กัน
กวีประชาไท
* จุดดาวแดงแต่งกองทัพประชาไท ในความมืดขับทะมึนขึ้นไขแสง กาฬปักษ์ดักดานใกล้เปลี่ยนแปลง แจ้งกระจ่างโดยตีนราษฎรเดิน
กวีประชาไท
โดยน้ำค้างเดื่อนฟ้า               ผลัดละอองเกาะนิ่งแวววาวรอง                ฉ่ำแล้งตามพื้นพุ่มพฤกษ์ผอง            ผืนแผ่นลุกตื่นย่ำเยื้องแย้ง                อย่างเช้าชื่นทวน ฯลฯ
กวีประชาไท
ขอเธอเป็นเช่นดวงดาวที่พราวแสง                   เด่นสีแดงพร่างฟ้าเวหาหนสาดแสงส่องทำลายล้างความมืดมน                เพื่อผองชนคนทุกข์ยากฝากชีวี
กวีประชาไท
สีคนรวมก่อขึ้น                 เป็นมา เล่าแลด้วยเชื่อถือศรัทธา             แกร่งกล้าบริสุทธิ์ดุจมหา -               กษัตริย์ พิศพึงกระทั่งทุกข์ทายท้า            ต่อนี้หน้าหลัง ฯลฯ เสียงสีที่มีไซร้                  ที่ขานไข ที่ใฝ่หวังจาก…