Skip to main content

 

แล้วดอกจานบ้านนาก็ร่วงหล่น           จากแล้งฝนผ่านพ้นสู่เหน็บหนาว

แสงตะเกียงดวงน้อยก็ดับยาว            สายลมหนาวพาความเศร้ายังบ้านนา

คือเรื่องราวหญิงชั่วจากแดนไกล        คือตัวแทนในยุคสมัยตีคุณค่า

ผ่านวัตถุผ่านเงินผ่านมายา                แล้ววันหนึ่งหญิงต่ำช้าก็ล้มลง

 

เธอล้มลงในผืนดินแตกระแหง           ก็ผู้คนยื้อแย่งแข่งคุณค่า

บ้านใครใหญ่บ้านใครโตมีราคา          มีลูกสาวเอามาประชันกัน

 

เธอล้มลงท่ามกลางความอดยาก        คนอีกฝากอ้วนอิ่มกว่าไหนๆ

แต่อีกฝากนอนแห้งรอความตาย        นี่หรือไทยต่อไทย..ไทยเท่าเทียม

 

เธอล้มลงต่อข้อครหา                      ว่าคือหญิงชั่วช้าไร้ศักดิ์ศรี

เป็นกากเดนสังคมของคนดี               จึงโบยตีด้วยแซ่ศีลธรรม

 

เธอล้มลงในเมืองป่าคอนกรีต            เมืองสีซีดคละคลุ้งกามสมัย

เธอผิดบาปต่ำช้าหรืออย่างไร            ที่ทอดกายคลายเหงาเมืองเมามัว

 

ใช่ไหม..เธอคือละครน้ำเน่า              คือฉากตอนเก่าๆไร้คุณค่า

เป็นความตายของหญิงชั่วไร้ราคา      คือมายาหลอกหลอนทุกตอนไป


แล้วดอกคูณบ้านนาก็เหี่ยวเฉา
          มีแต่เสียงแคนเศร้าเป่าเร่หา

แม่จำเรียงเรไรของบ้านนา               วันกลับมาเจ้าเหลือเพียงเถ้าธุลี

 

ปราโมทย์ แสนสวาสดิ์

 

 

 

บล็อกของ กวีประชาไท

กวีประชาไท
เสียง อิ่มอดอ่อนล้า             โรยแรง ลือ    เล่าความจำแฝง          เหลื่อมเร้น เสียง ลือเล่าตายแหง           เสร็จส่ง เรื่องฤๅ เล่า   เจื่อนเก้อหน้าเฟ้น        เก่าพร้อมใหม่หยิม ฯลฯ
กวีประชาไท
  แล้วดอกจานบ้านนาก็ร่วงหล่น           จากแล้งฝนผ่านพ้นสู่เหน็บหนาว แสงตะเกียงดวงน้อยก็ดับยาว            สายลมหนาวพาความเศร้ายังบ้านนา
กวีประชาไท
สิ้นเดือนเดินทางมาพร้อมกับว่างเปล่า
กวีประชาไท
ยุคเยื้องกรายย่ำเท้า หนาวลึก สารสื่อเร่งรู้สึก ท่ารู้ ความเป็นอยู่ด้านนึก ตกดิ่ง แล้วฤๅ เรียกว่าต่างกลุ่มกู้ ชาติเชื้อชนผอง ฯลฯ
กวีประชาไท
  โบยตีฉันเถิดความทรงจำ บัดนี้, ฉันยอมจำนนต่อทุกสิ่งแล้ว ต่อวิญญาณอันพ่ายพังกับความฝันในเวิ้งแล้ง ทิ้งไว้เพียงรอยเท้าในดินทราย
กวีประชาไท
มาเยี่ยมเยือนเพื่อนเก่าคนเคยรัก มาไถ่ถามว่าเหนื่อยหนักและท้อไหม กับชีวิตกับเรื่องราวความเป็นไป เหล้าจอกนี้รินให้เพื่อนดื่มกิน
กวีประชาไท
หนึ่งหยดพรสวัสดิ์นี้          สุขสรรค์ หยดเผื่อไว้เอื้อปัน            ตื่นย้ำ โดยลุคลื่นคลี่นครร-         ลองคลื่น ที่นี่ที่อื่นล้ำ                     หยั่งปลื้มปรีดิ์ถึง ฯลฯ 
กวีประชาไท
คนตายก็ตายไป คนอยู่ก็อยู่ไป ชีวิตหนึ่ง..ก่อนสู่เชิงตะกอน  
กวีประชาไท
    อรุณรุ่งแห่งการต่อสู้ฉายฉานแจ่มชัด ดั่งจะบอกว่า “แนวทางของประชาชนก็คือแนวทางประชาชน ดั่งจะบอกว่า “แนวทางของเผด็จการก็คือแนวทางของเผด็จการ
กวีประชาไท
    จึงใฝ่ฝันถึงวันที่สวยงาม               หลังโมงยามทะเลคลั่งฟ้าสดใส ชุบชีวิตฟื้นตื่นจากเดียวดาย          ปลุกดวงดาวพร่างพรายกลับคืนมา
กวีประชาไท
หากไทยไม่รู้จัก              รากฐานชาติย่อมย่อยแหลกราน    ทุกครั้งคนทุกส่วนอาจหาญ         โหมหักปลุกคลั่งไคล้เผลอพลั้ง    พ่ายเพ้อนิรันดร ฯลฯ