Skip to main content

เสียง อิ่มอดอ่อนล้า             โรยแรง

ลือ    เล่าความจำแฝง          เหลื่อมเร้น

เสียง ลือเล่าตายแหง           เสร็จส่ง เรื่องฤๅ

เล่า   เจื่อนเก้อหน้าเฟ้น        เก่าพร้อมใหม่หยิม ฯลฯ


 

( ) อ้าง ปรากฏว่าชอบ             อัน รักตอบที่รัก..ยิ้ม

ใด ปรากฏภาพพิมพ์                   พี่ ประทับไว้ใจเธอ ฯ

 

( ) เอย รากหญ้า รากขวัญ       เสียง รากฝัน รากใฝ่เพ้อ

ย่อม ชี้โพรงละเมอ...                 ยอ เปื่อยไหว ให้รากตาม ฯ


 

( ) เปรียบคลื่นคนปนเปลว        มาหลอม..เหลวหลักหวั่นคร้าม

มีรากขวัญไหวงาม                     ให้หน่วงเหนี่ยวเมื่อเกี่ยวกราย ฯ


 

( ) เห็นเปลือกห่อหุ้มอยู่           ยิ่งพิศดูรู้ค่าหมาย

โดยรากแก้วธุลีทราย                  ผู้หล่อเลี้ยงให้เพียงพอ ฯ


 

( ) ปรากฏให้เชื่อถือ               ฤๅ แปรสื่อแล่ แง่ง้อ

เมื่อถึงคราวเรียกขอ -                 ร้องขยายแก่นหัวใจ ฯ


 

( ) ร้องขอต่อรากหวัง              ฤๅ เล่าดั่งแยบยลไหว

สักเช้าผ่องอำไพ ”…                แต่กลบด้านมืดจืดจาง ฯ


 

( ) แฝงชั่วสหัสสวรรษ            ร้อนหนาวจัด ใจวายว้าง

แต่ละอิ่มอดทาง                       สืบทอดรุ่นสู่รุ่นมา ฯ


 

( ) ปรากฏ ประสบการณ์         แรงลูกหลาน – ลานโรยล้า

ตำนานทับซ้อนหน้า -                 เสียง ฤๅ อึ้ง จึ่ง เออออ...


 

( ) เสียงลือซ้ำ อำนาจ            อภิชาตประกาศพ้อ...

กำเนิดงามเกิดก่อ -                   กระจ่างกล้าสง่าทวน ฯ


 

( ๑๐ ) เสียง ลือแต่ละเสียง        ลือ ถ้อยเรียงเสียงร้อยหวน

เสียง โพลงผ่าว..รัญจวน -          เล่า จากนี่จบที่ใด ฯ


 

( ๑๑ ) อ้าง อเสียงเล่าอ้าง      อัน เผยพลางแผ่วแว่วไหว

ใด หนออิทธิพลใคร่...               พี่ เพียรรู้สึกนึกมา ฯ


 

( ๑๒ ) เอย เสียงลือเสียงเล่า       เสียง ใหม่เก่าผ่านผวา

ย่อม ด้านชินย้อนว่า...                ยอ เปื่อยหลักที่รักชัง !.

                         

                                                                   ณรงค์ยุทธ  โคตรคำ

 

 

บล็อกของ กวีประชาไท

กวีประชาไท
บทกวีจาก กวีราษฎร และกวีรากหญ้า ถึง สมัคร สุนทรเวช
กวีประชาไท
14 พย 52 ถึงพี่สาวผู้จากไปไกลลับหล้า มีนามว่าเจ้ขกชกหมัดตรง พี่ยืนหยัดซัดเจ๊กลิ้มยิ้มอย่างทะนง พี่ช่างองอาจหาญกล้าสง่างาม
กวีประชาไท
    เจ้านกขวัญแก้ว ดึกดื่นแล้วยังหลงไพร เจ้าเกิดเติบโตอย่างไร หัวใจจึงถูกขังกรง  
กวีประชาไท
เคยย้อนถามตัวเองบ้างหรือเปล่า                 ที่ผ่านมาใครเล่าทำฉิบหาย ผืนแผ่นดินร้าวร้อนลุกเป็นไฟ                     ฝีมือใครวายวอดทุกวี่วัน
กวีประชาไท
    ในนามของความจน                    กูคือ ผู้ทุกข์ทนแห่งยุคสมัย เลือดและเนื้อหลั่งรินไป               กองกระดูกน้ำตาใครมหึมา
กวีประชาไท
ในบรรดาทุกข์ทั้งมวลที่ฉันมีอยู่ ให้ประตูทุกบานได้ขานแย้ม ในห้วงอับอารมณ์อันขื่นแซม ให้เติมแต้มตื่นหวังครั้งชีวิต ฯ
กวีประชาไท
สักวันจะลองเป็นบ้าละความปรารถนาฝันใฝ่เดิน เดิน ฉันจะเดินไปถึงไหนก็ให้รู้กัน
กวีประชาไท
* จุดดาวแดงแต่งกองทัพประชาไท ในความมืดขับทะมึนขึ้นไขแสง กาฬปักษ์ดักดานใกล้เปลี่ยนแปลง แจ้งกระจ่างโดยตีนราษฎรเดิน
กวีประชาไท
โดยน้ำค้างเดื่อนฟ้า               ผลัดละอองเกาะนิ่งแวววาวรอง                ฉ่ำแล้งตามพื้นพุ่มพฤกษ์ผอง            ผืนแผ่นลุกตื่นย่ำเยื้องแย้ง                อย่างเช้าชื่นทวน ฯลฯ
กวีประชาไท
ขอเธอเป็นเช่นดวงดาวที่พราวแสง                   เด่นสีแดงพร่างฟ้าเวหาหนสาดแสงส่องทำลายล้างความมืดมน                เพื่อผองชนคนทุกข์ยากฝากชีวี
กวีประชาไท
สีคนรวมก่อขึ้น                 เป็นมา เล่าแลด้วยเชื่อถือศรัทธา             แกร่งกล้าบริสุทธิ์ดุจมหา -               กษัตริย์ พิศพึงกระทั่งทุกข์ทายท้า            ต่อนี้หน้าหลัง ฯลฯ เสียงสีที่มีไซร้                  ที่ขานไข ที่ใฝ่หวังจาก…