Skip to main content

เธอตายในเดือนกุมภา
เวลาตะแบกบานเต็มต้น
ลมหวนระรานกลีบบางร้าวรน
ที่สุดร่วงหล่นบนวิถีเดินทาง

ถนนสายนั้นทอดสู่ทิศใด
ตะวันลับหายหรือฟ้าใกล้สาง
เธอปล่อยมือฉันกลางแดดแสงจาง
ถอดความฝันวางอย่างไม่ตั้งใจ

อีกไกลแค่ไหนกว่าจะไปถึง
โลกสามัญซึ่งเธอฉันฝันใฝ่
ปลายทางธรรมดา...อยู่ไม่สูงแต่ไกล

เราสู้อยู่กับใคร...คำตอบอยู่ในสายลม

เธอจากฉันไปในฤดูร้อนอันแสนเศร้
เปลวแดดแผดเผาฝันเราปร่าขม
กี่นกเสรีที่ทุกข์ระทม
อหังการต้านลมซมร่วงอ่อนแรง

เธอคงอยากอยู่และอยากสู้ต่อ
อยู่เพื่อเฝ้ารอดูจันทร์ดวงนั้
นดับแสง
สิ้นยุคโบราณสู่การเปลี่ยนแปลง
ในคืนที่ลมฟ้าแล้ง...กลิ่นฝั
นเธอหอมไม่รู้จาง

หมื่นแสนคำลาและน้ำตาล้านหยด
ปลุกวิญญาณขบถตื่นเต็มนครแห่
งหวัง
ดั่งนกเสรีทอดร่างพลีลงเป็นทาง
จักไม่ถูกทิ้งร้างให้เก่าจางอย่
างเปล่าดาย

วิญญาณนกเสรีที่เธอทอดลงเป็นทาง
จักไม่ถูกทิ้งร้าง...ให้เก่
าจางอย่างเปล่าดาย
 
                                            เพียงคำ ประดับความ



หมายเหตุ: แด่...การจากไปของสองผู้สื่อข่
าวสาวเสื้อแดง: สุพิศ ศรีเจริญ และสลักจิต แสงเมือง
 
 
 

บล็อกของ กวีประชาไท

กวีประชาไท
เสียง อิ่มอดอ่อนล้า             โรยแรง ลือ    เล่าความจำแฝง          เหลื่อมเร้น เสียง ลือเล่าตายแหง           เสร็จส่ง เรื่องฤๅ เล่า   เจื่อนเก้อหน้าเฟ้น        เก่าพร้อมใหม่หยิม ฯลฯ
กวีประชาไท
  แล้วดอกจานบ้านนาก็ร่วงหล่น           จากแล้งฝนผ่านพ้นสู่เหน็บหนาว แสงตะเกียงดวงน้อยก็ดับยาว            สายลมหนาวพาความเศร้ายังบ้านนา
กวีประชาไท
สิ้นเดือนเดินทางมาพร้อมกับว่างเปล่า
กวีประชาไท
ยุคเยื้องกรายย่ำเท้า หนาวลึก สารสื่อเร่งรู้สึก ท่ารู้ ความเป็นอยู่ด้านนึก ตกดิ่ง แล้วฤๅ เรียกว่าต่างกลุ่มกู้ ชาติเชื้อชนผอง ฯลฯ
กวีประชาไท
  โบยตีฉันเถิดความทรงจำ บัดนี้, ฉันยอมจำนนต่อทุกสิ่งแล้ว ต่อวิญญาณอันพ่ายพังกับความฝันในเวิ้งแล้ง ทิ้งไว้เพียงรอยเท้าในดินทราย
กวีประชาไท
มาเยี่ยมเยือนเพื่อนเก่าคนเคยรัก มาไถ่ถามว่าเหนื่อยหนักและท้อไหม กับชีวิตกับเรื่องราวความเป็นไป เหล้าจอกนี้รินให้เพื่อนดื่มกิน
กวีประชาไท
หนึ่งหยดพรสวัสดิ์นี้          สุขสรรค์ หยดเผื่อไว้เอื้อปัน            ตื่นย้ำ โดยลุคลื่นคลี่นครร-         ลองคลื่น ที่นี่ที่อื่นล้ำ                     หยั่งปลื้มปรีดิ์ถึง ฯลฯ 
กวีประชาไท
คนตายก็ตายไป คนอยู่ก็อยู่ไป ชีวิตหนึ่ง..ก่อนสู่เชิงตะกอน  
กวีประชาไท
    อรุณรุ่งแห่งการต่อสู้ฉายฉานแจ่มชัด ดั่งจะบอกว่า “แนวทางของประชาชนก็คือแนวทางประชาชน ดั่งจะบอกว่า “แนวทางของเผด็จการก็คือแนวทางของเผด็จการ
กวีประชาไท
    จึงใฝ่ฝันถึงวันที่สวยงาม               หลังโมงยามทะเลคลั่งฟ้าสดใส ชุบชีวิตฟื้นตื่นจากเดียวดาย          ปลุกดวงดาวพร่างพรายกลับคืนมา
กวีประชาไท
หากไทยไม่รู้จัก              รากฐานชาติย่อมย่อยแหลกราน    ทุกครั้งคนทุกส่วนอาจหาญ         โหมหักปลุกคลั่งไคล้เผลอพลั้ง    พ่ายเพ้อนิรันดร ฯลฯ