Skip to main content

Colors of the World
ภาพประกอบจาก http://www.flickr.com/photos/poakpong/2074330653

 

แสงระบายเงาผ่านบานไม้เก่า
ใบหน้าฉันอยู่ในเงาแห่งห้องหมอง
ผ่านหน้าต่างบานนั้นฉันเฝ้ามอง
พลิ้วทำนองหล่นราย ใบไม้ชรา

เหนือระแนงดอกไม้บางชนิด
ผีเสื้อตัวน้อยนิดเล่นเริงร่า
กระหยับปีกผ่อนริ้วราวปลิวมา
กับสายลมปริศนาต้นเหมันต์

แสงหม่นลงทีละน้อยทีละน้อย
ผีเสื้อคล้อยเคลื่อนหาย - สายตาฉัน
ใบไม้เหลืองหล่นรายคล้ายเงียบงัน
สลับกันทับกล่นบนหนทาง

จากแผ่วแผ่วลมผิวปลิวม่านไหว
เพียงพลิ้วร่วงร่ายใบทีละร่าง
อากาศเริ่มเจือหนาวอยู่เบาบาง
ช่อดอกไม้ชูสล้างต่างสะเทือน

ณ ระแนงดอกไม้บางชนิด
หลายดอกดวงร่วงปลิดลงกล่นเกลื่อน
เหลืองที่ร่วงห่มทางก็ร้างเลือน
ฟุ้งขึ้นเหมือนผีเสื้อเหนือสายลม

ระส่ำระสายต้นไม้และพุ่มดอก
อากาศเย็นม้วนระลอกราวหมอกห่ม
ฉันขยับชันเข่า บนเก้าอี้กลม
กระชับแขนนิ่งชมนาฎการณ์

คล้ายได้กลิ่นดินหอมมาฉ่ำฉ่ำ
คลับคล้ายเมฆจะนำฝนมาผ่าน
เด็กเด็กรีบนำฝูงจักรยาน
กลับเข้าบ้านดั่งรู้อนาคต

กวิสรา
20 ตุลาคม 2550
เกือบบ่ายสองที่สายฝนจวนเจียนจะมาถึง

 

บล็อกของ กวีประชาไท

กวีประชาไท
เสียง อิ่มอดอ่อนล้า             โรยแรง ลือ    เล่าความจำแฝง          เหลื่อมเร้น เสียง ลือเล่าตายแหง           เสร็จส่ง เรื่องฤๅ เล่า   เจื่อนเก้อหน้าเฟ้น        เก่าพร้อมใหม่หยิม ฯลฯ
กวีประชาไท
  แล้วดอกจานบ้านนาก็ร่วงหล่น           จากแล้งฝนผ่านพ้นสู่เหน็บหนาว แสงตะเกียงดวงน้อยก็ดับยาว            สายลมหนาวพาความเศร้ายังบ้านนา
กวีประชาไท
สิ้นเดือนเดินทางมาพร้อมกับว่างเปล่า
กวีประชาไท
ยุคเยื้องกรายย่ำเท้า หนาวลึก สารสื่อเร่งรู้สึก ท่ารู้ ความเป็นอยู่ด้านนึก ตกดิ่ง แล้วฤๅ เรียกว่าต่างกลุ่มกู้ ชาติเชื้อชนผอง ฯลฯ
กวีประชาไท
  โบยตีฉันเถิดความทรงจำ บัดนี้, ฉันยอมจำนนต่อทุกสิ่งแล้ว ต่อวิญญาณอันพ่ายพังกับความฝันในเวิ้งแล้ง ทิ้งไว้เพียงรอยเท้าในดินทราย
กวีประชาไท
มาเยี่ยมเยือนเพื่อนเก่าคนเคยรัก มาไถ่ถามว่าเหนื่อยหนักและท้อไหม กับชีวิตกับเรื่องราวความเป็นไป เหล้าจอกนี้รินให้เพื่อนดื่มกิน
กวีประชาไท
หนึ่งหยดพรสวัสดิ์นี้          สุขสรรค์ หยดเผื่อไว้เอื้อปัน            ตื่นย้ำ โดยลุคลื่นคลี่นครร-         ลองคลื่น ที่นี่ที่อื่นล้ำ                     หยั่งปลื้มปรีดิ์ถึง ฯลฯ 
กวีประชาไท
คนตายก็ตายไป คนอยู่ก็อยู่ไป ชีวิตหนึ่ง..ก่อนสู่เชิงตะกอน  
กวีประชาไท
    อรุณรุ่งแห่งการต่อสู้ฉายฉานแจ่มชัด ดั่งจะบอกว่า “แนวทางของประชาชนก็คือแนวทางประชาชน ดั่งจะบอกว่า “แนวทางของเผด็จการก็คือแนวทางของเผด็จการ
กวีประชาไท
    จึงใฝ่ฝันถึงวันที่สวยงาม               หลังโมงยามทะเลคลั่งฟ้าสดใส ชุบชีวิตฟื้นตื่นจากเดียวดาย          ปลุกดวงดาวพร่างพรายกลับคืนมา
กวีประชาไท
หากไทยไม่รู้จัก              รากฐานชาติย่อมย่อยแหลกราน    ทุกครั้งคนทุกส่วนอาจหาญ         โหมหักปลุกคลั่งไคล้เผลอพลั้ง    พ่ายเพ้อนิรันดร ฯลฯ