Skip to main content

 

โลกใหม่ไหวเช้าเรายืนอยู่           
มองโลกทอดมองไกลออกไป       
โลกเก่าเราช้ำหรือชื่นฉาย           
ว่าในยุคสมัยเนิ่นนับนาน           
อันมิอาจต่อว่าชะตาลิขิต           
รองเรืองรัศมีโชติวะวับแวว           
ว่าก็ว่ากันไปโลกไหนใครครอง       
โลกเก่าโลกใหม่ล้วนในนาม       
สมดุลในวิถีเท่าเทียมฟ้า           
บางโลกเก่าแตกยับไปเป็นจุล       
คือการเดินทางข้ามภพ – แผ่นดิน       
มาอาศัยใบบุญคลื่นขบวน           
เจ็บปวดบอบช้ำจากภายใน           
มองไปข้างหน้าภาพเลือนราง       
ไม่รู้แล้ว ไม่รู้ ไม่เข้าใจ           
ถดร่างริมทางเหม่อเฝ้าคอย
 

รุ่งสางสร่างตรู่แสงสดใหม่
คล้ายหาสิ่งดลใจ – ปรากฏการณ์
หลากภาพผุดพรายแจ้งสถาน
สุข, ทุกข์ล้วนผ่านไปมากแล้ว
ด้วยชีวิตหวังวาดอันเพริดแพร้ว
ขับให้เน้นให้เห็นแนวความดีงาม
แห่งมนุษย์บางผองที่ขีดข้าม
การแสวงหาค่าความพอสมดุล
กาลเวลาปรากฏเพียงธุลีฝุ่น
บางโลกใหม่ต่อทุนมาเย้ยชวน
เมื่อถึงกาลสูญสิ้นแต่บางส่วน
ไม่ว่าควรไม่ควรแต่ไร้ทาง
ประหนึ่งหัวใจวายโหวงว่าง
วิญญาณยิ่งซีดจางและล่องลอย
โลกใหม่ไหวเช้าเราท้อถอย
ภาพที่จะสอดร้อยสองโลกนั้น
 

 

นาโก๊ะลี

บล็อกของ กวีประชาไท

กวีประชาไท
เสียง อิ่มอดอ่อนล้า             โรยแรง ลือ    เล่าความจำแฝง          เหลื่อมเร้น เสียง ลือเล่าตายแหง           เสร็จส่ง เรื่องฤๅ เล่า   เจื่อนเก้อหน้าเฟ้น        เก่าพร้อมใหม่หยิม ฯลฯ
กวีประชาไท
  แล้วดอกจานบ้านนาก็ร่วงหล่น           จากแล้งฝนผ่านพ้นสู่เหน็บหนาว แสงตะเกียงดวงน้อยก็ดับยาว            สายลมหนาวพาความเศร้ายังบ้านนา
กวีประชาไท
สิ้นเดือนเดินทางมาพร้อมกับว่างเปล่า
กวีประชาไท
ยุคเยื้องกรายย่ำเท้า หนาวลึก สารสื่อเร่งรู้สึก ท่ารู้ ความเป็นอยู่ด้านนึก ตกดิ่ง แล้วฤๅ เรียกว่าต่างกลุ่มกู้ ชาติเชื้อชนผอง ฯลฯ
กวีประชาไท
  โบยตีฉันเถิดความทรงจำ บัดนี้, ฉันยอมจำนนต่อทุกสิ่งแล้ว ต่อวิญญาณอันพ่ายพังกับความฝันในเวิ้งแล้ง ทิ้งไว้เพียงรอยเท้าในดินทราย
กวีประชาไท
มาเยี่ยมเยือนเพื่อนเก่าคนเคยรัก มาไถ่ถามว่าเหนื่อยหนักและท้อไหม กับชีวิตกับเรื่องราวความเป็นไป เหล้าจอกนี้รินให้เพื่อนดื่มกิน
กวีประชาไท
หนึ่งหยดพรสวัสดิ์นี้          สุขสรรค์ หยดเผื่อไว้เอื้อปัน            ตื่นย้ำ โดยลุคลื่นคลี่นครร-         ลองคลื่น ที่นี่ที่อื่นล้ำ                     หยั่งปลื้มปรีดิ์ถึง ฯลฯ 
กวีประชาไท
คนตายก็ตายไป คนอยู่ก็อยู่ไป ชีวิตหนึ่ง..ก่อนสู่เชิงตะกอน  
กวีประชาไท
    อรุณรุ่งแห่งการต่อสู้ฉายฉานแจ่มชัด ดั่งจะบอกว่า “แนวทางของประชาชนก็คือแนวทางประชาชน ดั่งจะบอกว่า “แนวทางของเผด็จการก็คือแนวทางของเผด็จการ
กวีประชาไท
    จึงใฝ่ฝันถึงวันที่สวยงาม               หลังโมงยามทะเลคลั่งฟ้าสดใส ชุบชีวิตฟื้นตื่นจากเดียวดาย          ปลุกดวงดาวพร่างพรายกลับคืนมา
กวีประชาไท
หากไทยไม่รู้จัก              รากฐานชาติย่อมย่อยแหลกราน    ทุกครั้งคนทุกส่วนอาจหาญ         โหมหักปลุกคลั่งไคล้เผลอพลั้ง    พ่ายเพ้อนิรันดร ฯลฯ