Skip to main content



อาจขณะหนึ่งคล้ายสุนทรีย์อันวิสุทธิ์
ร่องทางกระแสธารอันวกวน
ประกาศความนัยนั้นไม่พลาดผิด
ทุ่มเทไปเท่าไรมาช้านาน
ดื่มด่ำเรื่องราวและโลกพร้อม
เคลื่อนทางวางวิถีแท้สัจจะ  
เข้าใจในปรากฏการณ์สดใหม่ 
ครุ่นคิด จากนี้ทางที่ทอดยาว



หรือทั้งหมดง่ายดายเพียงนั้น
หากเพียงเท่านั้นภาพภายในวาวแวว   
เพราะเพื่อวางตัวตนบนวิถีโลก
มนุษย์อาจเพียงเพิ่มสีสันในภาพเลือนราง
ยิ่งไม่อาจหลงใหลในผลสำเร็จ
รับรู้เผชิญหน้าความมั่นใจ ความท้อทน 



สุนทรียภาพคือความงามและโทรมทรุด               
เห็นความจริงในคลื่นแห่งมายา



แม้ไม่มีอะไรง่ายดายเกินไปนัก
ขอให้ก้าวทุกก้าวที่ดุ่มเดิน


กลางคลื่นมวลมนุษย์อันสับสน
คล้ายการสืบค้นประสบสำเร็จการณ์
กรุ่นกำจายชีวิตอันหอมหวาน
ทั้งหมดแล้วก้าวผ่านสู่อารยะ
คุกเข่านอบน้อมต่อสถานะ
มั่นใจในวาระเรียนรู้ทุกเรื่องราว
เห็นความยิ่งใหญ่แผ่นดินสุดห้วงหาว
ก้าวเดินแต่ละก้าวงดงามแล้ว



ใช่ลุ่มหลงเพ้อฝันบรรเจิดเพริดแพร้ว
อาจเพียงลมหอบแผ่วพัดผ่านทาง
ท่ามกลางสุข โศก รื่นรมย์ อ้างว้าง
ไว้เสริมส่วนที่เปราะบางของตัวตน
เมื่อในจริงมีเท็จจากเหตุและผล
เข้าใจแท้เล่ห์กลของอัตตา



ในวิถีอันวิสุทธิ์แสวงหา
เฝ้ามองมันซึ่งหน้าเพื่อกล้าเผชิญ



จึงทำความรู้จักอย่างมิใช่ผิวเผิน
พร้อมรับการเชื้อเชิญชีวิต โลก จักรวาล

นาโก๊ะลี

บล็อกของ กวีประชาไท

กวีประชาไท
บทกวีจาก กวีราษฎร และกวีรากหญ้า ถึง สมัคร สุนทรเวช
กวีประชาไท
14 พย 52 ถึงพี่สาวผู้จากไปไกลลับหล้า มีนามว่าเจ้ขกชกหมัดตรง พี่ยืนหยัดซัดเจ๊กลิ้มยิ้มอย่างทะนง พี่ช่างองอาจหาญกล้าสง่างาม
กวีประชาไท
    เจ้านกขวัญแก้ว ดึกดื่นแล้วยังหลงไพร เจ้าเกิดเติบโตอย่างไร หัวใจจึงถูกขังกรง  
กวีประชาไท
เคยย้อนถามตัวเองบ้างหรือเปล่า                 ที่ผ่านมาใครเล่าทำฉิบหาย ผืนแผ่นดินร้าวร้อนลุกเป็นไฟ                     ฝีมือใครวายวอดทุกวี่วัน
กวีประชาไท
    ในนามของความจน                    กูคือ ผู้ทุกข์ทนแห่งยุคสมัย เลือดและเนื้อหลั่งรินไป               กองกระดูกน้ำตาใครมหึมา
กวีประชาไท
ในบรรดาทุกข์ทั้งมวลที่ฉันมีอยู่ ให้ประตูทุกบานได้ขานแย้ม ในห้วงอับอารมณ์อันขื่นแซม ให้เติมแต้มตื่นหวังครั้งชีวิต ฯ
กวีประชาไท
สักวันจะลองเป็นบ้าละความปรารถนาฝันใฝ่เดิน เดิน ฉันจะเดินไปถึงไหนก็ให้รู้กัน
กวีประชาไท
* จุดดาวแดงแต่งกองทัพประชาไท ในความมืดขับทะมึนขึ้นไขแสง กาฬปักษ์ดักดานใกล้เปลี่ยนแปลง แจ้งกระจ่างโดยตีนราษฎรเดิน
กวีประชาไท
โดยน้ำค้างเดื่อนฟ้า               ผลัดละอองเกาะนิ่งแวววาวรอง                ฉ่ำแล้งตามพื้นพุ่มพฤกษ์ผอง            ผืนแผ่นลุกตื่นย่ำเยื้องแย้ง                อย่างเช้าชื่นทวน ฯลฯ
กวีประชาไท
ขอเธอเป็นเช่นดวงดาวที่พราวแสง                   เด่นสีแดงพร่างฟ้าเวหาหนสาดแสงส่องทำลายล้างความมืดมน                เพื่อผองชนคนทุกข์ยากฝากชีวี
กวีประชาไท
สีคนรวมก่อขึ้น                 เป็นมา เล่าแลด้วยเชื่อถือศรัทธา             แกร่งกล้าบริสุทธิ์ดุจมหา -               กษัตริย์ พิศพึงกระทั่งทุกข์ทายท้า            ต่อนี้หน้าหลัง ฯลฯ เสียงสีที่มีไซร้                  ที่ขานไข ที่ใฝ่หวังจาก…